รูปบทความ บัตรเครดิตหลัก บัตรเครดิตเสริม ใช้ต่างกันอย่างไร

บัตรเครดิตหลัก บัตรเครดิตเสริม ใช้ต่างกันอย่างไร ควรสมัครบัตรเสริมดีไหม!?

    สำหรับผู้ที่มีบัตรเครดิตใบหลักอยู่แแล้ว คงเคยได้คำว่า "บัตรหลัก บัตรเสริม" กันมาบ้างอย่างแน่นอน และเราคาดว่ายังมีบางคนที่ยังคงสงสัยว่า บัตรเครดิต 2 ประเภทนี้ใช้ต่างกันอย่างไรแน่ และถ้าหากต้องการสมัครบัตรเครดิตเสริม ควรจะพิจารณาอย่างไร? หรือเรามีความจำเป็นจะต้องมีทั้ง บัตรหลัก บัตรเสริม จริงหรือไม่? วันนี้ทาง ESTO เลยจะมาขอให้ข้อมูลคร่าว ๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจกัน


บัตรหลัก บัตรเสริม คืออะไร ?

    อย่างแรกเราควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับคำว่า "บัตรหลัก" กันก่อน เพราะเจ้าบัตรหลักใบนี้ จะเป็นบัตรเครดิตที่เราใช้กันเป็นประจำ โดยผู้ที่สมัครบัตรเครดิตหลายใบนั้น ก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีบัตรหลักแค่ใบเดียว ส่วนใบที่เหลือเป็นบัตรเสริม เนื่องจากบัตรเครดิตแต่ละใบจะมีวงเงินเป็นของตัวเอง และไม่เกี่ยวข้องกันนั่นเอง

    ส่วน "บัตรเสริม" นั้นจะเป็นบัตรเครดิตที่แยกย่อยออกมาจากบัตรที่เราถืออยู่ เพื่อเสริมวงเงินร่วมกับบัตรหลักที่เราถือครองอยู่ เช่น บัตรหลักมีวงเงินอยู่ 30,000 บาท เมื่อรวมกับบัตรเสริมที่สมัครเพิ่ม ก็จะช่วยให้เราได้วงเงินในการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมากขึ้น

  • โดยคะแนนสะสม หรือรีวอร์ดต่าง ๆ ที่เกิดจากการใช้จ่ายผ่านบัตรเสริมก็จะถูกไปรวมเข้ากับบัตรหลัก เช่นเดียวกับที่บัตรเสริมเองก็จะได้สิทธิประโยชน์ หรือโปรโมชันซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขเดียวกับที่บัตรหลักได้เข้าร่วมด้วยนั่นเอง




บัตรเสริมมีไว้เพื่อ ?

    โดยบัตรเสริมนี้ จะมีไว้เพื่อรองรับการใช้จ่ายเป็นครอบครัว หรือบุคคลที่ยังไม่สามารถสมัครบัตรเครดิตเองได้ เพียงแค่ผู้ถือบัตรหลักทำการสมัครบัตรเสริม แล้วนำไปมอบให้แก่บุคคลที่เราไว้ใจ ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้ว การสมัครบัตรเสริมมักจะมอบให้กับคนในครอบครัว เช่น ผู้ปกครองเป็นผู้ถือครองบัตรหลัก แล้วจึงสมัครบัตรเสริมเพื่อให้บุตรหลานใช้จ่ายตามต้องการ 

  • สำหรับจำนวนบัตรเสริมที่สามารถสมัครได้นั้น จะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและข้อตกลงของแต่ละสถาบันการเงิน ซึ่งบางธนาคารก็อาจอนุญาตให้สมัครบัตรเครดิตเสริมได้ถึง 5 ใบเลยทีเดียว


บัตรเสริมเหมาะกับใคร

  • คนในครอบครัวที่ไม่มีรายได้ หรือบุตรหลานที่กำลังเรียนอยู่
  • ผู้ที่มีรายได้ไม่แน่นอน เช่น คนที่มีอาชีพค้าขาย, รับจ้างอิสระ
  • คนที่มีเงินเดือนไม่ถึงเกณฑ์ตามที่กำหนด


เงื่อนไขของผู้ที่จะถือบัตรเสริมได้

  • ผู้ที่จะถือบัตรเสริมได้ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 15 ปีบริบูรณ์
  • รายได้ของผู้ถือบัตรหลัก จะต้องเป็นไปตามเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย


สมัครบัตรเสริมต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง ?

