รูปบทความ พบไลฟ์สไตล์พรีเมียม บนทำเลที่เป็นดั่งอัญมณี ความสุนทรีย์ที่ไม่มีวันหยุดพัก ณ ‘ราชดำริ-ชิดลม-เพลินจิต’

พบไลฟ์สไตล์พรีเมียม บนทำเลที่เป็นดั่งอัญมณี ความสุนทรีย์ที่ไม่มีวันหยุดพัก ณ ‘ราชดำริ-ชิดลม-เพลินจิต’


ภาพบรรยากาศถนนวิทยุและถนนราชดำริ

‘ราชดำริ-ชิดลม-เพลินจิต’ สามย่านหลักใจกลางเมืองของกรุงเทพมหานคร ที่มีพื้นที่เชื่อมติดกัน แต่มีความโดดเด่นกันไปคนละด้าน ทั้งทำเลแห่งไลฟ์สไตล์ศูนย์รวมของชอปปิงมอลล์ชั้นนำมากมาย ที่เป็นแลนด์มาร์กยอดนิยมของทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยว, ทำเลธุรกิจสำคัญที่รายล้อมไปด้วยอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ และทำเลแห่งสุขภาพที่อุดมไปด้วยพื้นที่สีเขียวที่เปรียบเสมือนปอดของเมือง 


วันนี้ Esto จะพาทุกคนลัดเลาะสำรวจรอบ ๆ ราชดำริ, ชิดลม และเพลินจิต ทำเลทอง ที่เรียกได้ว่าเป็น “ไข่แดง” ของกรุงเทพ ผ่าน 4 ถนนสายหลัก ที่เชื่อมโยงทั้ง 3 ย่านเด่นเหล่านี้เข้าไว้ด้วยกัน บอกเลยว่ามีทั้งสถานที่และร้านพิเศษที่ซ่อนตัวหลบหนีความวุ่นวายอย่างลับ ๆ ให้เราได้แวะไปพักกายพักใจกันด้วย ถ้าพร้อมแล้วก็เตรียมตัวออกสำรวจไปด้วยกันได้เลย




ชิมรสชาติไทยสไตล์คลาสสิก กับบรรยากาศเขียวชอุ่ม ณ ย่าน ‘BTS ราชดำริ’


เริ่มต้นการเดินทางท่อง Prime Area บนทำเล ไข่แดง กันที่ BTS ราชดำริ ย่านสำนักงานออฟฟิศและโรงแรมหรูต่าง ๆ ที่มีบรรยากาศของความสงบ เหมาะแก่การพักอาศัยเป็นพิเศษ และยังเป็นที่ตั้งของราชกรีฑาสโมสร สโมสรกีฬาที่สวยงามเก่าแก่แห่งหนึ่งของประเทศไทย ซึ่งเราสามารถมองเห็นความสวยงามและกว้างใหญ่ของสถานที่แห่งนี้ได้จากบนชานชาลาของสถานีราชดำริอีกด้วย


‘The Peninsula Plaza’ พลาซ่าบรรยากาศคลาสสิกกลางกรุง


บนถนนราชดำริอันสงบร่มรื่นแห่งนี้ เป็นที่ตั้งของอาคารที่พักอาศัย, โรงแรมหรู และอาคารสำนักงานมากมาย รายล้อมและปกคลุมไปด้วยต้นไม้ตลอดทั้งเส้นทาง ทางเท้าที่กว้างขวางทั้ง 2 ฝั่งถนน ให้ผู้คนสามารถเดินสัมผัสบรรยากาศอันรื่นรมย์ ชมความสวยงามของลักษณะอาคารในบริเวณนี้ที่มีการออกแบบเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแต่ละตึก ซึ่งหากเปรียบเทียบกับทำเลอื่น ๆ ในกรุงเทพมหานครแล้ว ถนนเส้นนี้ถือได้ว่าเป็นถนนที่มีสภาพแวดล้อมสวยงามสมบูรณ์แบบเป็นอันดับต้น ๆ เลยทีเดียว 


