โครงการ ‘พระราม 4 โมเดล’ แก้ปัญหารถติดบริเวณหัวลำโพง-พระโขนง เริ่มธันวาคมนี้ถึงปีหน้า

หลังจากความสำเร็จของ ‘สาทรโมเดล’ ที่เคยดำเนินการมาแล้วในช่วงระหว่างปี 2557 - 2560 ด้วยการนำเอามาตรการต่าง ๆ มาช่วยบรรเทาความติดขัดของการจราจรบนถนนสาทร อย่างการควบคุมสัญญาณไฟจราจร, การจัดช่องจราจรพิเศษ, การใช้ระบบรถรับส่งอัจฉริยะ, มาตรการเหลื่อมเวลาทำงาน, มาตรการจอดแล้วจร และมาตรการอื่น ๆ

ซึ่งผลจากการดำเนินงานพบว่า... สภาพการจราจรบนถนนสาทรเหนือขาเข้าจากบริเวณ ‘สี่แยกสาทร’ ถึง ’สี่แยกวิทยุ’ ในชั่วโมงเร่งด่วนช่วงเช้านั้นคล่องตัวมากขึ้น โดยมีค่าเฉลี่ยปริมาณการระบายรถเพิ่มขึ้น 422 คันต่อชั่วโมง, ความคล่องตัวเพิ่มขึ้น 12.6%, ความเร็วในการเดินรถเพิ่มขึ้นจาก 8.8 เป็น 14.8 กม./ ชม. และความยาวแถวลดลง 1 กม. (ในชั่วโมงเร่งด่วน) ส่วนทางด้านความยาวของรถที่ติดสะสมจากสะพานตากสินไปจนถึงฝั่งธนบุรีก็ลดลงจากปกติ นับเป็นภาพสะท้อนที่ทำให้เห็นถึงประสิทธิภาพ และความสำเร็จจากการร่วมมือกันของทุกภาคส่วนในสังคม

เริ่มต้นอีกหนึ่งโมเดลใหม่
เพื่อแก้ไขการจราจรอย่างยั่งยืน

ต้องบอกว่า โจทย์ที่ท้าทายเพิ่มขึ้นไปอีกระดับ สำหรับการต่อยอดใหม่ในครั้งนี้กับโครงการ ‘พระราม 4 โมเดล’ ที่มีความยากเพิ่มขึ้น และแตกต่างจากตัว ‘สาทรโมเดล’ เพราะหากจะเท้าความถึงสภาพปัญหาที่แตกต่างกันของทั้ง 2 พื้นที่ให้เห็นภาพชัดเจน คงอธิบายได้ว่า…

• ถนนสาทร : มีระยะทางไม่ยาว และมีกิจกรรมสองข้างทางไม่มากนัก ส่วนใหญ่จะเกิดความติดขัดแค่ในช่วงเวลาเร่งด่วน เนื่องจากผู้ปกครองที่ขับรถรับ-ส่งนักเรียน และผู้คนที่เข้ามาทำงานในย่านนี้เสียเป็นส่วนใหญ่

• ถนนพระราม 4 : ระยะทางรวม 12 กิโลเมตร และมีกิจกรรมสองข้างทางที่มากกว่า ทั้งที่อยู่อาศัย, อาคารสำนักงาน รวมไปถึงพื้นที่ธุรกิจต่าง ๆ อีกทั้งยังมีสภาพการจราจรหนาแน่นตลอดทั้งวัน ไม่ใช่เฉพาะแค่ช่วงเวลาเร่งด่วน

ทั้งนี้ โครงการ ‘พระราม 4 โมเดล’ จะได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงคมนาคม กรุงเทพมหานคร, กองบัญชาการตำรวจนครบาล, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, แกร็บ ประเทศไทย และมูลนิธิโตโยต้า โมบิลิตี โดยจะมาร่วมกันใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่และข้อมูลขั้นสูง จากฐานข้อมูลของทุก ๆ หน่วยงานมาร่วมกันวิเคราะห์ และคาดการณ์รูปแบบการจราจรตลอดทั้งเส้นทาง เพื่อนำไปสู่การปรับปรุงการจราจรช่วงถนนพระราม 4 ให้ถูกจุด ยั่งยืน และมีประสิทธิภาพ

ส่วนในเฟสต่อ ๆ ไปนั้น จะเริ่มขยายไปยังถนนสุขุมวิท, ถนนเจริญกรุง และถนนโดยรอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ตามลำดับ ส่วนทางด้านของเฟสแรกสำหรับ ‘พระราม 4 โมเดล’ จะใช้เวลาดำเนินการ 18 เดือน เริ่มตั้งแต่เดือนธันวาคม 2562 โดยจะใช้เวลารวบรวมข้อมูล และกำหนดมาตรการประมาณ 12 เดือน จากนั้นจะเริ่มทดลองมาตรการต่าง ๆ เพื่อให้ได้แนวทางที่ครอบคลุมและรอบด้านมากที่สุด ก่อนจะส่งมอบโครงการให้ภาครัฐนำไปเป็นแนวทางแก้ไขปัญหาการจราจรต่อไป...