บรรยากาศงานสัมมนา BIG12 Trends In Real Estate 2017
31 January 2560
แนวโน้มอสังหา และอนาคตธุรกิจอสังหาในประเทศไทย
เมื่อวันที่ 25 มกราคมที่ผ่านมา ESTOPOLIS ได้รวบรวมสรุปข้อมูลจากการเข้าร่วมสัมมนา BIG12 Trends In Real Estate ที่ Rembrandt Hotel Bangkok จัดโดย AIP ซึ่งภายในงานได้มีการปภิปรายร่วมกันของวิทยากรทรงคุณวุฒิ 4 ท่าน คือ ดร.ต่อวงศ์ เจนวิทย์การ จาก SC ASSET, คุณพนม กาญจนเทียมเท่า กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย), Mr.Denis Nemtsev CEO Hipflat และ Mr.Jostein Aksnes จาก FindYourSpace ผู้เข้าร่วมฟังสัมมนาก็มีทั้งนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ นักลงทุน Developer ผู้พัฒนาโครงการ และผู้ที่สนใจเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก
เนื้อหาที่พูดคุยกันภายในงานก็มีการกล่าวถึงสภาวะตลาดธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบัน ซึ่งร่วมทั้งแนวราบ บ้าน ทาวน์เฮาส์ แนวสูง คอนโดมิเนียม และอาคารสำนักงาน รวมถึงที่ดิน และ BIG Trends ในวงการอสังหาฯด้วย โดยผู้เชี่ยวชาญทั้ง 4 ท่านก็ได้ให้ความเห็นกับตลาดอสังหาฯทั้งใน ASEAN และประเทศไทยในปัจจุบันว่า ทิศทางของอสังหาในไทยยังไปได้ โดยเฉพาะการเปิดอาเซียนและการเข้ามาลงทุนจากต่างประเทศ
โดยผู้ร่วมอภิปรายได้ตอบคำถามของผู้เข้าฟังสัมมนาและพูดถึงตลาดคอนโดมิเนียมในช่วงนี้ว่าจะเห็นการเปลี่ยนแปลงของโครงการที่จะมีโครงการคอนโดมิเนียม ทั้งระดับ Economy และ Luxury จากกระแสของข่าว Developer สมาคม หรือวงการอสังหาที่จัดทำงานวิจัยของตัวเอง ซึ่งผู้ซื้อก็ต้องวิเคราะห์ข้อมูลตามความแตกต่างของการพัฒนาโครงการ ทำเล และพื้นที่ของอสังหาฯนั้นๆ ซึ่งอาจจะสังเกตุได้จากการเพิ่มขึ้นของความต้องการที่อยู่อาศัยจากภาวะทางเศรษฐกิจและการลงทุน เมื่อมาพูดถึงผู้พัฒนาโครงการอสังหาฯต่างๆที่มีการเปิดตัวโครงการใหม่ๆออกมาเรื่อยๆ ตลาดการขายและพัฒนาโครงการอสังหาซึ่งต้องพิจารณาจากการหาที่ดินและทำเลที่ตั้งของโครงการ ซึ่ง Developer มักจะดูโอกาสในส่วนนี้ก่อนเสมอ จะเห็นได้ว่ามีโครงการคอนโดมิเนียมระดับ Super Luxury ที่กำลังมาเปิดตัวตามกันมาเรื่อยๆในย่านสุขุมวิท ด้วยราคาขายอยู่ที่ตารางเมตรละ 3 แสนบาทหรือมากกว่า และพูดถึงพื้นที่ในย่านสุขุมวิทเอง ก็ยังคงมี Demand ความต้องการคอนโดมิเนียม Grade A อยู่ ซึ่งทำให้ยังคงมีโครงการเปิดใหม่เพื่อเติมสินค้าที่ยังไม่มีในตลาดมากนัก
อีกสิ่งที่ต้องพูดถึงสำหรับวงการอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่ใช่หมายถึงตลาดที่พักอาศัยเท่านั้น แต่ในปัจจุบันตลาด Office Building อาคารสำนักงานก็เป็นที่ต้องการของตลาดเช่นกัน ซึ่งยังต้องการการพัฒนา เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด ให้เป็นไปในทางเดียวกับการที่เริ่มมีการลงทุนจากต่างชาติเพิ่มมากขึ้น
สำหรับ Big Trend ในการทำการตลาดของอสังริมทรัพย์ในปีนี้ Online Marketing อาจจะไม่ใช่เทรนด์ใหญ่หรือใหม่มากนัก เพราะDeveloper หรือAgent ส่วนใหญ่ก็ได้เริ่มใช้ช่องทางนี้กันอยู่แล้ว และเทรนด์ใหม่น่าจะอยู่ที่การจับตาของกระแส และสภาพเศรษฐกิจ แล้วหากลยุทธ์ใหม่ๆในการช่วงชิงส่วนแบ่งทางการตลาดมากกว่า
แม้จะมีกระแสข่าวว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเกิดปัญหาฟองสบู่…แต่ทาง Knight Frank คิดว่ายังไม่น่าจะเกิดปัญหาฟองสบู่ในปี 2017 นี้
และประเด็นที่ขาดไม่ได้ที่ผู้ร่วมเข้าฟังได้สอบถามสำหรับประเด็นฟองสบู่ของตลาดคอนโดมิเนียม ซึ่งทาง Knight Frank ก็ได้ให้ความคิดเห็นว่า แม้จะมีกระแสข่าวว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเกิดปัญหาฟองสบู่ แต่เมื่อมองลึกลงไปในแต่ละพื้นที่ตลาดก็จะพบการแข่งขันระหว่าง Developer เพราะการเปิดขายโครงการโดยเฉลี่ยส่วนใหญ่ก็จะใช้เวลาอยู่ที่ประมาณ 2-3 ปี และในส่วนที่มีการแข่งขันสูงก็จะพบว่าประมาณ 20% ของห้องที่เปิดขายมีการจองหมด ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความต้องการที่ยังมีอยู่ หากจะมีปัจจัยที่ทำให้เกิดฟองสบู่ได้ก็อาจจะมาจากการที่ Developer ยังคงเปิดขายโครงการใหม่ออกมาอย่างต่อเนื่องโดยขาดการพิจารณาที่ดี แต่ปกติแล้วทางบริษัทผู้พัฒนาโครงการก็จะทำการประเมินศักยภาพทำเล หรือโครงการก่อนที่จะเปิดขายอยู่แล้ว จึงคิดว่ายังไม่น่าจะเกิดปัญหาฟองสบู่ในปี 2017 นี้ เพราะความต้องการสินค้ายังคงมีอยู่ และปริมาณสินค้าก็ยังไม่ถึงขั้นล้นตลาด และได้แนะนำว่าการซื้ออสังหาฯก็ต้องขึ้นอยู่กับความต้องการของเองว่าจะมีหลักการพิจารณาอย่างไรเพื่อให้คุ้มค่า และตรงกับความต้องการที่แท้จริงที่สุด