รูปบทความ ถึงจะเล็กก็อยากจะสวย แต่งห้อง Studio อย่างไรให้ลงตัว

ถึงจะเล็กก็อยากจะสวย แต่งห้อง Studio อย่างไรให้ลงตัว

สำหรับคนที่อาศัยอยู่ห้องแบบ Studio หรือกำลังสนใจจะเลือกซื้ออยู่ วันนี้ Esto จะขอแนะนำไอเดีย เกร็ดความรู้เกี่ยวการแต่งห้องแบบ Studio ให้ได้รู้กันมากขึ้น และสำหรับคนที่สนใจแต่ยังไม่รู้เลยว่าห้องแบบ Studio เป็นยังไง ลองอ่านบทความนี้ดู เพราะเราสามารถช่วยให้เรื่องแต่งห้อง Studio ในอนาคตเป็นเรื่องง่ายขึ้นได้


ก่อนจะเข้าสู่การตกแต่งเราต้องขออธิบายถึงลักษณะ ข้อดี ข้อเสียของห้องแบบ Studio ให้ทราบก่อน ห้อง studio คือห้องที่ไม่ได้มีการกั้นโซนระหว่างห้องนอนกับห้องรับแขกหรือกับโซนครัวนั่นเอง สรุปง่ายๆ คือเป็นห้องโล่งๆ ไม่มีการกั้นเหมือนกับห้องพักในโรงแรมนั่นเอง


ข้อดี-ข้อเสียของห้องคอนโดแบบ Studio



ข้อดี

ราคาถูก : เมื่อทำการเปรียบเทียบกับห้องแบบอื่น ห้องแบบ Studio มักจะมีราคาที่ถูกกว่า เหมาะสำหรับคนที่มีกำลังทรัพย์น้อย หรืออยากประหยัดงบไว้สำหรับเพื่อตกแต่งห้อง

อิสระในการตกแต่ง : ด้วยลักษณะที่เป็นห้องโล่งๆทำให้การตกแต่งมีความยืดหยุ่นได้พอสมควร ซึ่งนั่นหมายถึงเราสามารถออกแบบกั้นห้องเพิ่มได้หากมีความต้องการ ด้วยเฟอร์นิเจอร์ ม่านหรือผนังเบาต่างๆ ตามงบและคสามเหมาะสมกับการใช้งานของเราเอง

ทำความสะอาดง่าย : ด้วยลักษณะห้องที่เป็นห้องโล่งถึงกันทุกสัดส่วน และไม่มีเหลี่ยมหรือมุมห้องเยอะ ทำให้เวลาทำความสะอาดจึงมีความง่าย และสะดวกมากกว่าห้องที่มีการแบ่งออกเป็นหลายๆ ห้อง


ข้อเสีย

ความอึดอัด : แม้ว่าห้องแบบStudioจะโล่ง แต่ถ้าไม่ได้เป็นห้องที่กว้างและยังมีการจัดเฟอร์นิเจอร์เต็มห้อง ก็จะไม่สามารถหนีปัญหาความอึดอัดที่จะเกิดขึ้นได้

ความเป็นสัดส่วนและส่วนตัว : เมื่อเป็นห้องโล่ง การมีพื้นที่ห้องนอน รับแขก และครัวเชื่อมต่อทะลุถึงกันไปหมด จึงทำให้ภาพรวมของห้องขาดความเป็นสัดส่วน และส่วนตัวไปหากมีผู้พักอาศัยมากกว่า 1คน หรือหากมีแขกมาเยี่ยมเยียน

พื้นที่เก็บของน้อย : อย่างที่ทราบห้องแบบStudio มักจะมีขนาดห้องที่เล็ก ทำให้พื้นที่เก็บของต่างๆอาจจะมีไม่มากพอ หรือไม่เหมาะสมกับผู้อยู่อาศัยที่มีนิสัยชอบสะสม หรือมีของกระจุกกระจิกเยอะ


เทคนิคการแต่งห้องคอนโดแบบ Studio

ในส่วนของการตกแต่ง เรามีเทคนิคมาแนะนำด้วยกัน 2 เรื่อง คือเรื่องเฟอร์นิเจอร์ และการแบ่งห้องให้เป็นสัดส่วนด้วยการกั้นห้อง ส่วนรายละเอียดจะเป็นยังไงบ้างนั้น ไปเริ่มอ่านกันได้เลย


