นายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย เปิดเผยว่า ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีมูลค่าราว 5 แสนล้านบาท/ปี คิดเป็น สัดส่วน 12-13% ของจีดีพี อีกทั้งสามารถขับเคลื่อนธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องได้ประมาณ 2.9 เท่า

ปัจจุบันที่อยู่อาศัยได้มีการพัฒนาโดยการนำระบบเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ในการพัฒนาและสร้างอสังหาฯ มากขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคและเพิ่มคุณค่าให้กับโครงการ เช่น Prop Tech โดยผู้ประกอบการต้องมีการเรียนรู้และปรับตัวเพื่อให้ทัน และสร้างรากฐานธุรกิจอสังหาฯ เติบโตไปเรื่อยๆ โดยไม่หยุดนิ่ง เป็นการลดต้นทุนแต่ยังสร้างคุณค่าให้กับสิ่งแวดล้อม

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ควอลิตี้ เฮ้าส์ กล่าวว่า การพัฒนาที่อยู่อาศัยหัวใจสำคัญคือทำเล ปัจจุบันมีการพัฒนาโครงการตามแนวรถไฟฟ้า 5 สาย 79 สถานี และจะมีขยายเพิ่มเป็น 280 สถานี ซึ่งในช่วงปี 2563-2570 จะมีรถไฟฟ้า เพิ่มอีก 5 สาย

คาดการณ์ว่าเมื่อโครงการรถไฟฟ้าแล้วเสร็จจะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงด้านการพัฒนาอสังหาฯ ในหลายพื้นที่ เช่น สายสีส้ม ทั้งช่วงตลิ่งชัน-ศูนย์วัฒนธรรม ซึ่งเป็นการเพิ่มศักยภาพย่านฝั่งธนบุรี และช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี สามารถเชื่อมต่อโครงการไปยังพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) เป็นต้น อีกทั้งการ ขยายซีบีดีใหม่อย่างเช่นในย่านรัชดาฯ-พระราม 9 ซึ่งเป็นแหล่งงาน การที่มีรถไฟฟ้าสายสีส้มจะทำให้เดินทางเข้าเมืองมาทำงานสะดวกมากขึ้น

รวมไปถึงสถานีกลางบางซื่อจะช่วยทำให้การเดินทางเข้า-ออกนอกเมืองและในใจกลางเมืองสะดวกขึ้น ช่วยถ่ายเทความแออัดของประชากรที่กระจุกตัวอยู่บริเวณศูนย์กลางเศรษฐกิจออกไปมากขึ้น จะเห็นได้ว่าเมื่อมีข่าวโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีไหนๆ ก็ตาม ทางผู้พัฒนาอสังหาฯ ก็ตามไปสร้างติดๆ เสมอ แต่ทั้งนี้ควรระมัดระวังด้วย เนื่องจากรถไฟฟ้าบางสายอาจมีซัพพลายสร้างอสังหาฯ มากเกินดีมานด์ของผู้ซื้อ ซึ่งเป็นสาเหตุก่อให้เกิดวิกฤตโอเวอร์ซัพพลาย  

ข่าวอสังหาริมทรัพย์