รูปบทความ ทำความรู้จักกับประเภทของบัญชีเงินฝากแบบต่างๆ

ทำความรู้จักกับประเภทของบัญชีเงินฝากแบบต่างๆ

เศรษฐกิจไม่ดี ต้องใช้วิธีการออมเข้ามาช่วย มาทำความรู้จักประเภทของบัญชีเงินฝากแบบต่างๆกันดีกว่า


ด้วยสภาวะเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน หลายๆคนคงจะเริ่มตระหนักได้ว่าคนเราทุกคนล้วนอยู่ในสถานกาณ์ที่ไม่แน่นอน เราควรที่จะมีทรัพย์สินหรือสิ่งที่ช่วยสร้างความมั่นคงให้กับเราได้ในทางใดทางหนึ่ง และหลายๆคนรุ่นใหม่ในยุคนี้ก็เริ่มหันมาสนใจด้านการลงทุนมากขึ้น ทั้งการลงทุนในกองทุนรวม การลงทุนในหุ้น การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หรืออื่นๆ ก็เพื่อจุดประสงค์และเป้าหมายในการใช้ชีวิตอย่างสุขสบายเมื่อมีความพร้อมทางการเงินทั้งสิ้น


แต่ในวันนี้เราจะไม่ได้มาพูดถึงเรื่องของการลงทุนให้อ่านกัน แต่จะเป็นการกลับไปสู่จุดเริ่มต้น Back to Basic กับรูปแบบของการจัดการการเงินที่เป็นที่นิยมมานานและคนส่วนใหญ่ก็มักจะทำกันอยู่แล้วเพื่อออมเงินนั่นก็คือ การฝากเงินกับธนาคารนั่นเอง แม้จะเป็นวิธีการเริ่มต้นการออมที่ง่ายที่สุด แต่ในปัจจุบันธนาคารต่างๆนั้นล้วนแต่ชูจุดขาย จุดเด่นของตัวเองขึ้นมา เพื่อให้ถูกใจลูกค้าและนำเงินมาเปิดบัญชี มีการแข่งขันที่สูงทั้งในรูปแบบของผลิตภัณฑ์สินค้าและบริการของธนาคาร ซึ่งก็เป็นข้อดีต่อเราที่เป็นลูกค้าที่จะได้เปรียบเทียบเงื่อนไขหรืออัตราดอกเบี้ยที่ดีที่สุด และประเภทของบัญชีเงินฝากกับธนาคารที่ที่ไม่เสียภาษีเงินหัก ณ ที่จ่ายฯ หรือได้ดอกเบี้ยเยอะที่สุดได้ ในบทความนี้เราจะมาทำความรู้จักกับประเภทบัญชีเงินฝากรูปแบบต่างๆ ดูว่าแบบไหนที่เหมาะกับสไตล์การเก็บเงินของเรา


จะเก็บเงินทั้งที ต้องเปิดบัญชีให้เหมาะสมกับพฤติกรรมการใช้เงินของเราด้วย


รู้จักประเภทบัญชีเงินฝาก : บัญชีออมทรัพย์ หรือเผื่อเรียก

    บัญชีเงินฝากธนาคารแบบแรกที่เราจะมาทำความรู้จักกันนั่นก็คือ บัญชีออมทรัพย์ หรือบางธนาคารก็เรียกว่า บัญชีเผื่อเรียก เป็นบัญชีเงินฝากที่เราสามารถเบิกเงินออกมาได้โดยไม่จำกัดจำนวนครั้งและจำนวนเงินทุกสาขาของธนาคารทั่วประเทศ (แต่ต้องเป็นธนาคารเจ้าของบัญชีนะ) แต่มีการจ่ายคืนธนาคารเมื่อมีการทวงถาม เช่น เราเปิดบัตร ATM กับธนาคารแล้วมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการใช้บัตรฯ ตามที่ตกลงกันไว้ อันนี้พอถึงเวลาที่ธนาคารทวงมาเราก็ต้องจ่าย และในบางกรณีที่มีการทำธุรกรรมเช่น ฝาก ถอน โอน นอกเขตพื้นที่การให้บริการของธนาคารก็อาจจะมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม แล้วแต่ข้อกำหนดและบริการของธนาคารเจ้าของบัญชีเงินฝากที่เราไปเก็บเงินด้วย เดี๋ยวนี้บางธนาคารก็ไม่มีค่าธรรมเนียมในกรณีต่างๆที่ว่ามาแล้ว


    สำหรับบัญชีเงินฝากธนาคารแบบออมทรัพย์ หรือเผื่อเรียกนี้ จะเหมาะกับการเก็บเงินแบบแบ่งเก็บเอง เช่น ฝากแยกเอาไว้สำหรับค่าใช้จ่ายต่างๆแต่ละเดือน แต่อาจจะไม่ได้เน้นเป็นการเก็บเงินเพื่อลงทุนหรือเก็บดอกเบี้ยในระยะยาว เพราะบัญชีเงินฝากประเภทนี้จะได้รับอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าบัญชีประเภทอื่นๆ ที่เน้นเพื่อการเก็บออมเงิน