แม้จะเป็นแหล่งพักอาศัยที่สงบอบอุ่น แต่ที่นี่ก็ยังมีอาคารพลาซ่าสไตล์คลาสสิกนามว่า The Peninsula Plaza ที่ซ่อนความพิเศษภายในเอาไว้ หากมองผ่าน ๆ แล้ว เราคงไม่ทันสังเกตเห็นว่าอาคารแห่งนี้เป็นศูนย์การค้าอย่างแน่นอน


ทันทีที่ก้าวเท้าเข้าไปด้านใน เสียงดนตรีจากเปียโนเล่นสดก็ดังเข้ามาต้อนรับโสตประสาทของเราก่อนเป็นอันดับแรก ภายในมีร้านค้ามากมายเรียงรายกระจายตัวอยู่ตามแต่ละชั้น มีตั้งแต่เฟอร์นิเจอร์สไตล์คลาสสิก, เครื่องประดับหรู ไปจนถึงร้านเสื้อผ้าดูดีมีระดับ แต่ที่เด่นสะดุดตาเราที่สุด เห็นจะเป็นร้าน Mai Mai Eatery ที่ตั้งอยู่ใจกลางของศูนย์การค้า เด่นสะดุดตาด้วยสีน้ำเงินเคร่งขรึมตัดกับสีชมพูช็อกกิงพิงก์สดใส ดึงดูดให้เราต้องเข้าไปลองสำรวจที่ด้านใน


ภายในร้านมีลูกค้าค่อนข้างคึกคัก ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ แม้การตกแต่งร้านจะดูโมเดิร์นและทันสมัย แต่ Mai Mai Eatery แห่งนี้ ก็เปิดตำนานความอร่อยจากรุ่นสู่รุ่น สืบทอดจากคุณแม่ถึงคุณลูก รวมระยะเวลากว่า 30 ปีแล้ว


เมนูของที่นี่จะเน้นไปที่อาหารไทยเป็นหลัก แต่ก็ยังเสิร์ฟอาหารตะวันตกทั้งแบบดั้งเดิมและแบบฟิวส์ชันให้ได้ลิ้มลองกันอีกด้วย นอกจากนี้แล้ว ที่ Mai Mai Eatery ก็ยังมีเมนูของหวาน และเครื่องดื่มหลากหลายชนิดอีกด้วย เรียกว่าถ้าหิวเมื่อไหร่ แวะมาที่นี่ คงไม่มีผิดหวัง 

  • สำหรับเมนูดัง ที่ไม่ทาน ถือว่าพลาด อย่าง ก๋วยเตี๋ยวเรือเพนนินเนื้อริบอาย (320 บาท) มีให้เลือกทานทั้งน้ำทั้งแห้ง เลือกเส้นและเนื้อสัตว์ได้ตามใจชอบ ใครที่ชอบทานเมนูเส้นรับรองว่าต้องถูกใจ ขอคอนเฟิร์มว่าต้องลอง
  • ใครไม่ถนัดเมนูเส้น อยากทานเมนูข้าวง่าย ๆ แต่ไม่จำเจ ลองสั่ง ข้าวผัดสมุนไพรยำปลาทู (220 บาท) มาทานดูสักครั้ง จานนี้ไม่ใช่ข้าวผัดธรรมดา ๆ แต่อุดมไปด้วยสมุนไพรนานาชนิด ที่ช่วยให้จานนี้หอม มีเท็กเจอร์ลงตัว และที่สำคัญไม่เลี่ยนเลยสักนิด นั่งทานพลางเพลิดเพลินกับบรรยากาศของร้านไปด้วย ก็หมดจานแบบไม่รู้ตัว
  • ส่วนเมนูทานเล่นง่าย ๆ ก็ขอแนะนำ กุ้งห่มสไบ (280 บาท) ที่ไส้แน่นทั้งกุ้งและเนื้อหมู ทานคู่กับน้ำจิ้มเข้ากันลงตัวแบบพอดิบพอดี