เฟอร์นิเจอร์ ที่พอดีกับการใช้งาน

การซื้อเฟอร์นิเจอร์ให้กับห้องที่มีพื้นที่จำกัดนั้น เราควรทำการลิสต์รายการความต้องการ กับขนาดพื้นที่ของเราออกมาให้ชัดเจน เพราะจะช่วยให้เราเลือกขนาดเฟอร์นิเจอร์ได้ตรงความต้องการ ทั้งนี้ขนาดเฟอร์นิเจอร์น้องจากจะต้องตรงกับคสามต้องการของผู้พักอาศัยแล้วยังต้องคำนึกถึงขนาดห้องด้วยว่ารองรับได้มั้ย เล็กหรือใหญ่ไปหรือเปล่า


เตียงนอนสำหรับห้องสตูดิโอ


Single Size (เตียงนอนแบบเดี่ยว) ขนาดประมาณ 107×200 ซม หรือ3.5×6.5ฟุต เป็นเตียงสำหรับนอนคนเดียว เหมาะกับห้องที่มีพื้นน้อย หรือแคบ


Queen Size (เตียงนอนแบบคู่) ขนาดประมาณ 150x200 ซม หรือ5×6.5ฟุต เป็นขนาดเตียงที่ได้รับความนิยมสำหรับการซื้อใช้ในคอนโด เพราะสามารถนอนได้ 1-2 คน ขนาดไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไป เหมาะกับห้องที่ต้องการเตียงใหญ่ ที่ไม่ทำให้รู้สึกอึดอัด และช่วยประหยัดพื้นที่ใช้สอยของห้องอยู่ด้วย


King Size (เตียงนอนแบบคู่) ขนาดประมาณ 180x200 ซม หรือ6×6.5ฟุต เป็นเตียงที่มีขนาดเหมาะสำหรับห้องสตูดิโอที่มีขนาดกว้าง (ควรไม่น้อยกว่า30ตรม.) เพราะจะไม่ทำให้ห้องแคบจนอึดอัดรวมทั้งไม่กินพื้นที่ใช้งานอื่นๆอีกด้วย

อ่านเพิ่มเติม : เลือกซื้อ ‘เตียงนอน’ อย่างไร ให้เข้ากับพื้นที่ภายในคอนโด


โซฟาสำหรับสตูดิโอ


โซฟาขนาด 2 ที่นั่ง ขนาดความกว้างไม่ควรเกิน 185 ซม. เหมาะสำหรับห้องขนาดเล็ก ที่พื้นที่ไม่เกิน 25 ตร.ม. เพราะเป็นขนาดที่เหมาะที่สุดกับห้องขนาดเล็กที่มีพื้นที่จำกัด แต่อย่าลืมเลือกโซฟาที่มีฟังก์ชั่นเสริม เช่นมีช่องเก็บของที่สามารถดึงออกมาได้ หรือปรับนอนได้(โซฟาเบด) เพราะจะยิ่งช่วยให้ใช้งานพื้นที่ได้อย่างคุ้มค่ามากขึ้น


โซฟาขนาด 3 ที่นั่ง ขนาดความกว้างไม่ควรเกิน 230 ซม. เหมาะสำหรับห้องที่มีความกว้างพอประมาณ คือพื้นที่รวมแล้วมาก 25 ตร.ม. แต่ไม่เกิน 34 ตร.ม. แต่อย่าลืมคำนึงถึงสีหรือแบบของโซฟาให้เข้ากับการตกแต่งส่วนอื่นๆของห้องเราด้วย


โซฟาเข้ามุม ขนาดความกว้างไม่ควรเกิน 250 ซม. เหมาะสำหรับห้องสตูดิโอขนาดใหญ่ หรือห้องที่มีพื้นที่ให้จัดสรรการใช้งานมากพอ หรือพื้นที่กว้างประมาณ 35 ตร.ม. ขึ้นไป เนื้องด้วยโซฟาประเภทนี้สามารถทั้งนั่งและนอนได้จึงต้องวางในพื้้นที่กว้างพอ ไม่งั้นอาจจะทำให้ห้องคับแคบเกินไป


