รูปบทความ  ห้องรับแขก สวยๆ สำหรับ คนอยู่ คอนโด

ESTOPOLIS | ห้องรับแขก สวยๆ มีสไตล์ เอาใจคนอยู่ คอนโด

หากพูดกันตามความเป็นจริงแล้ว ต้องบอกเลยว่า “ห้องรับแขก” เปรียบเสมือนจุดศูนย์กลางของบ้าน หรือแม้แต่ในคอนโดเองก็เช่นกัน เมื่อเราเปิดประตูเข้ามาปุ๊ป!! เราก็มักเจอ ‘ห้องรับแขก’ ก่อนเป็นอันดับแรก จึงไม่แปลกค่ะ ที่ใครหลายคนจะให้ความสำคัญกับห้องๆ นี้ เพราะนอกจากจะใช้สำหรับทำกิจกรรมต่างๆ แล้ว ห้องนี้ยังใช้เป็นพื้นที่รับแขก ต้อนรับเพื่อนฝูง ที่แวะเวียน มาเยี่ยมเยือนอีกด้วย แต่จะ ‘เลือกซื้อคอนโด’ ยังไง ให้ได้ห้องรับแขกที่ถูกใจผู้อยู่นี่สิ ……. เอาเป็นว่า ไม่ต้องเสียเวลาเดาแล้วค่ะ เพราะวันนี้ Estopolis มีวิธีเลือก ‘ห้องรับแขก’ มาฝากกัน สำหรับชาวคอนโดมือใหม่ ที่กำลังมองหาคอนโดสักห้อง :)

ควร ‘เลือกซื้อห้อง’ ทิศไหนดี?

    ทราบไหมคะ ว่าการเลือกห้องให้ถูกทิศถูกทางนั้น สำคัญพอๆ กับการเลือกแฟนสักคนเลย เพราะเมื่อเราเลือกแล้ว เราจะต้องอยู่กับมันไปอีกนานแสนนาน ถ้าเลือกห้องผิดแม้แต่นิดเดียว ก็จะส่งผลต่อการอยู่อาศัยในอนาคตแน่นอน แล้วคราวนี้ เราควรเลือกห้องทิศไหนถึงจะดีที่สุดหล่ะ??

สำหรับการ ‘เลือกซื้อคอนโด’ ห้องควรอยู่ทางทิศหนือหรือทิศใต้จะดีที่สุด!

    เหตุผลง่ายๆ เลยคือ ดวงอาทิตย์เคลื่อนที่จากทิศตะวันออกไปสู่ทิศตะวันตก ดังนั้นคนที่ต้องการห้องที่เย็นสบาย ไม่ร้อน อยู่แล้วมีความสุข ควรเลือกห้องที่มีตำแหน่งห้องอยู่ทางทิศเหนือหรือใต้ โดย ทิศใต้ จะเป็นทิศที่รับลม และไม่โดนแสงแดดมากนัก จะมีบางก็แค่ในช่วงบ่ายเท่านั้น ฉะนั้น!! ทิศใต้จึงถูกยกให้เป็นทิศที่เหมาะสำหรับการ ‘เลือกซื้อคอนโด’ มากที่สุด ส่วน ทิศเหนือ จะเป็นทิศที่แทบจะไม่โดนแสงแดดเลย เหมาะสำหรับคนที่ชอบใช้ชีวิตประจำวันอยู่แต่ในห้อง และข้อเสียที่ตามมาก็คือ ห้องที่อยู่ทางทิศเหนือจะไม่ได้รับลมด้วยเช่นกัน อาจส่งผลห้องมีกลิ่นอับ ถ่ายเทอากาศได้ไม่ดี ตากผ้าไว้ก็ไม่แห้ง 

แล้วต้องทำยังไง? ถ้าได้ห้องอยู่ทางทิศตะวันออก-ตะวันตก

    แนะนำว่าให้เลือกใช้ผ้าม่านแบบกันแสงยูวี (UV) มาติดไว้ที่ห้องรับแขก เพราะจะช่วยป้องกันความร้อนจากแสงยูวีได้ดีกว่าผ้าม่านแบบทั่วไปค่ะ

บางคอนโดจะทำรางแขวนผ้าม่านรางคู่มาให้ สำหรับแขวนผ้าม่านแบบโปร่งและทึบ ซึ่งวิธีนี้ก็จะช่วยลดปริมาณแสงแดดที่ส่องเข้ามายังตัวห้องได้ค่ะ