จาก The Peninsula Plaza เดินต่อไปฝั่งทิศใต้เรื่อย ๆ ราว 800 เมตร เราจะเจอกับซอยสารสิน ซอยเล็ก ๆ ที่เลียบผ่านสวนลุมพินีไปตลอดเส้นทาง ซึ่งมีประตูทางเข้าที่สามารถเชื่อมต่อสู่ด้านในของสวนได้ 


‘สวนลุมพินี’ ปอดกลางกรุง พื้นที่สีเขียวที่เก่าแก่ที่สุด


ภายในซอยสารสิน เราจะพบกับทางเข้าสวนลุมพินีประตู 7 ซึ่งสามารถพาคุณเข้าไปยังพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่และเก่าแก่ที่สุดของย่านนี้ได้


ด้วยแนวคิด “สวนอเนกประสงค์”  ทำให้ที่นี่เป็นสวนสาธารณะที่รวบรวมกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย เพื่อรองรับและให้บริการผู้คนได้ในทุกรูปแบบความต้องการ ภายในร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่อายุเก่าแก่ที่คอยให้ร่มเงา พันธุ์ไม้สวยงามอย่างไม้ดอกไม้ประดับปลูกไว้กระจายตัว เพิ่มสีสันให้กับสวนแห่งนี้ได้ไม่น้อย ทั้งยังมีสระน้ำขนาดใหญ่สร้างบรรยากาศเย็นใจที่ด้านในอีกด้วย


พื้นที่กิจกรรมหลัก ๆ ของสวนแห่งนี้ จะเน้นไปที่การออกกำลังกาย ซึ่งก็สามารถเข้ามาใช้พื้นที่ในการวิ่งออกกำลังกันได้ตั้งแต่เช้ามืดไปจนถึง 3 ทุ่ม สำหรับนักปั่น หากจะนำจักรยานเข้ามาปั่นในพื้นที่สวนก็สามารถทำได้เช่นกัน ส่วนใครที่ไม่สะดวกนำมาเองก็สามารถใช้บริการเช่าจักรยานจากภายในสวนได้เลย


สำหรับบริเวณสระน้ำขนาดใหญ่ภายในพื้นที่สวน ก็มีเรือพายและเรือเป็ดเปิดบริการให้เช่าอยู่ด้วยเช่นกัน ใครอยากได้บรรยากาศ ตากลม ชมวิวชิลล์ ๆ ยามเย็น ถือว่าเป็นกิจกรรมที่เหมาะสำหรับการผ่อนคลายความเครียดอย่างมาก นอกจากนี้ภายในสวนก็ยังมีการจัดแสดงดนตรีบรรเลงเพื่อสร้างบรรยากาศ รวมไปถึงมีศูนย์อาหารศรีไทยเดิม จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มสำหรับผู้ที่เข้ามาใช้บริการและทำกิจกรรมภายในสวนให้ได้อิ่มท้องกันอีกด้วย




จากหลังสวนถึง ‘BTS ชิดลม’ ย่านถนนลอยฟ้า ที่ Connect ทุกไลฟ์สไตล์มอลล์เข้าไว้ด้วยกัน


‘ถนนหลังสวน’ เส้นทางที่สามารถพาคุณเชื่อมต่อไปยัง BTS ชิดลม ได้ เพียงไม่กี่อึดใจจาก สวนลุมพินี


Abelle Cafe ร้านอาหารแสนอบอุ่นที่ซ่อนตัวอยู่อย่างลับ ๆ บนถนนหลังสวน


เส้นทางจากแยกหลังสวนไปจนถึง BTS สถานีชิดลม สองข้างทางในระยะ 1 กิโลเมตรของถนนหลังสวนยังคงให้บรรยากาศสดชื่นและร่มรื่นเหมือนเคย มีทั้งร้านอาหาร, ร้านคาเฟ่ และโรงแรม กระจายตัวอยู่โดยรอบ และหนึ่งในร้านที่เราอยากแนะนำ ก็เป็นอีกหนึ่งร้านเท่ ๆ ที่มีทั้งขนมหวานและอาหารตะวันตกเปิดให้บริการความอร่อยอยู่ลับ ๆ ภายในทางเข้าโรงแรมเออร์บานา หลังสวน 


