ชาร์จพลังใหม่ให้คอนโด เปลี่ยนห้องเดิมให้พร้อมอยู่เหมือนวันแรก
14 September 2560
ตรวจเช็คสภาพคอนโดของคุณกันสักหน่อย จะได้ไม่ต้องคอยโทรเรียกช่างมาซ่อมให้เสียสตางค์
ถึงชาว ESTOLIAN และมนุษย์คอนโดทุกคน วันนี้ ESTOPOLIS มีบทความดีๆ เกี่ยวกับการดูแลรักษาฟังก์ชั่นการใช้งานภายในคอนโด และวัสดุต่างๆที่เราใช้งานกันอยู่ทุกวัน มาเติมพลังให้คอนโดของเรากลับมาดูสดใสเหมือนห้องให้ พร้อมรับมือกับการใช้งานได้อีกในระยะยาว เพราะคอนโดหนึ่งห้องนั้นประกอบด้วยวัสดุและระบบต่างๆมากมาย ดังนั้นเมื่อเวลาผ่านไป ก็ย่อมต้องการการบำรุงรักษาเป็นธรรมดา และในบทความนี้เราจะมาพูดถึงการดูแลรักษาส่วนต่างๆภายในคอนโด จะได้ไม่ปล่อยเอาไว้นานไจนเกิดปัญหาเรื้อรังต้องเสียเงินไปจ้างช่างมาซ่อม
เช็คสภาพคอนโด สุขภาพพื้นและผนัง
โดยส่วนใหญ่แล้วพื้นที่ใช้ในคอนโดมิเนียมก็จะแบ่งเป็น 2 ประเภทหลักๆ คือพื้นไม้ จะเป็นไม้ลามิเนต เอ็นจิเนียริ่ง หรือไวนิลก็ตาม อีกอย่างหนึ่งคือพื้นกระเบื้องที่มักใช้ในห้องน้ำ ระเบียงและห้องครัว เราจะมาพูดถึงพื้นไม้กันก่อน พื้นคอนโดส่วนใหญ่ทักจะปูด้วยไม้ลามิเนต แม้เดี๋ยวนี้จะเริ่มเปลี่ยนเป็นเอ็นจิเนียร์ริ่งกรือไวนิลแล้ว แต่ก็ยังต้องให้ความใส่ใจในเรื่องของความสะอาดและความชื้น ต้องระวังอย่าให้มีน้ำหกบนพื้นนานๆ จะส่งผลต่อวัสดุพื้นในระยะยาวได้ ความถูพื้นให้เงางามอยู่เสมอ เพื่อรักษาหน้าไม้ที่ปิดผิวอยู่
ส่วนของพื้นกระเบื้อง กระเบื้องเซรามิคเป็นวัดุพื้นที่ดูแลรักษาง่ายเพราะมีความทน ยกเว้นการตกกระแทกจากของหนักๆ พื้นกระเบื้องโดยทั่วไปทำความสะอาดง่าย ควรทำความสะอาดบ่อยๆด้วยผ้าหรือไม้ถูพื้นชุบน้ำแล้วถู ไม่ควรใช้น้ำยาถูพื้นที่มีฤทธิ์รุนแรงมากเกินไป อาจไปกัดยาแนวระหว่างกระเบื้องทำให้เกิดช่องที่น้ำจะซึมเข้าไปใต้พื้นกระเบื้องได้
สำหรับเรื่องของผนังห้อง หากใครที่ติดวอลเปเปอร์ในห้องคอนโด พอเวลาผ่านไปนานๆเข้าก็อาจจมีการหลุดลอกออกมา ต้องคอยระวังเพราะอาจะเกิดจากความชื้นภายในผนัง ที่ต้องคอยตรวจเช็คหรือเรียกช่างมาดู แต่ถ้าเป็นการหลุดลอกตามอายุการใช้งานก็แล้วไป ส่วนใครที่เป็นผนังธรรมดา ถ้าอยากเปลี่ยนบรรยากาศในคอนโดดูบ้าง อาจจะลองไปหาวอลเปเปอร์ลายสวยๆมาติดดูได้ เป็นการผนอมผนังห้องไปด้วยในตัว
เช็คสภาพคอนโด ห้องน้ำ
สำหรับในห้องน้ำ เราควรตรวจเช็คอ่างล้างหน้า และท่อใต้อ่าง เพราะเป็นสิ่งที่เราใช้ทุกวัน โดยปกติแล้วอ่างล้างหน้าจะมีระบบน้ำที่ทำให้กลิ่นใต้ท่อไม่ขึ้นมาข้างบน ทั่วไปแล้วจะมี 2 ระบบ คือ แบบข้องอ และแบบกระปุก เราต้องระวังไม่ให้มีอะไรตกลงไปในระบบท่อนี้ เพราะจะทำให้เกิดการอุดตันและระบายร้ำได้ช้า ต้องคอยถอดท่อส่วนที่เป็นที่ดักกลิ่นออกมา ซึ่งสามารถถอดออกมาทำความสะอาดได้ ฉีดล้างสิ่งสกปรกที่อยู่ด้านในออก แล้วใส่กลับเข้าไปเหมือนเดิม
ต่อมาคือชักโครก หรือโถสุขภัณฑ์ โดยปกติจะมีหม้อน้ำด้านหลังสำหรับเก็บน้ำไว้ใช้งาน ซึ่งจะเป็นระบบปิดน้ำอัติโนมัติโดยใช้ลูกลอย และมีระบบน้ำล้นลงมาในโถเอง ซึ่งเมื่อใช้งานไปนานๆ หากระบบลูกลอยเสียอาจตะทำให้น้ำไม่ปิดเมื่อเต็มถังแล้ว เกิดน้ำไหลลงชักโครกตลอดเวลา เป็นสามารถให้เปลืองน้ำ ต้องคอยเช็คดู หากเสียก็เปลี่ยนชุดลูกลอยใหม่ และทำความสะอาดบ่อยๆ เพื่อไม่ให้เป็นที่สะสมของเชื้อโรค