รูปบทความ ในวันที่เราต้อง ห่ า ง กัน : ทำไมต้อง Social Distance

ในวันที่เราต้อง ห่ า ง กัน : ทำไมต้อง Social Distance


ใครจะคิด ว่าคำว่า “รวมกันเราอยู่” จะใช้ไม่ได้อีกต่อไปในสถานการณ์แบบนี้ แต่การอยู่ให้ ห่ า ง กันเข้าไว้ กลับเป็นเรื่องดีที่จะทำให้เรารอดผ่านวิกฤตนี้ไปได้

สิ่งนี้เรียกว่า Social Distancing หรือ การเว้นระยะห่างทางสังคม ซึ่งจะสามารถลดอัตราการแพร่ระบาดของเชื้อ Covid-19 ได้


เเละเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา ไทยเราก็เพิ่งที่จะประกาศใช้ พ.ร.ก ฉุกเฉิน โดยที่ข้อหนึ่งที่ระบุไว้อย่างชัดเจนเเละเป็นข้อที่ต้องขอความร่วมมือจากทุกคนอย่างจริงจัง “ห้ามบุคคลใดออกนอกเคหสถาน ภายในระยะเวลาที่กำหนด” ถือเป็นสัญญาณเตือนเเล้วว่า “เราควรที่จะเว้นระยะห่างซึ่งกันเเละกัน หรือ Social Distance” อย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยของตัวเราเอง คนรอบข้าง เเละคนที่เรารัก 



Social Distance


การหลีกเลี่ยงที่จะติดต่อหรือสัมผัสกับคนอื่น เพราะไม่มีใครรู้ได้เลยว่า เราติดเชื้อไวรัสเเล้วหรือยัง? ถือเป็นมาตรการป้องกันไม่ให้เราหรือใครมาเเพร่เชื้อให้กันเเละกัน เเละเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการช่วยลดภาระการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ ก่อนที่เจ้าโรคร้ายชนิดนี้จะเเพร่กระจายอย่างรวดเร็วไปมากกว่านี้ เเต่ก็ต้องเเลกมาซึ่งภาวะเศษฐกิจที่ถดถ้อย ยิ่งหากใครทำอาชีพอิสระ นั้นก็หมายความว่า คุณกำลังจะขาดรายได้ เนื่องจากงดกิจกรรมทุกอย่างที่ทางสังคม ทำได้เพียงเเต่กิจกรรมเล็กๆ ไม่พบปะผู้คนหมู่มาก ที่สามารถทำในภายในบ้านของเราเองได้ เช่น การทำงานที่บ้าน หรือ Work from home ของพนังงานบริษัท


Social Distance กับ 7 เเนวทางข้อปฏิบัติ


จากสถานการณ์ที่ไม่มีทีท่าว่าจะมีเเนวโน้มเบาบางหรือดีขึ้นไปกว่าที่เป็นตอนนี้ องค์การอนามัยโลกและหน่วยงานสาธารณสุขของแต่ละประเทศได้เสนอข้อเเนะนำดังต่อไปนี้ 



  1. ระยะห่างระหว่างบุคคลที่ปลอดภัยคือ 6 ฟุต หรือ 2 เมตร

เพราะเป็นระยะที่ฝอยละอองน้ำลายกระเด็นไม่ถึงในขณะที่เรากำลังสนทนาหรือพูดคุยกับฝ่ายตรงข้าม เเต่หากในกรณีที่หลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ การที่เราต้องสนทนาในระยะที่ใกล้ชิด ก็จำเป็นที่จะต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าเเละไม่ลืมที่จะพกแอลกอฮอล์เจลติดตัวไว้เสมอ 



2. งดร่วมกิจกรรมสังสรร ชุมชน หรือกิจกรรมใดๆ

การงดกิจกรรมใดๆ ก็เเล้วเเต่ที่มีจำนวนมาร่วมงานเกินกว่า 50 คนขึ้นไป เช่น งานปาร์ตี้วันเกิด, ปาร์ตีหลังเลิกงานที่สถานบันเทิง ไปจนถึงงานบวช เเละงานศพ 



