รูปบทความ ‘เลือกเฟอร์ให้ถูก คุมสีให้อยู่’ เท่านี้ก็ได้ห้องใหม่ที่กว้างขึ้นแล้ว

‘เลือกเฟอร์ให้ถูก คุมสีให้อยู่’ เท่านี้ก็ได้ห้องใหม่ที่กว้างขึ้นแล้ว


หลังจากที่เราแชร์เทกนิก ‘2+1 จัดแปลนและเลือกเฟอร์นิเจอร์ให้เหมาะ กับการ Work from Home ช่วยให้ผ่อนคลายในห้องทำงานส่วนตัว’ กันไปแล้ว มาบทความนี้ เราจะเพิ่มเทกนิกอีกเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่จะทำให้ห้องของคุณดูกว้างขึ้น เพราะหลายคนตอนนี้ชักเริ่มจะอุดอู้กับห้องเล็ก ๆ ของตัวเองแล้ว งั้นเรามาเริ่มปรับห้องกันใหม่เสียหน่อย รับรองว่าทำได้ไม่ยาก แค่ลองโยกย้าย ปรับเปลี่ยน จัดแจงสักหน่อย ก็ทำให้ห้องเราดูกว้าง เหมือนใหม่ ขึ้นได้ไม่ยาก เพียงแค่เลือกวางเฟอร์นิเจอร์ให้ถูกควรเท่านั้นเอง





คุมโทนสี สำคัญ!


ห้องสีขาว ตัดด้วยผ้าปู, ผ้าม่าน, พรม และกรอบรูปสีดำ

อันดับแรกเลย ถ้าอยากได้ห้องโฉมใหม่ไฉไลกว่าเดิม จะต้องเริ่มสร้างบรรยากาศห้องใหม่ก่อน วิธีการก็ไม่ยาก ทำได้ง่าย ๆ ด้วยการคุมโทนสี ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์, ปลอกหมอน, ผ้าปูที่นอน, พรม และของตกแต่งอื่น ๆ แต่อย่าเข้าใจผิดนะ การคุมโทนสีไม่ใช่การใช้สีเดียวกันหมดทั้งห้อง แต่เป็นการใช้เทกนิกในการเล่นสีเพิ่มลูกเล่นในการตกแต่งห้อง อย่างเช่น ขาว-ดำ ก็สามารถทำให้ห้องดูเก๋ เรียบ มีสไตล์ได้ หรือใครอาจจะชอบแนวหวาน ๆ ก็เป็นสีพาสเทล ไล่ระดับสีอ่อน-เข้ม แต่เป็นสีโทนเดียวกันก็สามารถทำให้บรรยากาศของห้องดูดีขึ้นมาได้


สีหลักของห้องเป็นโทนสีขาวออกครีม ตัดสีให้ไม่น่าเบื่อด้วยของตกแต่งที่มีโทนสีสดใสไปในทิศทางเดียวกัน

การเลือกโทนสีห้องโดยรวมนั้นส่งผลต่อความรู้สึกและภาพรวมของห้อง ไม่ต่างจากการที่เราซื้อธีมไลน์เพื่อเปลี่ยนภาพที่เคยคุ้นตาให้แปลกตามากยิ่งขึ้น ถ้าอยากให้ห้องดูใหญ่และกว้างขึ้น สีที่ควรเลือกใช้คือสีโทนสว่าง อย่างเช่น สีขาวหรือสีอ่อน ๆ แต่อาจจะเลือกเฟอร์นิเจอร์หรือผ้าปูไปในโดนสีเข้มเพื่อให้เกิดการตัดสีกัน ไม่ให้ห้องดูจืดชืดและน่าเบื่อจนเกินไป หรืออยากจะแต่งเป็นโทนสีเข้มก็สามารถทำให้ห้องนั้นดูเงียบสงบ สำหรับใครที่ชอบความเงียบก็อาจจะลองเป็นโทนเข้ม ๆ ดูก็ได้



ลองเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่มีฟังก์ชันครบดูสิ 


ถัดจากการคุมโทนสีก็คงต้องเลือกเฟอร์นิเจอร์กันบ้างแล้ว เพราะเป็นสิ่งที่เราต้องใช้สอยกันในชีวิตประจำวัน เฟอร์นิเจอร์หลัก ๆ โดยทั่วไปแล้วก็จะประกอบไปด้วยเตียง, โต๊ะ, ตู้เสื้อผ้า, โซฟา, เก้าอี้ และสิ่งของอย่างอื่นอีกมากมาย แต่ถ้าจะให้ซื้อเฟอร์นิเจอร์ให้ครบถ้วนทั้งหมดที่ต้องใช้ก็คงจะไม่มีเงินเหลือใช้อีกแล้วและทำให้งบบานปลาย แต่เราสามารถประหยัดได้ง่าย ๆ ด้วยการเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่มีประโยชน์ต่อการใช้งานมากกว่า 1 อย่างเช่น เตียงที่มีลิ้นชักเก็บของ หรือว่าโต๊ะที่พับเก็บ เก้าอี้อเนกประสงค์ เป็นต้น ทางเลือกนี้สำหรับใครที่อยากหาเฟอร์นิเจอร์แต่งบ้านใหม่



