ESTOPOLIS | บริหารจัดการหนี้ของตัวเองให้ดี เพื่อสร้างรากฐานทางการเงินที่มั่นคง

จัดการชีวิต จัดการหนี้ เพื่อสถานะทางการเงินที่ดี ชีวีเป็นสุข

กลับมาพบกับ ESTOLIAN ผู้อ่านที่น่ารักทุกท่านอีกแล้ว คราวนี้มาตามสัญญา ที่เคยบอกว่าจะนำบทความเกี่ยวกับการบริหารจัดการหนี้สินมาฝากกัน หลังจากที่เคยพูดถึงเรื่องของการแบ่งประเภทหนี้กันไปแล้ว คราวนี้เราจะมาคุยกันถึงหนี้ที่มีอยู่ และเราจะมีวิธีการจัดการกับมันอย่างไร

เมื่อเราได้กระทำการก่อหนี้ขึ้นมาแล้ว ไม่ว่าหนี้นั้นจะเกิดจากความจำเป็นมากน้อยเพียงใดก็ตาม เราก็ต้องรับผิดชอบกับมันให้ได้ที่สุด ดังนั้น เรามาดูกันว่า ถ้าเรามีหนี้มากมายหลายก้อน จนเริ่มกลายเป็นภาระในชีวิตขึ้นมาแล้ว เราจะต้องทำอย่างไรบ้าง

ข้อควรรู้ในการบริหารหนี้

1. พยายามชำระหนี้ให้หมด และเร็วที่สุด

ข้อนี้แนะนำสำหรับคนที่มีหนี้หลายก้อน ผ่อนเล็กจ่ายน้อย บิลเรียกเก็บเยอะแยะไปหมด สำหรับคนที่มีหนี้มากก็ต้องพยายามปิดยอด ชำระหนี้ให้หมดเร็วที่สุด โดยต้องพยายามรวมหนี้ให้เป็นก้อนเดียวกันให้ได้มากที่สุด อาจจะด้วยวิธีการปิดหนี้ไล่ไปทีละก้อน จนเหลือก้อนสุดท้ายเพื่อจะได้ไม่ต้องจ่ายสะเปะสะปะ หรืออาจจะหาเงินก้อนจากแหล่งเงินอื่นมาปิดหนี้จำพวกบัตรเครดิต หรือหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูง อาจจะขอยืมคนในครอบครัว หรือกู้เงินมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ ที่ให้ทำแบบนี้ก็เพราะว่า การที่เราชำระหนี้เป็นก้อนเดียว จะช่วยให้การวางแผนการใช้เงินของเราง่ายขึ้น ระยะเวลาในการจ่ายก็ลดลง และดอกเบี้ยก็อาจจะน้อยกว่านั่งจ่ายทีละสามสี่ทางอยู่มากโข

2. ชำระหนี้ก้อนที่ดอกเบี้ยแพงที่สุดก่อน

ข้อต่อมาก็ถัดจากข้อด้านบน คือเมื่อเราเริ่มจะจัดการกับหนี้แต่ละก้อนแล้ว ก็ให้เริ่มจากหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูงที่สุดก่อนเลย ซึ่งส่วนใหญ่แล้วหนี้ดอกเบี้ยสูงพวกนี้ก็จะเป็นหนี้จน ที่เราควรจะรีบจัดการกับมันเสีย โดยหากว่าเรามีรายได้เพิ่มเติม รายได้พิเศษ หรือมีโบนัส หรือโชคดีมีลาภก้อนโตอะไรก็แล้วแต่ ควรจะแบ่งนำมาชำระหนี้พวกนี้เสียก่อน เพราะจะทำให้เราหลุดพ้นจากมันได้เร็วขึ้น ไม่ต้องมานั่งผ่อนกันยาวๆให้หนักใจ ยิ่งเงินต้นลดลง ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายก็จะค่อยๆลดลงด้วย

3. อย่าสร้างหนี้ก้อนใหม่ขึ้นมาอีก

ข้อต่อไปที่สำคัญมากอีกอย่างหนึ่งก็คือ ต้องไม่สร้างหนี้ก้อนใหม่ขึ้นมาอีก เพิ่มเติมจากก้อนเดิมที่มีอยู่แล้ว ในที่นี้หมายถึง สมมุติว่าเรามีหนี้บัตรเครดิตอยู่แล้ว แล้วก็ยังไปขอเปิดใช้บัตรเครดิตใบใหม่ โดยคิดว่าจะได้เอามาใช้ในระหว่างที่ต้องเอาเงินสดไปจ่ายบัตรเครดิตอีกใบหนึ่ง ถ้าเป็นแบบนี้ รับรองเลยว่าแทนที่คุณจะได้หลุดพ้นจากการเป็นหนี้ที่สร้างภาระให้อยู่ทุกวันแล้ว คุณจะตกอยู่ในวังวลของหนี้ไปเรื่อยๆ แม้จะคิดว่าเราก็จ่ายหนี้รามอัตราชำระขั้นต่ำอยู่แล้ว แต่รู้หรือเปล่าว่าเกือบ 90% ของเงินที่ชำระไปนั้นแทบจะเป็นดอกเบี้ยทั้งหมด จะกลายเป็นว่าคุณผ่อนหนี้ก้อนแรกไปก็ยังไม่หมดดี แล้วยังจะมีหนี้ก้อนใหม่มาให้คอยตามใช้หนี้กันอีกด้วย