3. ไม่สัมผัสซึ่งกันเเละกันในระยะใกล้ชิด

การไม่สัมผัสกันเเละกันในระยะใกล้ชิด ข้อนี้ถือเป็นข้อที่ทำให้คู่รักหลายๆ คู่เจ็บปวดหัวใจ เพราะไม่ว่าเป็น การจับมือถือเเขน ไปจนถึงการกอด หรือ Good night kiss นั้น ถ้าเป็นไปได้ ช่วงนี้งดการสัมผัสกันเเละกัน ถือเป็นอะไรที่ดีที่สุด เพราะอย่างที่บอกเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่า เราหรือคนรัก ใครคนใดหนึ่งที่ติดเชื้ออยู่ 



4. ไม่นำตัวเองเข้าไปในสถานที่กลุ่มเสี่ยงหรือในที่สาธารณะ

เราไม่ควรพาตัวเองไปสถานที่ใดก็ตามที่เป็นที่สาธารณะ มีผู้คนใช้ร่วมกันเป็นจำนวนมาก เช่น โรงภาพยนตร์, ห้องสรรพสินค้า



5. งดการประชุมในห้องที่เก้าอี้เรียงรายติดกันเป็นจำนวนมาก

ในกรณีที่จำเป็นต้องประชุมในห้องรูปเเบบนี้จริงๆ ควรนั่งเว้นระยะห่างกันตามที่กำหนด เพื่อความปลอดภัยของทุกคนในห้องประชุมนั้น เเต่ทางที่ดีที่สุดในช่วงสถานการณ์เช่นนี้ บวกกับความก้าวหน้าของเทคโนโลยีในยุคดิจิทัลเเล้วนั้น การประชุมพบปะกันในช่องทางออนไลน์ผ่านอินเตอร์ ถือเป็นวิธีการที่ดี เเถมยังปลอดภัยมากอีกด้วย 



6. หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่ร้าน

ณ ตอนนี้ เกือบทุกร้านในไทยก็เริ่มใช้มาตรานี้ ตามที่รัฐบาลได้ประกาศไว้ เเต่เราก็ยังสามารถอิ่มอร่อยได้เหมือนเดิม ผ่านการสั่งซื้อเเบบ Take Away หรือทางร้านก็มีเเบบสั่งออนไลน์ส่ง Delivery ผ่านเเอปพลิเคชันต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Food Panda, Get Food, Grab Food หรือ Line Man ก็มีให้บริการ 



7. งดการทำงานที่บริษัทหรือเข้าออฟฟิศ

การงดทำงานที่บริษัทหรือเข้าออฟฟิศ ด้วยการ Work from home ทำงานอยู่ที่บ้าน เเละสื่อสารพูดคุย ประชุมงาน ผ่านเเอปพลิเคชันต่างๆบนช่องทางออนไลน์ รวมไปถึงสถาบันการศึกษา ที่ต้องเปลี่ยนระบบรูปเเบบการเรียนการสอน เป็นเเบบออนไลน์เช่นกัน


ทั้ง 7 ข้อเเนะนำ Social Distance ที่เราทุกคนควรร่วมเเรงร่วมใจกันปฏิบัติตามนี้ ก็เพื่อความปลอดภัยของตัวเราเองด้วย เเละความปลอดภัยของคนรอบข้ามที่ไม่ได้หมายถึงเเค่คนในครอบครัว เเต่ยังหมายถึงเพื่อน พี่ ป้า น้า คนรัก ได้ปลอดภัยไม่ติดเชื้อโควิด เพื่อที่ในวันข้างลหน้า หลังจากควบคุมสถานการณ์ได้เเล้ว พวกเราทุกคนจะได้กลับมาใช้ชีวิตด้วยกันอย่างเเฮปปี้กันอีกครั้ง



เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร...?

Related Stories

Esto Talks

See All >

Living out loud

Living out loud : VANA RESIDENCE พระราม 9 - ศรีนครินทร์