จากทางเข้าของโรงแรม เดินตรงเข้ามาเล็กน้อย ซ้ายมือจะสังเกตเห็นประตูไม้บานใหญ่ดูแปลกตา ที่ไม่มีป้ายชื่อร้าน หากมองผ่านไปก็คงไม่ทราบว่าที่นี่คือร้าน Abelle Cafe นั่นเอง 


เมื่อเข้ามาถึงภายในร้าน บรรยากาศค่อนข้างชิลล์ การออกแบบตกแต่งร้านด้วยสไตล์ลอฟท์ ใช้โทนสีขาวดำ และมีผนังกระจกบานใหญ่รอบบริเวณ ช่วยเปิดรับแสงแดดให้ความรู้สึกเมื่อนั่งอยู่ภายในร้านดูโปร่งสบายมากยิ่งขึ้น ร้านนี้เปิดให้บริการตั้งแต่ 6 โมงเช้าไปจนถึงเที่ยงคืน คุณจึงสามารถแวะเติมพลังหลังจากวิ่งรอบเช้าที่สวนลุมพินีด้วยกาแฟรสชาติดีสักแก้ว หรือจะหลบมุมมาหาความสงบเพื่อนั่งทำงาน ชวนกลุ่มแก๊งมาอิ่มอร่อยด้วยกันในมื้อเที่ยงก็เหมาะ เพราะที่ร้านนี้ได้รวบรวมเอาไว้เบ็ดเสร็จทั้งคาวหวานและเครื่องดื่ม เลือกเมนูที่ชอบ เครื่องดื่มที่ใช่ สำหรับวันดี ๆ ของคุณได้เลย


ถ้าใครคิดว่าร้านอาหารจะทำขนมหวานไม่เด็ด ขอให้ลองเมนู Triple Chocolate Brownie (160 บาท) ของร้าน Abelle Cafe เสียก่อน บอกเลยว่าทุกองค์ประกอบในจานนี้มีมิติที่ซับซ้อน ทั้งรสชาติและกลิ่นที่ช่วยขับให้จานนี้มีความพิเศษ และสนุกยิ่งขึ้น บอกเลยว่านี่ไม่ใช่แค่เมนูบราวนีกับไอซ์กรีมช็อกโกแลตธรรมดา ๆ อย่างแน่นอน อยากรู้พิเศษยังไงต้องแวะมาลองด้วยตัวเอง


หรือถ้าอยากทานเมนูเบสิก ที่มีกิมมิกหน่อย ๆ ลองสั่ง Mango Cheese Cake (145 บาท) ชีสเค้กท็อปด้วยเนื้อมะม่วงสุกรสหวานอมเปรี้ยว ที่ทานเพลินตัดเลี่ยนเข้ากันได้อย่างดี เพราะชีสเค้กดี ๆ ไม่จำเป็นต้องจำเจอยู่คู่กับผลไม้ตระกูลเบอร์รีเสมอไป ใครอยากลองว่า combination ของเมนูนี้จะเข้ากันแค่ไหน เชิญที่ Abelle Cafe ได้ทุกเมื่อ


ของหวานผ่านไปสองเมนูแล้ว เราลองหาเครื่องดื่มชื่นใจตัดเลี่ยนสักหน่อยคงเหมาะไม่น้อย กับ Dark Forest (150 บาท) เครื่อมดื่มตัวนี้ มองผิวเผินคงเหมือนเครื่องดื่มรสซู่ซ่าเปรี้ยวหวานธรรมดา ๆ แต่ความจริงแล้วซ่อนรสสมุนไพรหอมเย็นด้านในไว้ให้ชื่นใจอีกด้วย บอกเลยว่าได้ทั้งรสชาติและมิติของกลิ่น รับรองว่าเข้าได้ทั้งกับขนมหวานและอาหารคาวเป็นอย่างดีเลยทีเดียว


เพียง 500 เมตรจาก Abelle Cafe พาคุณมุ่งสู่ BTS ชิดลม ที่ที่รวมทุกแหล่งไลฟ์สไตล์ชั้นนำเข้าไว้ด้วยกัน


