การจัดห้องขนาดเล็ก เป็นอีกปัญหาสุด Challenge เลยสำหรับคนที่มีพื้นส่วนตัวเล็กๆ อย่างการอยู่คอนโด ยิ่งอยู่นานไปเท่าไหร่ ข้าวของเครื่องใช้ก็มีแต่เพิ่มพอกพูนขึ้นไปเรื่อยๆ เลยล่ะ จะตัดใจทิ้งไปแต่ละชิ้นก็ยากแสนยาก โดยเฉพาะคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ ก็จะเพิ่มความลำบากขึ้นไปอีก ไหนจะเรื่องกลิ่นอับเอย ความสะอาดเอย แถมเจ้าตัวเล็กก็ซนแสนซนคอยเอาของไปแทะเล่นอยู่เรื่อย กระจุยกระจายไปหมด T_T

วันนี้ Estopolis มีไอเดียมาฝากสำหรับคนอยู่คอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ จากกระทู้พันทิปดังของคุณ MHEESKA มาฝากค่ะ ว่าการใช้ชีวิตในพื้นที่ส่วนตัว ห้องนอนเล็กๆ กับเจ้าเหมียวตัวแสบทั้ง 7 ตัว กับกระต่ายอีก 1 จะเป็นอย่างไรบ้าง และมีวิธีจัดการดูแลห้องให้สะอาดอย่างไร มาดูกันเลยค่ะ

ขนแมวเป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจจริง แต่ถ้าเราดูแลให้ถูกสุขลักษณะ ก็สามารถป้องกันอันตรายนั้นได้ค่ะ

เวลานอน แมวนอนตรงไหนเนี่ย นอนกันได้หรอ คำตอบอยู่ในภาพค่ะ เราไม่เคยมีปัญหากับแมวในเรื่องของการนอนหลับ (หัวดำๆ นั่นหัวเราค่ะ)

วิธีดูแลความสะอาดของห้องขนาดเล็ก

1. กวาดห้อง ดูดฝุ่น ถูพื้น:

เครื่องดูดฝุ่นจำเป็นมากต่อห้องที่เลี้ยงสัตว์ค่ะ เพราะสามารถดูดขนสัตว์เส้นเล็กๆ ทิ้งได้ ส่วนการถูพื้นห้องก็สำคัญ มันจะทำให้ขนแมวที่ติดอยู่กับพื้นถูกเช็ดล้างไปพร้อมผ้าที่เราถูนั่นเอง

กิจวัตรประจำวัน

เช้า-เย็น ที่สำคัญคือเรากวาดห้อง ดูดฝุ่น เก็บอึแมว ทุกเช้า-เย็น

กลางวัน เวลาไปทำงานก็จะเปิดหน้าต่างห้องไว้ไม่ให้ห้องอับ

ถ้าวันไหนรู้สึกเหม็นอับก็จะใช้สเปรย์ดับกลิ่นช่วย

2. ความสะอาดของน้องแมว:

คอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ควรใช้การเลี้ยงระบบปิดเช่นเดียวกับคุณ MHEESKA ค่ะ อย่างมากก็คือให้แมววิ่งเล่นในตัวบ้าน (ห้องอื่นๆ เช่น ห้องรับแขก)

ไม่ปล่อยให้แมวออกไปนอกบ้านเลยค่ะ เพราะเห็บ หมัด ไวรัสต่างๆ จะมาพร้อมกับน้องแมวที่ออกไปเล่นนอกบ้านนี่แหละ

รวมถึงเราใช้สเปรย์อาบน้ำแมวหมั่นเช็ดตัวให้น้องแมวด้วย อีกทั้งยังหมั่นแปรงขนน้องแมว เพื่อสุขลักษณะที่ดีของคนและแมวไปพร้อมๆ กัน

ช่วงเวลาที่ลำบากจริงๆ ในการอยู่อาศัยห้องขนาดเล็กร่วมกับแมวคือ การทำงานที่โต๊ะค่ะ ภาพคือคำตอบ อะไรคือที่วางมือของดิชั้นคะ?

