บริการหลังการขาย สำคัญยังไงกับการลงทุนอสังหาฯ
31 October 2560
นอกจากการเลือกทำเลที่ตั้ง รูปแบบโครงการ และนวัตกรรมเกี่ยวกับที่อยู่อาศัยต่างๆ แล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันแต่กลับเป็นจุดที่คนลงทุนด้านอสังหาฯ มองข้ามนั่นคือ การบริการหลังการขาย
การบริการหลังการขายเกิดขึ้นหลังจากการตัดใจซื้อหรือลงทุนอสังหาฯ ในโครงการนั้นๆ ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่เราจะแน่ใจได้อย่างไรว่า เราจะได้รับบริการหลังการขายที่ครบถ้วน เหมาะสมกับการจ่ายเงินซื้อหรือลงทุนกับคอนโด ? ในวันนี้ Estopolis ของเราจึงได้จัดทำเช็คลิสต์ของบริการหลังการขายที่ควรมีสำหรับคนอยากลงทุนซื้ออสังหาฯ ซึ่งมีทั้งหมด 5 ข้อด้วยกัน ดังนี้
ดูแลรักษา ซ่อมบำรุง คือหัวใจสำคัญของบริการหลังการขาย
นับเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการบริการเลยก็ว่าได้กับ การซ่อมบำรุงและรักษาหลังการขายของโครงการด้านอสังหาฯ ไม่ว่าจะเป็นบ้านหรือคอนโด เพราะโครงการที่ดีไม่ใช่ว่าขายออกแล้วจะทอดทิ้งลูกบ้านให้ต้องเผชิญหน้ากับปัญหาเพียงลำพัง หากมีอะไรเสียหายจะต้องยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ อาจจะมีการตระเตรียมช่างซึ่งมีการเทรนนิงตามมาตรฐานของโครงการไว้ สำหรับแก้ปัญหาและดูแลระบบการซ่อมแซมที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
ความปลอดภัยบริการหลังการขายที่น่าประทับใจ
ความปลอดภัย อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการเลือกลงทุนอสังหาฯ สักแห่ง เพราะคงไม่มีใครอยากจะอยู่อาศัยในบ้านหรือคอนโดที่ไร้การดูแลจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เพราะฉะนั้นควรตรวจสอบเรื่องนโยบายรักษาความปลอดภัยว่า นอกจากมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมงแล้ว ยังมีมาตรการอื่นๆ นอกเหนือจากนี้อะไรอีกบ้าง เช่น การติดตั้งกล้องวงจรปิด การจัดเวรยาม รวไปถึงการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาช่วยทำให้เรารู้สึกอุ่นอก อุ่นใจมากขึ้นหรือไม่? นิติบุคคลมืออาชีพ คือ บริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยม
นิติบุคคล ถือเป็นหน่วยงานส่วนกลางที่เป็นประเด็นสำคัญของคนลทุนซื้ออสังหาฯ เพราะถือเป็นกลุ่มคนที่ช่วยเหลือและบริหารความเป็นไปของโครงการ ลูกบ้านจะมีความสุขหรือได้รับประโยชน์ที่ถูกที่ควรหรืือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับนิติบุคคล ดังนั้นก่อนที่จะตัดสินใจซื้ออสังหาริมทรัพย์สักแห่งควรทำการบ้านเกี่ยวกับเรื่องนี้สักหน่อยว่า โครงการที่เรากำลังมองอยู่นี้มีชื่อเสียงเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไรบ้างนั้น
บริการฝากขาย-ปล่อยเช่า เอาใจคนซื้อเพื่อการลงทุนด้านอสังหาฯ
การบริการหลังการขายอย่างหนึ่งที่ทำให้ลูกค้าที่ต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนได้ประโยชน์ไปเต็มๆ คือ การอำนวยความสะดวกด้านการฝากขายหรือปล่อยเช่า เนื่องจากปัจจุบันการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ยังคงเป็นการลงทุนที่ได้ผลตอบแทนที่ดีกว่าการฝากธนาคาร และมีความเสี่ยงต่ำกว่าการลงทุนในตลาดหุ้น ทำให้เกิดบริการฝากขาย-ปล่อยเช่าแบบครบวงจร สำหรับนักลงทุนอสังหาฯ ทั้งหน้าใหม่และหน้าเก่า ก็ถือเป็นอีกหนึ่งบริการหลังการขายที่ช่วยจูงใจให้นักลงทุนอยากลงทุนกับโครงการเหล่านั้นมากขึ้น
