เดือดร้อนกันเป็นแถว BTS ขึ้นราคาใหม่ สถานีรถไฟฟ้าอ่อนนุช - สำโรง
28 April 2560
ชาวกทม. คงคุ้นเคยกับการใช้รถไฟฟ้า BTS กันมานานแล้ว และหลายคนเลือกทำเลที่อยู่ คอนโดใกล้รถไฟฟ้า เพราะมันทั้งสะดวกสบาย รวดเร็ว ไม่ต้องไปเสียเวลากับรถติด เจอกับปัญหาโดนแท๊กซี่ปฏิเสธ หรือโดนโกงค่าโดยสาร แต่หลังจากที่มีการประกาศขึ้นราคาค่าโดยสารของรถไฟฟ้า BTS ส่วนต่อขยายเมื่อไม่นานมานี้ จากราคา 10 บาท เพิ่มขึ้นเป็น 15 บาท ซึ่งจะทำให้ค่าโดยสารตลอดสายเพิ่มขึ้นจาก 52 บาท เป็น 57 บาท ทำเอาชาวกทม.หลายคน เดือดร้อนกันเป็นแถว แล้วจะมีใครบ้างล่ะ? ที่ได้รับผลกระทบจาก BTS ขึ้นราคาครั้งนี้
รถไฟฟ้า BTS ได้ประกาศ ขึ้นราคาค่าโดยสารของรถไฟฟ้า BTS ส่วนต่อขยาย โดยปรับราคาบัตรโดยสารเดินทางต่อ 1 เที่ยวที่มีการเดินทางเข้าจากสถานีส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสีลม และสถานีส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสุขุมวิทไปสถานีรถไฟฟ้า 25 สถานีเดิม บัตรโดยสารสำหรับคนทั่วไป เพิ่มขึ้นจาก 10 บาท เป็น 15 บาท สำหรับผู้สูงอายุเพิ่มจาก 5 บาท เป็น 7 บาท และบัตรนักเรียนยังคงราคาเดิมคือ 10 บาท
ผู้ที่อยู่อาศัยในเส้นทางส่วนต่อขยายสายสุขุมวิท (อ่อนนุช-แบริ่ง-สำโรง) และผู้ที่อยู่ในเส้นทางส่วนต่อขยายสายสีลม (ตากสิน-บางหว้า) จะได้รับผลกระทบจากการขึ้นราคาค่าโดยสารของรถไฟฟ้า BTS ในครั้งนี้ ส่วนผู้โดยสารเดินทางภายในเส้นทางช่วง หมอชิต - อ่อนนุช และ สนามกีฬาแห่งชาติ - วงเวียนใหญ่ จะไม่ได้รับผลกระทบจากการปรับราคาดังกล่าว
คนที่เดือดร้อนมากที่สุดกับการขึ้นราคาค่าโดยสารของรถไฟฟ้า BTS ก็คงหนีไม่พ้นมนุษย์เงินเดือนอย่างเรา ที่ใช้เส้นทางดังกล่าว ต้องจ่ายเพิ่มขึ้นมากกว่าคนอื่น 5 บาท มองดูผ่านๆก็อาจเหมือนเพิ่มราคาขึ้นมาเพียงนิดเดียว แต่พอมาคิดโดยรวมแล้ว มนุษย์เงินเดือนกระจิ๊ดลิดอย่างเรา ต้องเดินทางไปทำงานด้วยรถไฟฟ้า BTS ไป-กลับทุกวัน คิดรวมๆที่ต้องจ่ายต่อเดือน ก็ถือว่าเสียเงินเพิ่มไปหลายบาทเลยทีเดียว ผู้โดยสารบางคนรู้สึกถูกเอาเปรียบ เพราะบุคคลธรรมดาทั่วไปที่ต้องเดินทางไปทำงาน แล้วต้องมาจ่ายเงินให้กับค่าโดยสารที่แสนแพง เผลอๆต้องจ่ายแพงกว่าค่าข้าวซะอีก แน่นอนว่าหลายคนต้องการความสะดวก รวดเร็ว จะให้หันไปใช้รถเมย์ ก็ต้องมาเจอกับปัญหารถติด คงไม่เหมาะกับชีวิตที่เร่งรีบของมนุษย์เงินเดือนที่ต้องรีบไปทำงานให้ทันเวลา หากไปสายโดนหักเงินเดือน ก็คงไม่คุ้มกับเงินที่จ่ายให้กับรถเมย์ที่ถูกกว่า