รู้จักประเภทบัญชีเงินฝาก : บัญชีกระแสรายวัน


    บัญชีเงินฝากประเภทต่อไปก็คือ บัญชีกระแสรายวัน เป็นบัญชีที่เหมาะกับการใช้เพื่อทำธุรกิจ มีกระแสเงินเข้า-ออกตลอดเวลา หรือบ่อยครั้งมากๆ ผู้ที่จะเปิดบัญชีเงินฝากประเภทนี้จะต้องเป็นผู้ประกอบกิจการ จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลหรือพาณิชย์ แต่บัญชีประเภทนี้จะไม่มีดอกเบี้ย หรือถ้ามีก็จะต่ำกว่าบัญชีออมทรัพย์หรือเผื่อเรียก โดบบัญชีกระแสรายวันจะมีจำนวนเงินขั้นต่ำที่ใช้ในการเปิดบัญชี 10,000 บาท บัญชีประเภทนี้เมื่อเปิดแล้วธนาคารจะให้เช็คมาด้วย เพื่อทำการเบิกจ่ายเงินให้กับผู้อื่นได้ง่าย สามารถให้คนอื่นนำเช็คไปขึ้นเงินจากบัญชีของเราได้ และยังสามารถเบิกเงินเกินจากจำนวนเงินในบัญชีของเราได้ด้วย แต่ธนาคารก็จะเรียกเก็บดอกเบี้ยจากจำนวนที่เกินไปนั่นเอง

    สำหรับบัญชีเงินฝากแบบกระแสรายวันนี้ อย่างที่บอกว่าเหมาะกับคนที่ทำธุรกิจ เพราะจำเป็นจะต้องใช้เงินในการลงทุนและมีกระแสเงินเข้า-ออกอยู่ประจำ จึงสะดวกที่ไม่ต้องพกเงินเยอะๆหรือไปเบิกถอนเงินที่ธนาคาร สามารถทำการจ่ายเช็คได้เลย และช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับคู่ค้า ง่ายต่อการชำระเงินที่เป็นเครดิต เพราะสามารถสั่งจ่ายล่วงหน้าและกำหนดวันจ่ายเงินได้ แต่บัญชีประเภทนี้จะไม่เหมาะอย่างมากในการเก็บเงินเพื่อทำธุรกิจ แนะนำให้เปิดบัญชีออมทรัพย์แยกอีกบัญชีหนึ่งจะดีกว่า

รู้จักประเภทบัญชีเงินฝาก : บัญชีฝากประจำ

    และบัญชีเงินฝากธนาคารประเภทสุดท้ายในบทความนี้ คือ บัญชีฝากประจำ ที่เป็นประเภทบัญชีเงินฝากที่เหมาะที่สุดสำหรับการออมเงิน เพราะจะได้รับอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าบัญชีออมทรัพย์หรือเผื่อเรียก เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับใครที่ต้องการเก็บเงินทั้งในระยะสั้นและระยะยาว และในปัจจุบันนี้มักจะมีโปรโมชั่นหรือดอกเบี้ยพิเศษมาแข่งจันกันระหว่างธนาคาร บางครั้งก็มีแคมเปญที่ไม่ต้องเสียภาษีเงินหัก ณ ที่จ่ายฯ จากดอกเบี้ยที่ได้รับ โดยบัญชีเงินฝากประเภทนี้จะมีข้อกำหนดระยะเวลาในการฝาก เช่น 3 เดือน 6 เดือน หรือ 12 เดือน เป็นต้น แต่ระยะยาวแบบ 2 ปีก็มีเช่นกัน และบางบัญชีอาจจะมีกำหนดจำนวนเงินขั้นต่ำในการฝากแต่ละเดือน หรือบางบัญชีก็ไม่กำหนด โดยผู้ฝากเงินจะต้องนำเงินเข้าบัญชีทุกเดือน และห้ามถอนออกจนกว่าจะครบกำหนดเวลาตามบัญชี มิฉะนั้นก็จะม่ได้รับดอกเบี้ยตามที่ธนาคารกำหนดให้

    บัญชีฝากประจำนี้เหมาะกับคนที่วางแผนจะเก็บเงิน โดยเอาเงินที่แบ่งไว้จากการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันมาฝากเป็นประจำ สามารถเลือกระยะเวลาการฝากและจำนวนเงินที่จะฝากให้เหมาะสมกับตัวเองได้ เช่น ถ้าเราต้องการเก็บเงินหรือใช้เงินจำนวนประมาณ 25,000 ในปีหน้า เราก็เริ่มต้นเปิดบัญชีฝากประจำเดือนละ 2,000 บาท เป็นระยะเวลา 1 ปี ก็จะได้เงินเก็บตามที่ตั้งเป้าหมายเอาไว้พอดี








เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร...?

Related Stories

Esto Talks

See All >

Living out loud

Living out loud : VANA RESIDENCE พระราม 9 - ศรีนครินทร์