รูปบทความ มาร่วมจับมือกันออกจาก “วิกฤตโลกร้อน” กันเถอะ

มาร่วมจับมือกันออกจาก “วิกฤตโลกร้อน” กันเถอะ

เมื่อโลกร้อนขึ้น ไฟป่าเกิดง่ายขึ้น ฝุ่นเยอะขึ้น สิ่งแวดล้อมจะเข้าสู่วิกฤต ทั้งป่าไม้ ภูเขา ดิน น้ำ อากาศ เราจึงควรตระหนัก ถึงการร่วมมือและเป็นส่วนหนึ่งในโลกที่ช่วยกัน ซึ่งการ Go Green ก็เป็นทางหนึ่งที่สามารถเปลี่ยนเป็นพลังที่เราจะช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติได้


1. ลดสภาพอากาศแย่ๆ

เชื่อหรือไม่ว่าเราช่วยกันลดวิกฤตนี้ได้ ด้วยการหยุดเผา หยุดทำร้ายอากาศ อย่างเช่น หยุดเผาอ้อย หยุดเผาเพื่อทำโอ่ง ฯลฯ ที่หลายๆ พื้นที่ที่เริ่มทำกันแล้ว ตอนนี้หลายๆ คนอาจจะสงสัยแล้วว่าเราจะมีส่วนในการช่วยลดการเผาทำลายอากาศได้ยังไง เริ่มต้นง่ายๆ คุณก็แค่ลองพิจารณาดูว่ากิจวัตรในประจำวันของคุณว่าเกี่ยวข้องกับการเผาอะไรบ้าง อย่างมนุษย์ในเมือง ก็คือการเผาพลังงานผ่านท่อไอเสีย ซึ่งหนทางหนึ่งที่จะทำให้ช่วยลดการเกิดมลภาวะได้ ก็คือ หันมาพึ่งรถสาธารณะมากขึ้น อาจจะแค่เดือนละครั้งหรือสองครั้งก็น่าจะดีกว่าไม่เริ่มทำเลย เพราะอุณหภูมิในโลกตอนนี้สูงขึ้นเกิน 1.5 องศาเซลเซียสแล้ว ทำให้เกิดการละลายของน้ำแข็งขั้วโลกมากขึ้น ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับเมื่อปีที่ผ่านมา ก็ยังคงสูงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านี้ซะอีก และวันนี้ก็พิสูจน์ได้ว่าอุณหภูมิเพิ่มแค่ 1 องศา โลกเราก็เริ่มแย่แล้ว


2. ลดใช้พลังงานให้น้อยลง

ผลพวงจากสภาวะอากาศที่ร้อนขึ้นในทุกวัน ทำให้เราใช้ไฟฟ้าเพื่อเปิดพัดลม เปิดแอร์ เพื่อหลีกหนีความร้อนมากขึ้น ความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้นนี่แหละส่งผลให้ภาครัฐต้องผลิตกระแสไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ซึ่งหนึ่งในวิธีที่ใช้ผลิตกระแสไฟฟ้าก็คือน้ำจากในเขื่อน และด้วยน้ำที่เหลือน้อยในปีนี้ทำให้การผลิตกระแสไฟก็สามารถทำได้น้อยลงอีกด้วย และถ้าจะถามว่าน้ำในเขื่อนมาจากไหน ก็ตกลงมาจากท้องฟ้า มันคือวัฏจักรของธรรมชาติที่ถ้าเกิดการสะดุด 1 ขั้นตอนก็จะกระทบทั้งกระบวนการ ไม่มีน้ำก็อาจไม่มีไฟใช้ในอนาคต