ทั้งนี้ นอกจากขนาดที่เหมาะสมแล้ว ในขณะที่คุณกำลังวางแผน หาซื้อโซฟาที่ถูกใจ การเลือกซื้อควรคำนึงถึงความชอบส่วนบุคคลของตัวเอง หรือสไตล์การตกแต่งที่เลือกไว้ด้วย เพื่อให้มีทั้งประโยชน์การใช้งานและความสวยงาม

อ่านเพิ่มเติม : โซฟาแบบไหนที่ใช่สำหรับคุณ? เทคนิคการเลือกซื้อโซฟาให้เข้ากับคอนโด


โต๊ะอาหารและเก้าอี้สำหรับห้องสตูดิโอ


โต๊ะอาหาร ถือเป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่สำหรับที่พักอาศัยประเภทคอนโด แต่ถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่จำเป็นต้องมี ดังนั้นควรให้ความใส่ใจในการเลือกซื้อเพื่อให้ลงตัวกับการใช้งาน และลงตัวกับพื้นที่ห้องคอนโดของเราด้วย


ขนาดและสัดส่วนของโต๊ะกับเก้าอี้

ขนาดโต๊ะมาตรฐานจะมีความสูงอยู่ที่ประมาณ 75 เซนติเมตร ส่วนเก้าอี้มาตรฐานทั่วไปจากพื้นถึงที่นั่งหรือเบาะจะสูงประมาณ 45 เซนติเมตร ดังนั้นเมื่อลองนั่งดูแล้วลองวัดระยะจากตัวเรากับขอบโต๊ะ ถ้าความห่างไม่เกิน 25 เซนติเมตร จะช่วยให้เวลาตักอาหารบนโต๊ะสะดวกไม่ต้องเอื้อมหรือยืนขึ้น


พื้นที่ว่างที่สัมพันธ์กับพื้นที่ตั้ง

โดยทั่วไปแล้วโต๊ะอาหาร ควรมีทีว่างโดยรอบที่สามารถเดินสวนกันได้ด้านละประมาณ 1-1.25 เมตร ดังนั้น ‘ที่ว่าง” จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเราทำการวัดพื้นที่ตั้งในห้องเราไปใช้ในการเลือกซื้อโต๊ะอาหาร เพื่อซื้อโต๊ะอาหารที่มีขนาดเหมาะสมกับพื้นที่ตั้งในห้องเรา


รูปทรงของโต๊ะ

รูปทรงของโต๊ะ เราควรเลือกมาจากเงื่อนไขต่างๆ ที่มี เช่น จำนวนสมาชิก ขนาดพื้นที่สำหรับวาง สไตล์การตกแต่งของห้องเป็นต้น สำหรับพื้นที่คอนโดที่มักมีคนอาศัยอยู่ 1-3 คน โต๊ะที่เหมาะสมก็คือ ทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส (ขนาดประมาณ1-1.2เมตร) และโต๊ะทรงกลม (ขนาดเส้นผ้าศูนย์กลางประมาณ 75 เซนติเมตร) เพราะรูปทรงกับขนาดประมาณนี้จะสามารถตั้งในคอนโดที่มีพื้นที่จำกัดและต้องใช้พื้นที่ร่วมกับพื้นที่อื่นๆ ในห้อง


แต่ถ้าหากห้องของคุณเป็นห้องสตูดิโอที่มีขนาดใหญ่ และมีผู้พักอาศัยมากกว่า 1-3 คน ก็สามารถที่จะเลือกซื้อโต๊ะที่มีขนาดใหญ่กว่านี้ หรือรูปทรงอื่นๆ เช่น ทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าก็ได้เพื่อให้ลงตัวกับการใช้งานและพื้นที่ของแต่ละคนที่แตกต่างกันไป


แบ่งห้อง เป็นสัดส่วน (ม่าน ผนังเบา เฟอร์นิเจอร์)

มี 3 ทางเลือกในการกั้นพื้นที่ห้องแบบสตูดิโอให้เป็นสัดส่วน มาแนะนำให้ลองนำไปเลือกใช้กันดูตามความชอบ ความเหมาะสมในการใช้งาน และกำลังทรัพย์ของแต่ละคน


กั้นพื้นที่ส่วนตัวด้วย “ม่าน”