ตัวอย่างของการจัดวางราวแขวนเสื้อผ้าไว้ปลายเตียง เพื่อลดพื้นที่ใช้สอยในส่วนอื่น


แต่ใครที่มีเฟอร์นิเจอร์อยู่แล้ว ยังใช้งานได้อยู่ก็ไม่ต้องทิ้ง แค่ลองปรับโยก จัดแจงตำแหน่งให้เป็นระเบียบขึ้นก็สามารถทำให้ห้องเราสะอาดและดูเรียบร้อยได้ไม่ยาก



เปลี่ยนห้องเล็กเป็นห้องใหญ่ได้ด้วยทริกง่าย ๆ


เลือกวางกระจกไว้ที่มุมของห้อง


ถึงแม้ว่าห้องเราจะเล็กไม่ใหญ่เท่าห้องราคาแพง แต่เราก็สามารถเนรมิตห้องเล็ก ๆ ของเราให้ดูใหญ่ได้ไม่ยากด้วยเทกนิกหลอกตา โดยไม่ต้องใช้เงินจำนวนมาก เพียงแค่มีกระจกและพรมก็เพียงพอแล้ว เพราะกระจกมีประโยชน์มากกว่าการส่องดูร่างกายของเรา แต่ยังสามารถนำมาตกแต่งบ้านได้ในหลากหลายรูปแบบ กระจกจะเป็นตัวช่วยให้ห้องดูโปร่ง โล่ง และดูกว้างมากขึ้น ยิ่งถ้าเลือกกระจกที่เข้ากับเฟอร์นิเจอร์อื่น ๆ ด้วยก็สามารถทำให้ห้องดูมีสไตล์ได้ เพียงแค่วาง หรือติดกระจกให้เหมาะสม จริง ๆ ควรอยู่ในตำแหน่งที่สะท้อนหน้าต่าง หรือตั้งไว้ตรงมุมห้องที่ว่างอยู่ จะช่วยให้ห้องมีมิติมากขึ้น ทั้งนี้หากใครถือเรื่องฮวงจุ้ยก็ต้องศึกษาดี ๆ เพื่อให้ได้ห้องที่สวยและอยู่สบายด้วย


พรมขนาดใหญ่จะทำให้ห้องดูกว้างขึ้น

อีกหนึ่งตัวช่วยที่บอกไปตอนต้นว่าสามารถทำให้ห้องดูกว้างขึ้นก็คือ พรม เพราะพรมที่มีลักษณะกว้าง จะช่วยให้ห้องดูใหญ่และหรูขึ้น นอกจากประโยชน์ในการที่ทำให้ห้องดูใหญ่ขึ้นแล้ว ยังเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยแบ่งพื้นที่ในการใช้สอยได้ เช่น การปูพรมไว้ในตำแหน่งที่ว่างของห้อง เพื่อให้ห้องดูมีสัดส่วนและกว้างมากขึ้น และเมื่อวางในตำแหน่งของโซฟาก็จะได้พื้นที่สำหรับนั่งบนพื้นได้โดยไม่ต้องมีฉากแบ่งกั้นที่จะทำให้ห้องดูทึบและแคบ


วางเฟอร์นิเจอร์ชิดมุม เหลือพื้นที่ไว้ตรงกลาง เพื่อให้ห้องดูโล่ง

หากไม่อยากวางพรมหรือติดกระจก ก็สามารถจัดการห้องให้กว้างได้โดยการจัดห้องแบบชิดมุม เป็นรูปแบบของการจัดห้องที่นำเฟอร์นิเจอร์และข้าวของเครื่องใช้ทุกชิ้นขยับไปไว้คิดผนัง เพื่อให้เหบือพื้นที่ตรงกลางแบบโล่ง ๆ เป็นทริกที่สามารถช่วยพรางตาทำให้ห้องดูกว้างและให้ความรู้สึกโปร่งมากขึ้น ห้องเป็นระเบียบ และได้ห้องที่สวยขึ้นได้อีกด้วย