ศูนย์รวม Lifestyle Mall ชั้นนำ เชื่อมต่อกันได้อย่างสะดวกสบาย ด้วยทางเดินลอยฟ้า


ราชประสงค์ วอล์ก ทางเดินลอยฟ้าที่เชื่อมโยงทางออกของตัวสถานีชิดลมทั้ง 4 ทิศทาง กับทุกศูนย์การค้าชั้นนำของย่านราชประสงค์ได้แบบไร้รอยต่อ สะดวก สมาร์ต และปลอดภัย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ Urban ทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี


 The Market Bangkok


เริ่มต้นด้วยแลนด์มาร์กแห่งใหม่ล่าสุดกันที่ The Market Bangkok ห้างสรรพสินค้าในคอนเซ็ปต์ตลาดสุดฮิปใจกลางเมือง ฉีกกฎจากศูนย์การค้าแบบเดิม ๆ ที่ให้ความรู้สึกอิสระ ไร้ข้อจำกัดในการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะชอปหรือชิม ก็อินเทรนด์ได้ มีทั้งร้านอาหารและเครื่องดื่ม, เสื้อผ้าแฟชั่นและเครื่องประดับ, ของฝากของที่ระลึก, ของแต่งบ้านและของสะสม, สถาบันการเงินการธนาคาร, ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม ก็มีพร้อมให้คุณได้เลือกสรรค์กันอย่างจุใจ


Central World


มาถึงศูนย์การค้าที่เรียกได้ว่าเป็นแหล่งนัดพบยอดนิยมอย่าง Central World กันบ้าง ซึ่งสำหรับที่นี่นั้น ถือได้ว่าเป็นห้างในเครือ Central สาขาที่สุดในประเทศไทย โดยอยู่รวมกันกับห้าง Isetan จากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีเพียงสาขาเดียวในประเทศไทยอีกด้วย 


แน่นอนว่าความพิเศษของศูนย์การค้าแห่งนี้ ไม่ใช่เพียงแค่ขนาดและโลเคชันที่ลงตัว แต่ภายในยังรวบรวมความเป็นที่สุดเอาไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น


  • Central Food Hall ซูเปอร์มาร์เก็ตระดับบนในเครือ Central ซึ่งถือเป็นฟู้ดสโตร์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
  • SF World Cinema โรงภาพยนตร์รุ่นท็อปของแบรนด์ SF ซึ่งภายในประกอบด้วยโรงภาพยนตร์ย่อย 15 โรง โดยมี Mastercard Cinema เป็นโรงที่มีขนาดใหญ่ที่สุด นอกจากนี้ยังมีโรงภาพยนตร์สี่มิติ MX4D เป็นแห่งแรกของประเทศไทยอีกด้วย
  • TK park ห้องสมุดมีชีวิต ที่ส่งเสริมให้เกิดสังคมการเรียนรู้ ด้วยกิจกรรมอันหลากหลาย พร้อมสื่อการเรียนรู้ที่ทันสมัย ทั้งหนังสือ, ดนตรี, กิจกรรม และมัลติมีเดีย
  • ร้านค้า Flagship Store แบรนด์ดังที่มีขนาดพื้นที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ได้แก่ Super Sport, Power Buy, B2S, Uniqlo, H&M, SB Design Square, adidas ลานไอซ์สเก็ต The Rink Ice Arena, สถานออกกำลังกาย Fitness First Zone Centralworld และร้าน Starbucks Reserve


และนอกจากนี้ภายในบริเวณห้าง Central World ก็ยังมีโซนการเรียนรู้สำหรับเด็ก ๆ, ร้านค้าแฟชันแบรนด์ชั้นนำ รวมไปถึงมีร้านอาหารและคลับบาร์แบบเอาต์ดอร์เปิดให้บริการอีกด้วย