สำหรับการจัดการพื้นที่ด้วย ม่าน นั้นถือเป็นวิธีที่ง่าย สะดวก ประหยัดเวลา รวมทั้งลงทุนน้อยที่สุด เพราะใช้เวลาในการติดตั้งไม่นาน และไม่ยุ่งยาก ส่วนราคาก็ขึ้นอยู่กับประเภทของม่านกับวัสดุของม่าน ทั้งหมดนี้คือข้อดีของการใช้ม่าน แต่ข้อเสียก็คือฝุ่นและความสกปรกที่จะเกิดขึ้นตามมา ดังนั้นการเลือกใช้ม่านสิ่งที่ตามมาคือควรทำความสะอาดเป็นประจำนั่นเอง ข้อแนะนำเพิ่มเติมอีกอย่างคือ ระดับของม่านที่ติดตั้งนั้นไม่ควรให้สูงเท่ากับระดับฝ้า ควรเว้นระยะเพื่อให้มีช่องสำหรับระบายอากาศภายในห้องด้วย


อ่านเพิ่มเติม : Decor Story : ‘ม่านดี’ ต้องมีมากกว่า ‘ความสวย’ รวมเทคนิคเลือกผ้าม่านให้ใช้งานได้จริง! ม่านคอนโด-เลือกแบบไหนดี-เลือกผิดชีวิตอาจเปลี่ยน


กั้นพื้นที่ส่วนตัวด้วย “เฟอร์นิเจอร์”



อีกวิธีหนึ่งที่เหมาะกับห้องแบบสตูดิโอที่มีพื้นที่จำกัดคือ การใช้เฟอร์นิเจอร์ เพื่อแบ่งสัดส่วนและกั้นพื้นที่การใช้งาน เช่นการใช้ตู้เสื้อผ้า ตู้หนังสือ ตู้โชว์ เป็นต้น ข้อดีของการใช้เฟอร์นิเจอร์คือในอนาคตสามารถปรับเปลี่ยนได้ง่าย หากต้องการเปลี่ยนพื้นที่การใช้งาน หรือต้องการพื้นที่เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งหากต้องการเปลี่ยนสไตล์การตกแต่งภายในของห้อง ส่วนข้อเสียของวิธีนี้คือ ความยืดหยุ่นของพื้นที่ ที่จะมีน้อยกว่าวิธีการใช้ผ้าม่าน


กั้นพื้นที่ส่วนตัวด้วย “ผนังเบา”



ผนังเบา คือผนังที่ก่อสร้างแบบติดตั้งวัสดุแผ่นใหญ่เข้ากับโครงเคร่า ถือเป็นผนังกั้นภายในที่ไม่ต้องมีคานมารองรับ จึงเหมาะกับการนำมาใช้ในคอนโด แต่ผนังเบาก็มีบางพื้นที่ที่ไม่เหมาะสมในการนำมาใช้งาน เช่น ห้องน้ำเพราะเมื่อเวลาผ่านไปอาจเกิดปัญาหน้ำซึมผ่าน จนทำให้ผนังเสียหายได้ นอกจากนั้นความสามารถในการเก็บเสียงจะมีน้อยกว่าผนังก่ออิฐฉาบปูน


วัสดุที่นิยมใช้ทำผนังเบา ได้แก่ กระจก ไม้อัด แผ่นยิปซั่ม แผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์ แผ่นไม้อัดซีเมนต์ แผ่นเซลโลกรีต ส่วนโครงเคร่า จะนิยมใช้โครงเหล็กรูปพรรณ โครงเหล็กชุบสังกะสี (กัลวาไนซ์) โครงไม้เนื้อแข็ง ดังนั้นเมื่อต้องทำการเลือกวัสดุต้องคำนึงถึงการใช้งานและงบประมาณของเรา ซึ่งสามารถศึกษาเพิ่มเติม หรือปรึกษานักออกแบบ ช่างก่อสร้าง เกี่ยวกับวัสดุแต่ละประเภทได้

อ่านเพิ่มเติม :

ตกแต่งคอนโดห้อง Studio ให้โดนใจคนเมือง

9 เคล็ดลับจัดเก็บเสื้อผ้า สำหรับคอนโดห้องสตูดิโอ

ไอเดียกั้นห้องสตูดิโอเล็กๆ แบบไม่ง้อผนัง! สวยประหยัด

ม่านคอนโด-เลือกแบบไหนดี-เลือกผิดชีวิตอาจเปลี่ยน


เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร...?

Related Stories

Esto Talks

See All >

Living out loud

Living out loud : VANA RESIDENCE พระราม 9 - ศรีนครินทร์