จัดแสงไฟให้ถูกสี


นอกจากโทนสีที่บอกไปข้างต้นจะช่วยทำให้บรรยากาศของห้องเปลี่ยนไปแล้ว แสงก็ยังเป็นส่วนสำคัญในการทำให้ห้องดูดีขึ้นได้ แสงสว่างและแสงไฟจะส่งผลต่ออารมณ์และความรู้สึกของผู้อยู่อาศัยได้เช่นเดียวกันกับสีห้อง ซึ่งสีไฟที่เหมาะจะใช้กับห้องก็จะมีอยู่ 2 อย่าง คือ Warm White และ Day Light ซึ่งจะให้ความรู้สึกแตกต่างกันไป ตามต้องการ


Warm White


แสงแบบ Warm White จะเป็นไฟโทนสีส้มหรือสีเหลืองนวลจะเหมาะกับห้องที่ไม่ต้องการแสงสว่างมาก เช่น ห้องนั่งเล่นหรือห้องนอน ก็จะได้โทนสีแบบละมุน ๆ ดูอบอุ่น นุ่มนวล


Day Light


แสงแบบ Day Light จะเป็นไฟโทนสีขาวสว่างที่เห็นได้ง่ายทั่วไปจะเหมาะกับห้องที่ต้องการแสงสว่าง เช่น ห้องครัว ห้องน้ำ ห้องทำงาน ซึ่งแสงไฟจะช่วยให้ห้องดูสว่าง โปร่งโล่งและกว้างขึ้น สำหรับใครที่อยากได้ห้องแบบมินิมอลก็สามารถเลือกโดนสีนี้ไปใช้ได้


แต่ถ้าใครใช้งานทั้งห้องนอนและห้องทำงานในตัว ไฟแบบปรับเปลี่ยนสีได้ตามใจ ก็มีขายตามท้องตลาดทั่วไปแล้วนะ ลองไปเลือกดู หาซื้อมาติดที่ห้องกันได้ ราคาเริ่มต้นสบายกระเป๋าตั้งแต่หลักร้อยเป็นต้นไป แต่ยิ่งราคาสูงขึ้น ความสามารถในการใช้งานก็จะยิ่งมากขึ้นด้วย เช่นการสั่งงานผ่านเสียง, การสั่งงานผ่านแอปพลิเคชัน, การใช้งานเป็นลำโพงในตัว และอื่น ๆ อีกมากมาย



อย่าปล่อยให้ผนังโล่ง


ถึงแม้เราจะมีโทนสีแสงสว่าง หรือเฟอร์นิเจอร์มาช่วยในการปรับแต่งห้องแล้ว แต่ผนังก็เป็นส่วนสำคัญในการตกแต่งห้องให้ดูดีเช่นเดียวกัน การแต่งผนังห้องนั้นไม่ยาก สามารถนำของที่มีอยู่แล้วอย่างเช่น โปสการ์ด สติกเกอร์ หรือปรินท์รูปสวย ๆ ตามสไตล์ที่ชอบมากแปะผนังก็ได้ ตามใจชอบ แต่จะมีอยู่เทรนด์หนึ่งที่มาแรงในช่วงนี้คือการแขวนกรอบรูปแบบไม่มีรูป ใช้เพียงกรอบรูปเปล่า ๆ ห้องไว้ที่ผนัง อาจจะมีการนำไปทาสีใหม่ แล้วจัดเรียงไล่สี ไล่ขนาดตามใจชอบ ก็จะช่วยให้ห้องดูมีกิมมิก ดูแพรวพราวในการตกแต่งห้องมากขึ้น หรือใครไม่มีอุปกรณ์ตกแต่ง การติดวอลเปเปอร์ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยแก้ไขเรื่องผนังห้องโล่งได้ ถ้าต้องการประหยัดงบก็แค่เลือกวอลเปเปอร์ที่ชอบแล้วติดไว้ด้านใดด้านหนึ่งของผนังก็เพียงพอแล้ว




สำหรับใครที่อยากเปลี่ยนห้องแคบให้เป็นห้องกว้างก็สามารถนำวิธีเหล่านี้ไปใช้ได้ เพราะเป็นวิธีที่ไม่ยาก เราสามารถทำเองได้และแทบจะไม่ต้องเสียเงินเลย เพียงแค่ลองจัดห้องให้เป็นระเบียบและลองหาแบบที่ตรงใจเรา เพียงเท่านี้ เราก็สามารถมีห้องในฝันได้ง่าย ๆ แล้ว


เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร...?

Related Stories

Esto Talks

See All >

Living out loud

Living out loud : VANA RESIDENCE พระราม 9 - ศรีนครินทร์