Gaysorn Village


ต่อกันที่ Gaysorn Village ห้างสรรพสินค้า Super Luxury ที่ปรับรูปโฉมใหม่ เปลี่ยนคอนเซ็ปต์มาเป็น Lifestyle Village ให้ผู้คนรู้สึกเข้าถึงได้ง่ายมากยิ่งขึ้น โดยเน้นคัดสรรสินค้าที่วางจำหน่ายให้มีกิมมิกที่น่าสนใจ ทันสมัย สร้างแรงบันดาลใจ และมีรสนิยม และมีโซนไฮไลต์ที่กลายเป็นจุดเช็กอินสุดฮิต นั่นคือ Gaysorn Cocoon สถาปัตยกรรมที่เป็น Landmark และสัญลักษณ์สำคัญของโครงการ Gaysorn Village ซึ่งอยู่ตรงบริเวณทางเชื่อมระหว่างตึกเกษรเซ็นเตอร์และเกษรทาวเวอร์นั่นเอง


และด้วยเอกลักษณ์ของ Gaysorn Village ที่เน้นไปที่ความพิเศษของคุณภาพสินค้า จึงทำให้ที่นี่เป็นหนึ่งในศูนย์การค้าที่รวบรวมแบรนด์สินค้าคุณภาพ และความพิเศษจากทั่วมุมโลกไว้มากมาย แต่แน่นอนว่าดีไซน์เนอร์แบรนด์สัญชาติไทยก็ได้รับการสนับสนุน และมีชอปตั้งอยู่ที่นี่เช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์...

  • POEM แบรนด์ดีไซน์เนอร์ไทยระดับแถวหน้าของวงการ ที่ได้รับความไว้วางใจจากเหล่าคนดังมากมาย หากใครกำลังมองหาชุดดีไซน์เรียบหรู มีดีเทล และ cutting สุดปรานีตสำหรับคุณผู้หญิงโดยเฉพาะ บอกเลยว่าที่นี่คือสวรรค์ของคุณอย่างแน่นอน เพราะไม่ว่าจะเป็นชุดเนียบ ๆ สำหรับ Working Women คนเก่ง หรือ Wedding Dress สำหรับเจ้าสาว POEM ก็จะเนรมิตให้คุณกลายเป็นคนพิเศษได้แบบที่ใคร ๆ ก็ต้องอิจฉา
  • Boyy & Son Café คาเฟ่น่ารักจาก Boyy แบรนด์กระเป๋าสัญชาติไทยแคนนาเดียน ที่ได้รับความนิยมในระดับสากล ภายในร้านตกแต่งด้วยสีสันอ่อนโยนโทนพาสเทล สลับกับลวดลายหินอ่อนที่ช่วยเพิ่มดีเทลความเรียบหรู ขาชอปคนไหนอยากหาเครื่องดื่มดี ๆ เติมพลังยามบ่าย หรือต้องการสถานที่นั่งเล่นแบบมีสไตล์ก็สามารถแวะมานั่งเล่นที่นี่กันได้


Central Chidlom และ Central Embassy


ภาพบรรยากาศภายใน Central Chidlom


ภาพบรรยากาศทางเชื่อมไปยัง Central Embassy


ภาพบรรยากาศภายใน Central Embassy

จากฝั่งราชประสงค์ ข้ามต่อกันที่ฝั่งชิดลม กับ Central Chidlom และ Central Embassy ห้างสรรพสินค้าในเครือ Central อีกสองแห่งซึ่งตั้งอยู่ติดกัน โดยสามารถเดินทะลุถึงกันได้ผ่านทางเชื่อม แม้ทั้งสองห้างนี้จะเปิดให้บริการในระยะเวลาที่ห่างกันมาก แต่ก็สามารถครองใจกลุ่มลูกค้าและได้รับความนิยมไม่แพ้กันเลย ด้วยทำเลที่ตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่าง BTS สถานีชิดลม และ BTS สถานีเพลินจิต และด้วยการเชื่อมต่อเข้าตัวอาคารผ่าน Sky Walk ในระยะเดินที่ใกล้ที่สุดจากทุกศูนย์การค้าในย่านเดียวกัน แถมบรรยากาศภายในห้างค่อนข้างสงบ ต่างจากบรรยากาศของการเป็นจุดนัดพบหรือ Hang out ของห้างอื่น จึงทำให้ทั้ง Central Chidlom และ Central Embassy ตอบโจทย์สำหรับนักชอปที่ไม่เน้นความหวือหวา แต่สามารถเดินชอปปิงสินค้าคุณภาพและมีรสนิยมได้อย่างสบายใจ