ขนาดนั่งดูหนัง ยังไม่รอดเลยค่ะ ดูอบอุ่นมาก แมวมาดูเป็นเพื่อนเต็มไปหมดเลย

แนะนำสัตว์เลี้ยงในห้อง

1. แมวสามสี "ปังปัง" แม่ใหญ่ในบ้าน เป็นแมวตัวแรกที่เก็บมาเลี้ยงค่ะ ตอนนั้นเลี้ยงแต่กระต่าย เดินไปซื้ออาหารกระต่ายแล้วเห็นที่ร้านเขียนว่า แมวแจกฟรีแปะกรงไว้ ถามเจ้าของได้ความว่า เก็บแมวจรมาจากใต้สะพานลอย น่าสงสาร อย่างน้อยก็ลองพามาหาบ้านดูก่อน เลยรับน้องมาเลี้ยงเป็นแมวตัวแรกในชีวิตค่ะ

สำหรับคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ ลองจัดโซนที่นอนนุ่มๆ หลายๆ มุมให้น้องได้นอนกันดูนะคะ การจัดห้องขนาดเล็กอาจลองหามุมที่ให้สัตว์เลี้ยงของเราอยู่ใกล้ๆ เราเวลาทำงาน หรือกิจกรรมต่างๆ จะทำให้น้องเค้ารู้สึกอุ่นใจมากขึ้นค่ะ

แต่ถึงเราจะตกแต่งห้องสวยๆ ให้เจ้าตัวแสบทั้งหลายนอนซะดิบดี ก็ดันแอบมานอนผิดที่ผิดทางอยู่ดีใช่มั้ยคะ ฮ่าๆ

2-3. "สีหมอกกับเปื้อนฝุ่น" สองเดือนต่อมา ที่ร้านขายอาหารสัตว์ร้านเดิม situation เดิมเป๊ะๆ แต่รอบนี้มาเป็นพี่น้องค่ะ สีหมอกคือแมวสีเทาน้ำตาล และเปื้อนฝุ่นคือแมวขาวแต้มสามสี สองตัวนี้เกิดมาในครอกเดียวกัน อยู่ใต้สะพานลอยเหมือนกัน มีแนวโน้มว่าจะมีแม่ตัวเดียวกับปังปังด้วย (ตอนนั้นพักอยู่หอแถวประชาอุทิศค่ะ แมวแถวนั้นก็มีไม่กี่ตัว เดาได้ไม่ยาก) ไม่ค่อยมีรูปหน้าตรงเปื้อนฝุ่นนะคะ แมวกลัวกล้อง

4. "ปิโก้" อีกประมาณสองเดือนต่อมาเช่นกัน ที่ร้านเช่าการ์ตูนแถวหอพัก ระหว่างที่กำลังเลือกหนังสือ ได้ยินเสียงเมี้ยว ก็ช่วยกันหากับเจ้าของร้านว่ามีแมวอยู่ตรงไหนในร้าน ปรากฎว่านางไปติดอยู่ในซอกระหว่างชั้นหนังสือ ไม่รู้ว่าเข้ามาตอนไหน ตอนนั้นค่อนข้างถูกชะตาเพราะแมวตัวนี้ลายสลิดสวยมาก และยังไม่มีแมวสีเข้มด้วย 

ถึงจะนอนบนเตียงของเราก็ไม่มีปัญหาเรื่องขนร่วงมากมายนัก เพราะใช้เครื่องดูดฝุ่นทำความสะอาดอยู่ตลอด ที่สำคัญการดูแลสุขภาพของน้องๆ ให้ดี ไม่ว่าจะเป็นความสะอาด การกิน ถ้าสุขภาพน้องแมวแข็งแรงก็จะไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องขนร่วงค่ะ ยังนุ่ม น่าฟัดน่ากอดอีกด้วย

5-6. "จ้มกับเจื๋อ" หลังจากเลี้ยงแมว 4 ตัวมาร่วมปี ตอนนั้นคือช่วงน้ำท่วมปี 2554 ค่ะ เจ้าปังปังแม่ใหญ่หลุดออกไปจากบ้าน ตอนนั้นร้องห่มร้องไห้จะเป็นจะตายมาก สุดท้ายนางกลับมา โดยมีตัวผู้มาส่ง!!! (จะเป็นลม ยังไม่ได้ทำหมัน)

แล้วก็ตามคาดค่ะ ปังปังท้อง 3-4 เดือนต่อมานางก็ให้กำเนิดลูกแมวยักษ์อีก 2 ตัว ตอนที่ก่อนคลอดนั้นตั้งใจไว้แล้วว่าเมื่อคลอดจะหาบ้านให้ลูกแมว แต่พอกลับบ้านมาเห็นนางคลอดลูก เราก็ผูกพันกับเจ้าสองตัวนี้ไปโดยปริยาย 