4. แปลงสินทรัพย์ที่มีอยู่ให้เป็นทุน

ในข้อนี้ขอพูดถึงกรณีของคนที่มีหนี้มาก จนหาทาง หาเงินมาหมุนใช้หนี้แทบจะไม่พอ ขอให้ลองมองรอบๆตัวเองดู แล้วพิจารณาดูว่ามีสิ่งไหนที่พอจะแปลงสภาพมันให้กลายเป็นเงิน เพื่อนำมาผ่อนชำระหนี้ได้บ้างหรือเปล่า อาจตะไม่จำเป็นต้องเป็นของชิ้นใหญ่หรือทรัพย์สินเสมอไป อาจตะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าบ้าง ของใช้หรือ gadget ต่างๆสำหรับคุณผู้ชายที่ไม่ค่อยได้ใช้งาน หรือถ้าเป็นคุณสาวๆ พวกเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า ที่กองรวมกันเป็นภูเขาอยู่ในตู้เสื้อผ้า ที่มีที่มาจากหนี้จนนั้น ถ้ารู้ตัวว่าไม่ใส่ แล้วก็ยังคงซื้อใหม่อยู่เรื่อยๆ ก็ควรจะนำออกมาขายบ้าง เพื่อจะได้เอาเงินจากส่วนนี้มาชำระหนี้

ส่วนถ้าบางคนที่มีปัญหาหนี้อย่างหนักจริงๆ ลองดูว่าทรัพย์ชิ้นใหญ่ชิ้นไหนบ้างที่อาจจะช่วยแบ่งเบาส่วนนี้ได้ คนที่เดินมาจนสุดทางแล้วอาจจะต้องตัดใจ ยอมทิ้งรถ บ้าน หรือคอนโดไป หรืออาจจะเป็นของชิ้นใหญ่อย่างอื่น เพื่อรักษาบ้าน รักษาสถานภาพทางการเงินของเราเอาไว้ ไม่ให้กลายเป็นคนมีหนี้จนบางทีอาจถึงขั้นถูกฟ้องล้มละลายได้

5. เงินที่เหลือจากการชำระหนี้หมดไป กลายมาเป็นเงินเก็บแทน

ข้อสุดท้ายแล้วสำหรับบทความนี้ จะพูดถึงสิ่งที่ต้องทำหลังจากที่เราได้ชำระหนี้ต่างๆไปแล้ว ซึ่งจะว่าไปในช่วงที่เรามีหนี้นั้น การใช้เงินของเราก็จะมีการแบ่งสันปันส่วนเงินก้อนหนึ่งเอาไว้เพื่อชำระหนี้อยู่เสมอ เมื่อเราจ่ายหนี้คนครบถ้วน หรือแทบจะไม่มีหนี้เหลือแล้ว ก็อย่าเผลอเรอใช้จ่ายเงินจนเพลิดเพลินไปเสีย ควรจะเก็บเงินส่วนที่เรากันเอาไว้ชำระหนี้แบบเมื่อก่อน เอามาเปลี่ยนเป็นเงินเก็บแทน เพื่อค่อยๆเพิ่มความพร้อมทางการเงินของเราให้มีมากขึ้นเรื่อยๆด้วย ไม่ใช่ว่าไม่มีหนี้แล้วก็ไม่คิดตะเก็บเงินบ้างเลย เผื่อในอนาคตจำเป็นจะต้องใช้เงินขึ้นมา จะได้ไม่ต้องกลับไปสู่วังวนของการเป็นหนี้อีก

เรื่องเงินทองไม่เข้าใครออกใคร ถ้าหมดหนี้ไปชีวิตก็จะสดใส ทำอะไรตามใจได้อีกเยอะเลย

หลังจากได้รู้จักประเภทของหนี้ และวิธีการบริหารจัดการหนี้กันไปแล้ว หวังว่าหลายๆคนคงจะได้แง่คิดและวิธีการดีๆ อย่าลืมว่าเริ่มจากการจัดลำดับความสำคัญของหนี้ก่อน หนี้จน คือ หนี้ที่ดอกเบี้ยเยอะก็ให้รีบจัดการไปเสีย ส่วนหนี้ที่ดี เช่น บ้าน คอนโด ที่อยู่อาศัย ก็ควรที่จะเก็บไว้แล้วบรอหารจัดการหนี้ก้อนนี้ให้ดีในระยะยาว