เข้ามาที่ชั้น 6 ของ Central Embassy จะพบกับ Open House อีกหนึ่งความพิเศษที่ซ่อนตัวอยู่ในอาคาร iconic ที่มีเอกลักษณ์แห่งนี้ โดยชั้นนี้จะเป็นพื้นที่ Co-Living Space ซึ่งรวบรวมไว้ทั้งร้านหนังสือ, มุมนั่งอ่านหนังสือและทำงาน, พื้นที่จัดแสดงผลงานศิลปะ, พื้นที่เวิร์กชอป และร้านอาหาร บอกเลยว่าเก๋ไม่ซ้ำใคร การตกแต่งด้วยผนังกระจกและวัสดุไม้โทนสีอ่อน ที่ให้มีกลิ่นอายอบอุ่นสไตล์ญี่ปุ่นนิด ๆ และด้วยการใช้สีเขียวของต้นไม้มาประดับในบางจุด ช่วยสร้างบรรยากาศให้ที่นี่เหมาะกับการเป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้ได้มากเลยทีเดียว 




ถนนสายสีเขียวกับเส้นทางปั่นจักรยานลอยฟ้า ณ ‘BTS เพลินจิต’


จาก Central Embassy เราสามารถเดินทะลุต่อไปยังสถานีรถไฟฟ้า BTS เพลินจิต ได้ผ่าน Sky Walk และยังสามารถเชื่อมต่อมายังถนนวิทยุ ซึ่งเป็นถนนเส้นเล็ก ๆ ด้านข้างตัวห้างที่เรียงรายไปด้วยสถานทูตและสถานกงสุลมากถึง 22 ประเทศ จึงทำให้บรรยากาศโดยรอบบริเวณนี้เต็มไปด้วยชาวต่างชาติมากมายอย่างไม่ต้องสงสัย


เมื่อเริ่มเดินเข้ามาภายในเส้นถนนวิทยุ สิ่งที่สะดุดตาเราอีกอย่างหนึ่งนอกเหนือจากผู้คนแล้ว คงเป็นความร่มรื่นของต้นไม้ใหญ่ ที่เรียงแถวเป็นแนวยาวตลอดสองข้างทาง เรียกได้ว่าเป็นทัศนียภาพที่ค่อนข้างสมบูรณ์แบบมากทีเดียว สำหรับพื้นที่ใจกลางเมืองที่รายล้อมไปด้วยตึกสูงเช่นนี้


นอกจากจะเป็นพื้นที่ตั้งของสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงศุลมากถึง 22 แห่งแล้ว ที่นี่ยังแวดล้อมไปด้วยอาคารสำนักงานของกลุ่มธุรกิจและบริษัทขนาดใหญ่มากมาย ทำให้ถนนวิทยุแห่งนี้กลายเป็นอีกหนึ่งย่านธุรกิจสำคัญทั้งสำหรับชาวไทยและชาวต่างชาติ และเป็นที่หมายปองสำหรับใครหลาย ๆ คน ทั้งนักลงทุนและผู้ที่ต้องการหาที่อยู่อาศัยใจกลางเมือง เรียกว่าเนื้อหอมจนราคาพุ่งสูงติดท็อป 5 ของประเทศเลยทีเดียว