รถไฟฟ้า BTS ขึ้นราคาค่าโดยสาร ยังมีผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวและขาจรที่เข้ามาในกรุงเทพฯ ที่ต้องการโดยสารโดยรถไฟฟ้า และต้องจ่ายในราคาปกติ ลองมาคิดดูว่า ในหนึ่งวัน ไปหลายที่ เดินทางหลายเที่ยว ต้องเสียเงินให้กับค่าเดินทางเป็นหลายร้อยเลยก็ว่าได้
แล้วทำไมต้องมีการปรับราคาล่ะ? เหตุผลในการปรับขึ้นราคาค่าโดยสารของรถไฟฟ้า BTS เป็นเพราะว่า ทางกทม. ได้รับภาระแทนผู้โดยสารมานานแล้ว ซึ่งตั้งแต่ปี 2556 ได้เก็บค่าโดยสารในอัตรา 10 บาทตลอดสาย ทางกทม.เองจะต้องจ่ายส่วนต่างแทนผู้โดยสาร 5 บาท คิดเป็นเงินเฉลี่ยปีละ 600 ล้านบาท ด้วยเหตุนี้จึงมีการปรับขึ้นราคาเพื่อลดภาระดังกล่าว และกทม.ต้องจ่ายค่าเช่ารางให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) 8 ล้านบาท/เดือนจนกว่าจะโอนทรัพย์สินอย่างเป็นทางการ
อย่างไรก็ตาม ในปลายปี 2561 กทม.จะมีการเดินรถไฟฟ้าเต็มเส้นทางทั่วทั้งกรุงเทพฯและปริมณฑล และมีแนวคิดที่จะรื้อค่าโดยสารใหม่ทั้งหมดด้วย โดยจะคิดเป็นอัตราเหมาจ่าย แบ่งเป็นโซนพื้นที่ 3 โซน คือ
1.โซนในเมือง 10 สถานี มีสถานีสยามเป็นจุดศูนย์กลาง
2.โซนที่ 2 พื้นที่ถัดจากในเมืองอีก 10 สถานี
3.โซนที่ 3 ถัดจากโซนที่ 2 เป็นสถานีรอบนอก
และในขณะนี้มีการศึกษารายละเอียดจำนวนสถานีและอัตราค่าโดยสารกันอยู่
การได้รับผลกระทบการขึ้นราคาค่าโดยสารของรถไฟฟ้า BTS ครั้งนี้ เกิดขึ้นกับชาวกทม.และบุคคลหลายกลุ่ม และทางกทม.ได้แจ้งการปรับราคาอย่างสมเหตุสมผลหรือไม่? หากการปรับขึ้นราคา เป็นการปรับปรุงและพัฒนาระบบให้ดีขึ้นกว่าเดิม ประชาชนได้รับการบริการที่พึงพอใจ ก็คงรู้สึกคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายแพงขึ้น
บทความที่เกี่ยวข้อง
รถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย สำโรง - สมุทรปราการ กับผลกระทบต่อคอนโดและวิถีชีวิตคนกรุง
BTS แบริ่ง ทำเลทองที่น่าจับจองสำหรับคนอยากซื้อคอนโดใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียว
รถไฟฟ้าสายสีเขียว แบริ่ง - สมุทรปราการ เสร็จเมื่อไร และมีสถานีอะไรบ้าง