‘ห้องรับแขก’ ที่ดี ควรมีหน้าต่างบานใหญ่ เปิดรับแสงจากธรรมชาติ

    นอกจากต้องเลือกทิศห้องแล้ว เราก็ต้องดูด้วยค่ะว่า ห้องรับแขกของเรานั้น มีหน้าต่างเปิดรับแสงจากธรรมชาติเพียงพอแล้วหรือยัง เพราะ ‘แสงจากธรรมชาติ’ เป็นตัวช่วยหนึ่ง ที่มาทำให้ ‘ห้องรับแขกขนาดเล็ก’ ของเราดูกว้างขึ้น

ยิ่งได้รับ ‘แสงจากธรรมชาติ’ มากเท่าไร ก็ยิ่งทำให้ห้องเราน่าอยู่มากขึ้นเท่านั้น

การเลือก ‘ห้องรับแขก’ ที่มีหน้าต่างบานใหญ่ แบบในคอนโด C Ekkamai (ซี เอกมัย) ถือว่าสำคัญมากสำหรับคนที่อยู่คอนโด!!! เพราะนอกจากจะทำให้ห้องของเราดูกว้างขึ้นแล้ว ยังช่วยเรื่องการถ่ายเทอากาศและวิวในการรับชมด้วยค่ะ

หรืออย่างห้องรับแขกของคอนโด The rich Nana ก็จะเชื่อมต่อกับระเบียงพอดิบพอดี ทำให้เราสามารถมองเห็นทัศนียภาพได้อย่างชัดเจน เวลาทอดสายตาออกไปแล้วได้เห็นวิวเมืองสวยๆ แบบนี้ เป็นใคร ใครก็ชอบ :)


‘ห้องรับแขก’ ควรมีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง

    ‘ห้องรับแขก’ ถือเป็นจุดศูนย์กลางของห้อง ไม่ว่าจะดูหนังฟังเพลงก็มักจะอยู่ที่ห้องนี้เป็นส่วนใหญ่ ทั้งยังใช้ต้อนรับแขก ต้อนรับเพื่อนฝูงที่มาเยี่ยมเยียน

ห้องรับแขกที่ดี จึงควรมีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง ไม่อึดอัด

ภาพห้องรับแขกจาก รีวิวคอนโด Savvi พหลโยธิน-อารีย์

   ยิ่งมีระยะหน้าโซฟากว้างเท่าไรยิ่งดีค่ะ เพราะเราจะสามารถใช้พื้นที่ตรงนี้ทำกิจกรรมต่างๆ ได้สะดวก โดยระยะห่างจากโซฟาถึงโทรทัศน์ ควรกว้างประมาณ 1.8 เมตร เพราะผู้อาศัยจะมีระยะการรับชมโทรทัศน์ที่เหมาะสม ไม่ใกล้ไม่ไกลจนเกินไป แถมยังทำร้ายสายตาเราด้วย

ภาพจาก รีวิวคอนโด Vtara สุขุมวิท 36

ภาพห้องรับแขกจาก รีวิวคอนโด The Cube Plus มีนบุรี

คอนโด V Tara (วี ธารา) และ The Cube Plus มีนบุรี มีพื้นที่เหลือพอให้วางโต๊ะกลางเพิ่มได้

ภาพจาก รีวิวคอนโด C Ekkamai (ซี เอกมัย)

ภาพจาก รีวิวคอนโด C Ekkamai (ซี เอกมัย)

ส่วนคนที่มี ‘ห้องรับแขกขนาดเล็ก’ แนะนำว่าให้เลือก เฟอร์นิเจอร์ Built in มาใช้ในการแต่งห้องแทน จะช่วยประหยัดพื้นที่และทำให้ห้องรับแขกขนาดเล็กของคุณดูกว้างขึ้นได้ 

หรือจะใช้เป็นชั้นเก็บของแบบแขวนผนังอย่างคอนโด The Cube Plus มีนบุรี ก็จะเป็นการเพิ่มพื้นที่เก็บของให้เก็บของได้มากขึ้น มีความเป็นระเบียบมากขึ้น


แบบ ‘ห้องรับแขก’ ส่งผลต่อการอยู่อาศัย

    บางคนชอบห้องรับแขกแบบระยะหน้าโซฟากว้าง ส่วนบางคนอาจจะชอบห้องรับแขกแบบแนวยาวก็ได้ อันนี้ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลล้วนๆ ค่ะ ซึ่งห้องแต่ละแบบก็มีข้อดี-ข้อเสียต่างกันไป

ผู้อาศัยควรเลือกห้องรับแขกให้ตรงกับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง

ห้องรับแขกแบบระยะหน้าโซฟากว้าง

    หากดูจากแปลนห้องขนาด 29 ตารางเมตร ของคอนโด Fuse Miti (ฟิวส์ มิติ) แล้ว จะเห็นว่าระยะห่างจากโซฟาถึงชั้นวางโทรทัศน์กว้างมาก ทำให้เราสามารถติดตั้งโทรทัศน์ขนาดใหญ่ได้สบายๆ หรือจะซื้อโต๊ะกลางมาวางตั้งไว้ ก็ทำได้โดยไม่เกะกะขวางทางเดิน แต่ในขณะเดียวกัน เราก็จะถูกจำกัดเรื่องขนาดของโซฟา และไม่มีที่ให้วางของข้างโซฟาได้เลยค่ะ

แค่วางโซฟาขนาด 2 คนนั่งก็เต็มพื้นที่ห้องแล้ว

ห้องรับแขกแบบแนวยาว

    ส่วนแปลนห้องขนาด 32 ตารางเมตร จะกว้างประมาณ 1.6 เมตร ติดตั้งโทรทัศน์ได้ไม่เกิน 42 นิ้ว และไม่แนะนำให้วางโต๊ะกลางขนาดใหญ่ไว้ที่หน้าโซฟาค่ะ เพราะจะขวางทางเดิน ถ้าหากต้องการใช้จริงๆ แนะนำให้ย้ายมาไว้ตรงข้างโซฟาแทน จะสะดวกกว่า

ห้องรับแขกของคอนโด Fuse Miti มีพื้นที่ข้างโซฟาค่อนข้างเยอะ จึงเปลี่ยนพื้นที่ข้างโซฟาธรรมดาๆ ให้กลายเป็นโซนทานอาหารซะเลย

คอนโด Thana Astoria (ธนา แอสทอเรีย) ก็ออกแบบห้องรับแขกเป็นแนวยาว เพื่อที่จะวางโต๊ะทำงานขนาดเล็กได้


‘ห้องรับแขก’ ควรมีปลั๊กไฟติดไว้ให้ จะอุ่นใจกว่า

    ถึงบางคนจะบอกว่า “ปลั๊กไฟไม่จำเป็นต้องมีก็ได้” แต่ลองคิดดูสิคะว่า ถ้าเราต้องการนั่งทำงานที่ ‘ห้องรับแขก’ แล้วต้องพ่วงสายไฟยาวเฟื้อยมาจากห้องนอน คุณจะลำบากแค่ไหน? เพราะฉะนั้นมีปลั๊กไฟไว้น่ะ อุ่นใจกว่าแน่นอน หรือบางคนที่ต้องการแสงสว่างในการการทำงาน อ่านหนังสือ ก็สามารถซื้อโคมไฟมาตั้งเพิ่มได้ทันที ช่วยให้การใช้ชีวิตในคอนโดของคุณสะดวกขึ้น

ภาพจาก รีวีวคอนโด Vela De Condo ซอยแจ้งวัฒนะ 10 แยก 2


หาก ‘ห้องรับแขก’ อยู่ติดกับห้องครัว ควรมีแพลทติชั่นปิดมิดชิด

    คอนโดส่วนใหญ่ มักทำห้องรับแขกกับห้องครัวอยู่ติดกัน หรือไม่ก็ต้องเชื่อมต่อกันอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นเราควร เลือกซื้อคอนโด ที่กั้นแพลทติชั่นเรียบร้อย เพื่อป้องกันไม่ให้กลิ่นอาหารลอยมาติดเฟอร์นิเจอร์ หรือรบกวนการอยู่อาศัยของเรา และถ้าหากคอนโดไหน ไม่ได้กั้นแพลทติชั่นมาให้ แนะนำว่าควรทำการติดตั้งเพิ่มค่ะ เพียงเท่านี้คุณก็จะใช้ ‘ห้องรับแขก’ ได้อย่างมีความสุขแล้ว

คอนโด Moniiq สุขุมวิท 64ทำแพลทติชั่นกั้นระหว่างห้องรับแขกกับห้องครัว ทำให้กลิ่นอาหาร รวมทั้งควันไฟไม่ลอยเข้ามารบกวนการอยู่อาศัย