  • สำเนาบัตรประชาชนของผู้ที่ถือบัตรหลัก 
  • สำเนาบัตรประชาชนของผู้ที่จะถือบัตรเสริม
  • สำเนาหน้าบัตรเครดิตหลัก
  • ใบสมัครบัตรเสริมจากธนาคาร




ข้อดีของการมีบัตรเสริม

  1. การสมัครบัตรเครดิตเสริมให้คู่สมรส : จะช่วยในเรื่องการสร้างเครดิตบูโร ถ้าหากคนใดคนหนึ่งมีเครดิตบูโรดี ชำระหนี้ตรงเวลา เต็มจำนวนตลอด หรือมียอดหนี้น้อยมากเมื่อเทียบกับวงเงิน ก็จะช่วยให้คู่สมรสมีเครดิตบูโรดีตามไปด้วย
  2. นอกจากนี้ การใช้บัตรหลักและบัตรเสริม คู่กัน ยังสามารถช่วยสะสมแต้มต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้นตามเงื่อนไข อาทิ ผู้ที่พยายามเก็บสะสมไมล์เพื่อแลกตั๋วไปต่างประเทศก็ใช้เวลาน้อยลง สามารถสะสมแต้ม หรือแลกไมล์ได้เร็วขึ้น เพราะส่วนมากเราสามารถนำคะแนนของทั้งบัตรหลักและบัตรเสริมมารวมกันได้นั่นเอง
  3. ในกรณีของ "ค่าธรรมเนียมรายปี" : ธนาคารจะคิดจากบัตรหลักเท่านั้น โดยปกติแล้ว ธนาคารจะมีข้อกำหนดเรื่องยอดใช้จ่ายภายในรอบบัญชี 12 เดือน หากถึงตามกำหนดก็จะไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมรายปี แต่ถ้าหากเรามีบัตรเสริมร่วมด้วย ก็จะนับยอดใช้จ่ายในรอบบัญชี 12 เดือนเข้าไว้ด้วยกัน ทำให้เราได้รับสิทธิประโยชน์ฟรีค่าธรรมรายปีนี้ด้วยเช่นกัน




สิ่งที่ต้องระวังเมื่อมีบัตรเสริม

หากเราสมัครบัตรเสริมแล้ว นั่นเท่ากับว่า... ผู้ที่ถือบัตรหลักจะต้องรับผิดชอบหนี้สินตามกฎหมายของบัตรเสริมด้วย !!  เราจึงต้องระมัดระวังในการสมัครบัตรเครดิตเสริม ซึ่งอาจมีความเสี่ยงจะเกิดหนี้สินตามมามากมาย ทำให้เสียเครดิตในอนาคตโดยไม่รู้ตัว ดังนั้น หากใครกำลังคิดจะสมัครบัตรเสริม ก็ควรพิจารณาที่รอบคอบ ถี่ถ้วน ว่าเราพร้อมจะรับความเสี่ยงนั้นได้หรือไม่ เพื่อป้องกันปัญหาหนี้สินที่อาจตามมาภายหลังได้


อย่างไรก็ตาม การสมัครบัตรเสริม รวมถึงบัตรหลักหลาย ๆ ใบนั้น จะต้องพิจารณาถึงความเหมาะสม และความจำเป็นในการใช้งาน เพื่อให้ใช้การใช้จ่ายต่าง ๆ นั้น เกิดความคุ้มค่าและเป็นประโยชน์ต่อผู้ถือครองบัตรมากที่สุด



เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร...?

Related Stories

Esto Talks

See All >

Living out loud

Living out loud : VANA RESIDENCE พระราม 9 - ศรีนครินทร์