‘สะพานเขียว’ สวรรค์ของนักปั่นและนักวิ่ง เส้นทางสุขภาพจากสวนลุมถึงสวนเบญจกิตติ


เมื่อเราเดินทางตรงเข้ามาเรื่อย ๆ บนถนนวิทยุ เราจะพบกับสะพานสีเขียวขนาดใหญ่ตั้งอยู่เหนือบริเวณแยกสารสิน ซึ่งสะพานแห่งนี้ใช้เป็นทั้งสะพานลอยสำหรับข้ามไปยังอีกฝั่งถนน รวมไปถึงสามารถใช้เชื่อมต่อไปยังสวนเบญจกิตติได้อีกด้วย แถมที่นี่ก็ยังได้รับการออกแบบให้เป็นพื้นที่สำหรับออกกำลังกายทั้งสายวิ่งและสายปั่น ให้สามารถออกกำลังกายที่ทั้งได้เหงื่อ ได้สุขภาพ และได้เพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์ของอาคารบ้านเรือนตลอดเส้นทาง รับรองว่าจะเปิดมุมมองใหม่ ๆ สำหรับคนรักการออกกำลังกายได้อย่างแน่นอน 


ถ้าคำตอบของชีวิตคุณ คือการได้อยู่ท่ามกลาง ไลฟ์สไตล์ครบครันที่สมบูรณ์แบบ…


The Private Residences Rajdamri อัญมณีที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางความสมบูรณ์แบบบน ‘ถนนสารสิน’ โครงการ Luxury Residence กับการเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์แบบ Freehold  บนทำเลที่ดีที่สุดของกรุงเทพมหานคร ที่นับวันมูลค่าก็ยิ่งพุ่งสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ เป็น Hidden Gem ที่หาได้ยากเต็มที หากจะลงทุนกับทำเลที่คุ้มค่าสักแห่ง รับรองว่าคอนโดมิเนียมหรูบนถนนวิทยุแห่งนี้ จะไม่ทำให้คุณผิดหวังอย่างแน่นอน ทั้งการเดินทางที่สะดวกสบาย สามารถลัดเลาะเชื่อมต่อกับถนนสายสำคัญและซอยต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย ตั้งอยู่ใกล้กับ BTS ราชดำริ และอยู่ติดกับสวนลุมพินีเพียงแค่ 150 เมตรเท่านั้น เพราะศูนย์รวมแห่งความครบครัน, พรีเมียม และทันสมัย กำลังรอให้คุณเข้ามาเป็นเจ้าของ พร้อมด้วยยูนิตจำนวนจำกัด ที่ออกแบบมาเพื่อสร้างความมั่นใจเรื่องความปลอดภัย และความเป็นส่วนตัวอย่างสูงสุดให้กับผู้อยู่อาศัยได้แล้ววันนี้



รายละเอียดโครงการ The Private Residence Rajdamri (เดอะ ไพรเวท เรสซิเด้นซ์ ราชดำริ)

ชื่อโครงการ : The Private Residence Rajdamri (เดอะ ไพรเวท เรสซิเด้นซ์ ราชดำริ)

ผู้พัฒนา : บริษัท แกรนด์ ยูนิตี้ ดิเวลล็อปเมนท์ จำกัด

ที่ตั้ง : สารสินซอย 2 ถนนสารสิน แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร

ลักษณะอาคาร : อาคาร Low Rise สูง 8 ชั้น 1 อาคาร

พื้นที่ : 1-0-4 ไร่

จำนวนยูนิต : 54 ยูนิต

แบบห้อง :

  • 1 Bedroom/ 70-88 ตร.ม. (1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ)
  • 2 Bedroom/ 126-163 ตร.ม. (2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ)
  • 4 Bedroom/ 245 ตร.ม. (4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ)

ห้องชุดเพดานสูง : 2.5 เมตร

จำนวนที่จอดรถ : 100% พร้อมพื้นที่จอดรถจักรยาน

สิ่งอำนวยความสะดวก : Lobby, Mailbox Space, Outdoor Recreation Area, Swimming Pool, Fitness & Stream Room, Rooftop Organic Garden, 24 Hour Security, 24 Hour CCTV

ราคาเริ่มต้น : 11.5 ล้านบาท


FACILITIES


ภาพตัวอย่างสระว่ายน้ำ


ภาพตัวอย่าง Rooftop Garden


ภาพตัวอย่าง Lobby

ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษได้ที่ คลิก

เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร...?

Related Stories

Esto Talks

See All >

Living out loud

Living out loud : VANA RESIDENCE พระราม 9 - ศรีนครินทร์