บริการหลังการขายเพื่อสร้างชุมชนน่าอยู่
หากการลงทุนซื้ออสังหาฯ อาจจะเป็นบ้านหรือคอนโดสักแห่ง แล้วได้มากกว่าการอยู่อาศัยภายในห้อง แต่ได้ทั้งชุมชนการอยู่อาศัยที่ดีด้วย ก็คงจะเป็นสภาพแวดล้อมที่น่าอยู่ไม่น้อยเลย
หลายๆ โครงการด้านอสังหาฯ จึงนำความคิดด้านการพัฒนาชุมชนน่าอยู่เข้ามาเป็นจุดดึงดูดเหล่านักลงทุน ไม่ว่าจะเป็นการสร้างพื้นที่และสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย รายล้อมด้วยพื้นที่สีเขียว เป็นมิตรกับธรรมชาติ หรือจะเป็นการจััดกิจกรรมเพื่อร่วมรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อมและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีให้กับผู้อยู่อาศัยในโครงการ ก็ถิอเป็นอีกหนึ่งบริการหลังการขายที่ทำเพื่อสังคมมากกว่าการทำธุรกิจทั่วไป
ตัวอย่างบริการหลังการขายจากบริษัทชั้นนำ
ในปัจจุบันนี้เริ่มมีผู้พัฒนาชั้นนำหลายเจ้ารุกหน้าทำธุรกิจบริการหลังการขายอย่างเต็มตัว หวังเสริมรายได้หลักให้เติบโตขึ้นอย่างยั่งยืน อาทิ
บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ที่วางแผนดึงบริษัทพรีโม พร็อพเพอร์ตี้ โซเลชั่น เข้ามาหวังสร้างรายได้ ช่วยเสริมรายได้หลักให้แข็งแรงขึ้น ซึ่งปัจจุบันการทำธุกิจเกี่ยวกับบริการหลังการขาย หรือ after sale services จะดูแลงานบริหารโครงการที่อยู่อาศัยของตนเองแล้ว ยังรับหน้าที่บริหารโครงการทั่วไป ตลอดจนงานซ่อมบำรุง การรักษาความปลอดภัย นอกจากนี้ยังสะดวกในการควบคุมคุณภาพและภาพโครงการให้อยู่ในสภาพดีเหมือนเดิม
บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) ก็ให้ความสำคัญกับเรื่องคุณภาพบริการหลังการขาย เร่งเดินหน้าจัดตั้งบริษัท เอสซี เอเบิล จำกัด ขึ้นมาเพื่อบริหารจัดการงานซ่อมทั้งหมดของเอสซี แอสเสทฯ
นอกจากนี้ยังเปิด Able Academy สถาบันอบรมพัฒนาช่างฝีมือ และอบรมทีมรักษาความปลอดภัย (รปภ.)ที่ดูแลความปลอดภัยให้โครงการภายใต้เอสซีทั้งหมดด้วย ควบคู่กับพัฒนาแอพพลิเคชั่น ฟิกซิ (Fixzy) ที่รวบรวมสารพัดช่างอันดับหนึ่งของประเทศไทย ซึ่งช่างเหล่านี้จะได้รับการฝึกพัฒนาจาก Able Academy เพื่อดูแลลูกค้าของ SC พร้อมกับสร้างมาตรฐานใหม่ของการบริการหลังการขายของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย
บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ MQDC เจ้าของแบรนด์ แมกโนเลียส์ และวิสซ์ดอม ที่เพิ่งเปิดตัว บริษัท ดิ เอสเตท (ไทยแลนด์) จำกัด ที่จะมาช่วยด้านการบริหารการขายและให้เช่าแบบครบวงจร เริ่มตั้งแต่บริการให้คำปรึกษาในการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์แบบพิเศษส่วนตัว รวมไปจนถึงบริการย้ายเข้า-ออก
บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) จับมือกับ บริษัท แอคคิวท์ เรียลตี้ จำกัด เข้ามาช่วยลูกค้า ตั้งแต่การฝากขาย หรือปล่อยให้เช่า และการพัฒนา 360 Living-Agent แอพพลิเคชั่นที่เน้นมุ่งการเสริมประสิทธิภาพทางการตลาดให้ดียิ่งขึ้น ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ด้วยความทันสมัยและรวดเร็ว
จะเห็นว่ามีทั้งการบริการหลังการขายสำหรับผู้ซื้อเพื่อการอยู่อาศัย หรือเพื่อการลงทุนทั้งสองรูปแบบ เพื่อทำให้ลูกค้าผู้ลงทุนซื้ออสังหาฯ ได้รับประโยชน์และการบริการหลังการขายได้อย่างสูงสุด
ที่มา : http://www.thansettakij.com