3. ลดการใช้น้ำที่เราใช้ในทุกวัน

เชื่อหรือไม่ว่าทุกวันนี้น้ำในเขื่อนต่างๆ ลดลงจน บางเขื่อนเหลือน้อย บางเขื่อนก็แห้งขอดจนแทบไม่เหลือ เราสามารถช่วยกันได้ด้วยการลดการใช้น้ำให้ลดน้อยลง ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้กรมชลประทาน เผยว่าใน “4 เขื่อนหลัก” ลุ่มน้ำเจ้าพระยาเหลือน้ำน้อยเต็มทีแทบทุกเขื่อน เพราะเหลือแค่เพียง 47% เท่านั้น แต่ใน 47% นั้นมีน้ำที่ใช้การได้เพียงแค่ 27% เท่านั้น* ซึ่งถือว่าน้อยมาก ส่งผลไปยังภาคเกษตรกร ภาคอุตสาหกรรม และภาคครัวเรือน การระบายน้ำมาใช้ส่วนใหญ่จึงต้องเลือกส่งไปเพื่อผลิตประปาและรักษาระบบนิเวศก่อน ดังนั้นเราจึงควรร่วมใจกันใช้น้ำอย่างประหยัด เพื่อสนับสนุนไปตามแผนฯ ที่รัฐวางไว้ เพื่อให้ปริมาณน้ำที่มีอยู่อย่างจำกัดเพียงพอใช้ไปจนถึงต้นฤดูฝนหน้านี้

(*ขอบคุณที่มา https://www.prachachat.net/economy/news-398334


4. ลดกินเนื้อสัตว์เพื่อช่วยโลก

การลดบริโภคเนื้อสัตว์มีส่วนช่วยลดภาวะโลกร้อนได้ เพราะงานวิจัยของมหาวิทยาลัยอ็อกฟอร์ดชี้ว่า กว่าจะได้เนื้อวัวครึ่งกิโลกรัมมาทานนั้นต้องผ่านขั้นตอนที่ต้องใช้น้ำมากถึง 6,800 ลิตร และ 2,180 ลิตร สำหรับเนื้อหมู ในขณะที่หากเป็นขั้นตอนการทำถั่วเหลืองครึ่งกิโลกรัมต้องการน้ำเพียง 985 ลิตร และ 400 ลิตร สำหรับข้าวโพด ซึ่งถือเป็นการลดการใช้น้ำจืดสำหรับอุปโภคได้ดีจริงๆ ซึ่งเมื่องดเนื้อสัตว์แล้ว คุณจะยังไม่ขาดโปรตีนได้ ด้วยการหันมาบริโภคอย่างอื่นทดแทนโปรตีนจากเนื้อสัตว์ได้ ด้วยถั่วและธัญพืชประเภทต่างๆ แทน 

5. ลดใช้สิ่งที่ทำร้ายธรรมชาติ

และต้องเลือกใช้สิ่งที่ดีจริงๆ กับสิ่งแวดล้อม เราต้องเป็นผู้บริโภคที่นึกถึงโลกของเรา และช่างเลือกมากขึ้น เช่นการเลือกใช้ผงซักฟอกที่เราใช้กันอยู่แทบทุกวัน เพราะการเลือกใช้ผงซักฟอกก็ส่งผลต่อแหล่งน้ำตามธรรมชาติด้วยเช่นกัน ซึ่งปัจจัยง่ายๆ ที่ต้องคำนึงถึงในการเลือกผงซักฟอกที่ดีก็คือต้องไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม อย่างผงซักฟอก เปา เอ็ม.วอช ที่มียอดขายอันดับ 1 ตลอด 8 ปีซ้อน ในกลุ่มผงซักฟอกสูตรมาตรฐานสำหรับซักเครื่อง ที่มีสารทำความสะอาดที่สกัดจากธรรมชาติจึงถือว่าเป็น Green Technology แทนสารซักฟอกที่เป็นสารเคมี เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และยังมีปริมาณฟองที่พอเหมาะพอดีกับเครื่องซักผ้าทุกประเภท ซึ่งช่วยถนอมเครื่องซักผ้าได้อย่างดี และด้วยพลังธรรมชาติจึงละลายง่าย ไม่ตกค้าง ช่วยให้คุณไม่ต้องล้างน้ำซ้ำหลายๆ รอบก็ประหยัดการใช้น้ำได้อีก เพียงเท่านี้...แค่เริ่มง่ายๆ ก็ทำให้คุณมีส่วนในการดูแลสิ่งแวดล้อมขณะซักผ้าได้ด้วย ดีต่อน้ำ ดีต่อโลก ดีต่อคุณจริงๆ






เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร...?

Related Stories

Esto Talks

See All >

Living out loud

Living out loud : VANA RESIDENCE พระราม 9 - ศรีนครินทร์