หรืออย่างคอนโด Doice อุดมสุข ห้องจริงจะไม่ได้กั้นแพลทติชั่นมาให้ แต่เราสามารถติดตั้งเพิ่มเติมเองได้ค่ะ จะทำเป็นบานเลื่อนเดี่ยว หรือบานเลื่อนสลับ ก็ต้องขึ้นอยู่กับลักษณะของห้องนั้นๆ ค่ะ ว่าเอื้ออำนวยให้ทำแบบไหนมากกว่ากัน อย่างห้องที่มีพื้นที่ไม่กว้างนัก แนะนำให้ติดแพลทติชั่นแบบรางแขวน เพราะจะประหยัดพื้นที่ในการติดตั้งมากกว่ารางปกติ แต่ขณะเดียวกัน ก็ไม่เหมาะสำหรับห้องรับแขกที่ปูพื้นไม้ลามิเนต เป็นต้น


‘ห้องรับแขกที่ดี’ ควรบัวผนังเพื่อความสวยงาม

   หลายคนอาจไม่ได้สังเกตที่พื้นห้องรับแขก ว่าทำการบัวผนังมาให้หรือป่าว ซึ่ง การบัวผนัง นอกจากจะทำให้ ‘ห้องรับแขก’ ดูเรียบร้อยสวยงามแล้ว ยังช่วยลดการฝังตัวของสิ่งสกปรก ที่มักซ่อนอยู่ตามร่องผนังด้วยค่ะ ทำให้เราทำความสะอาด‘ห้องรับแขก’ได้สะดวกง่ายดายยิ่งขึ้น

โดย พื้นห้องรับแขก ที่มักพบเห็นในคอนโดมิเนียมทั่วไป จะนิยมใช้ ‘พื้นไม้ลามิเนต’ กับ ‘พื้นไม้เอ็นจิเนียร์’ ซึ่งไม้ 2 ตัวนี้หากมองจากภายนอกจะดูคล้ายคลึงกัน แต่จะมีข้อดี-ข้อเสียแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานค่ะ และหากใครยังไม่ทราบว่า‘ไม้ลามิเนต กับ ไม้เอ็นจิเนียร์’ แตกต่างกันอย่างไร ก็ลองเข้าไปหาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนได้เลย คราวนี้เวลาเลือกซื้อคอนโด ก็อย่าลืมสังเกตพื้นห้องกันด้วยนะคะ


‘ห้องรับแขกที่ดี’ ต้องรู้จักดูเรื่องสีให้เข้ากับสไตล์ของห้อง

เรื่องสุดท้ายที่สำคัญไม่แพ้เรื่องอื่นๆ เลยก็คือ เรื่องของสี เพราะสีมีอิทธิพลเป็นอย่างมากสำหรับการตกแต่งห้อง โดยแนะนำให้เลือกการใช้สีตามทฤษฎี 60-30-10 ซึ่งแบ่งเป็น...

  • สีหลัก 60% : โดยมากแล้วเลือกจะใช้เป็นสีโทนพื้นอ่อนๆ อย่าง สีขาว, ครีม, เทา กัน เพื่อให้ง่ายต่อการตกแต่ง และมักจะถูกใช้เป็นสีทาผนังรอบห้องหรือเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ๆ
  • สีรอง 30% : นิยมใช้เป็นโทนสีกลาง เพื่อมาช่วยเติมเต็มให้ห้องของเรามีชีวิตชีวามากขึ้นอย่าง มักนำไปใช้กับโซฟา, พรมปูพื้น หรือผ้าม่าน
  • สีไฮไลท์ 10% : จะเป็นสีโทนเข้มที่ช่วยเสริมให้ห้องดูโดดเด่น มักใช่แต่งแต้มบนหมอนอิงบนโซฟา, ของตกแต่งบนผนัง, โคมไฟ หรือแจกัน เป็นต้น


ส่วนถ้าใครไม่รู้ว่าจะใช้สีอะไรในการแต่งห้องรับแขก Estopolis เราขอแนะนำสีเทา รับรองว่าเข้ากับทุกสไตล์การแต่งห้องแน่นอน อ่านต่อกันเลยที่ :

แจก! 21 แบบแต่งห้องรับแขกสวยๆ ด้วยสีเทา ที่เข้าได้ดีกับ 7 โทนสีสุดฮิต

ถึงห้องรับแขกจะเป็นจุดศูนย์กลางของห้อง แต่ปัจจัยในการ ‘เลือกซื้อคอนโด’ ก็ยังมีอีกหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นทำเลที่ตั้ง สภาพแวดล้อม หรือแม้แต้ชื่อเสียงของ Developer เพราะฉะนั้นก่อนตัดสินใจ ‘เลือกซื้อคอนโด’ เราควร พิจารณาสักนิด ก่อนคิดจะ ‘เลือกซื้อคอนโด’ นะคะ :)

เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร...?

Related Stories

Esto Talks

See All >

Living out loud

Living out loud : VANA RESIDENCE พระราม 9 - ศรีนครินทร์