คิดชื่อไม่ออกเลยเรียกว่า "ส้มกับเสือ" ตามสีตัว แต่เรียกส้ม ส้มก็ไม่มา เรียกเสือ เสือก็ไม่มา เลยลองเรียกเสียงสูงเป็น "จ้มกับเจื๋อ" ปรากฎว่านางวิ่งมาหาค่ะ สองตัวนี้เลยชื่อ จ้ม กับ เจื๋อ ไปแทน

งาน DIY ชุดให้กับสัตว์เลี้ยงก็เป็นอีกกิจกรรมที่น่าลองเลยนะคะ นอกจากเจ้าเหมียวของเราจะน่ารักแล้ว ช่วยเติมสีสันให้กับการแต่งห้องขนาดเล็กๆ ของเรามากขึ้นด้วย

7. "ตัวแสบ" ปิดท้ายด้วย น้องใหม่ป้ายแดงล่าสุด อันเนื่องจากพี่ชายและแฟนของพี่ชายได้ค้นพบลูกแมว หน้าตามอมแมม วิ่งหาอาหารอย่างสะบักสะบอมอยู่แถวๆ บ้านของแฟนพี่ชาย เลยช่วยกันจับแล้วพาไปหาหมอ ทั้งสองคนถูกชะตาแมวตัวนี้เป็นพิเศษ แต่บ้านแฟนพี่ชายเลี้ยงหมาใหญ่อยู่แล้ว จึงเอามาให้เราดูแล (ไม่ปรึกษากันก่อนเลย T_T)

เราเลี้ยงมาเรื่อยๆ แบบยังไม่คิดชื่อ แต่ตั้งแต่เลี้ยงแมวมา ไม่เคยเจอแมวที่ซนบ้านแตกขนาดนี้ เลยตั้งชื่อว่า "ตัวแสบ" ดูจากภาพได้ค่ะ พัดลมนั่นติดอยู่บนพนัง นางปีนขึ้นไปนอนบนพัดลมค่าาาา! ปลดล็อกทุกสัมผัสแห่งการนอน

หากมีกรงสัตว์เลี้ยง ก็ควรทำความสะอาดอยู่เสมอเช่นกันนะคะ ไม่งั้นจะกลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคและแบคทีเรียได้

สุดท้ายขอปิดท้ายด้วยพี่ใหญ่สุดในห้องจริงๆ คือพี่ "ลูน่า" ค่ะ กระต่ายน้อยตัวเดียวของเรา ก่อนหน้านี้ลูน่ามีเพื่อนอีกสองตัวคือ "มอคค่า" และ "แรมโบ้" แต่สองตัวนั้นออกเดินทางล่วงหน้าไปดาวกระต่ายได้สองปีแล้ว เคยไปช่วยเหลือกระต่ายโดนทิ้งอีกสองตัว แต่ก็หาบ้านใหม่ได้ในปีแรกที่รับเลี้ยงมา 

สรุป

สำหรับคนอยู่คอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ หรืออยู่ในห้องที่มีสัตว์เลี้ยง ควรปฏิบัติดังนี้ค่ะ

1. รักษาความสะอาดห้องอยู่เสมอ

2. ดูแลสัตว์เลี้ยงของเราให้สุขภาพดี

3. การตกแต่งห้องคอนโด หรือห้องขนาดเล็ก ควรจัดให้เป็นโซนแยกๆ กัน มีมุมให้สัตว์เลี้ยงของเราได้นอนเล่นหลายๆ มุม 4. การวางของตกแต่งห้อง โดยเฉพาะของที่ตกแตกง่ายควรติดกาวสองหน้า หรือวางไว้ลึกๆ 

5. ของที่สัตว์เลี้ยงของเราชอบรื้อมาเล่น ควรมีกล่อง หรือลิ้นชักใส่ให้เป็นระเบียบเรียบร้อย เช่น กล่องทิชชู่ ลิ้นชักใส่เอกสาร เป็นต้น

เป็นไงบ้างคะสำหรับการรีวิวการใช้ชีวิตในห้องขนาดเล็กกับบรรดาสัตว์เลี้ยงน่ารักน่าเอ็นดูแบบนี้ ถ้าเอาไปใช้แต่งห้องของตัวเองแล้ว เอามาอวดกันได้ที่แฟนเพจ Facebook : Estopolis ได้นะคะ 

สำหรับคนที่มองหาคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ คลิกเลย รวม 5 คอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ เอาใจทาสน้องแมวน้องหมา

บทความที่เกี่ยวข้อง เก็บให้เรียบ!!! เปลี่ยนห้องรกๆ ให้เป็นระเบียบได้ด้วยตัวเอง

ข้อมูลจาก https://pantip.com/topic/33771123