ปักหมุด 3 ไอเดีย แต่ง Walk-in closet ด้วยการจัดแปลนให้ลงตัว

ห้องแต่งตัว หรือ Walk-in closet เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่มีความสำคัญที่สุดภายในที่อยู่อาศัย เนื่องจากเป็นฟังก์ชันที่ขาดไม่ได้เลย โดยเฉพาะคุณผู้หญิงที่ต้องแต่งหน้า-แต่งตัวเป็นเวลานาน ดังนั้นการออกแบบโดยการจัดแปลนบวกกับเลือกขนาดของตู้เสื้อผ้าให้เหมาะกับพื้นที่ภายใน

Esto เลยมีเทคนิคสำหรับการจัดแบบแปลน พร้อมกับการเลือกประเภทของตู้เสื้อผ้า 3 แบบ ประกอบด้วย I-Shape, L-Shape และ U-Shape ให้สอดคล้องกับแบบแปลน เพื่อให้เกิดความลงตัวในการใช้งาน

เรียบง่ายใช้งานสะดวกด้วย Walk-in closet แบบ I-Shape

หลักการวางแบบแปลน Walk-in closet โดยใช้ ตู้เสื้อผ้าแบบ I-Shape สามารถทำได้ง่ายๆโดยเลือกนำไปติดตั้งให้เข้ากับผนังกำแพงด้านใดด้านหนึ่งของห้อง หากบ้านของใครมีขนาดจำกัด ให้รวมฟังก์ชันเข้ากับห้องนอน

โดยการจัดแบบแปลนภายในที่อยู่อยู่อาศัยโดยใช้ตู้เสื้อผ้าแบบ I-Shape ได้รับความนิยมสูงสุด เพราะสามารถนำเข้าไปติดตั้งภายในพื้นที่จำกัดได้ โดยจะเลือกเป็นชุดตู้เสื้อผ้าแบบลอยตัว หรือ Built-in Furniture ก็ได้ ในกรณีที่ต้องการให้มีขนาดที่ชัดเจน

ซึ่งตู้เสื้อผ้าขนาดมาตรฐานอยู่ที่ 150 x 57 x 180 ซม. โดยประมาณ และมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 3000 - 5000 บาท (เฟอร์นิเจอร์ลอยตัว) ส่วนตู้เสื้อผ้าแบบ Built-in จะตกอยู่ตารางเมตรละ 900 บาท ไม่ร่วมค่าวัสดุและการออกแบบ

ขยายความสุขด้วย Walk-in closet แบบ L-Shape

มาต่อกันที่การจัดแบบแปลนโดยใช้ Walk-in closet แบบ L-Shape กันบ้าง โดยการดีไซน์ Lay-out ภายในของแบบแปลนนี้ จะต้องการพื้นที่มากกว่า Walk-in closet แบบ I-Shape เพราะการออกแบบจะเน้นการจัดวางในลักษณะตัว L แนบชิดผนังแบบเข้ามุม

ดังนั้นตู้เสื้อผ้าที่เลือกมาในกรณีที่เป็นแบบลอยตัวสามารถนำตู้เสื้อผ้า 2 ชื้น มาวางต่อกันแบบเข้ามุม ซึ่งขนาดปกติของตู้เสื้อผ้าชนิดนี้อยู่ที่ 208 x 42 x 291 ซม. โดยมีราคาเฉลี่ย 1 - 3 หมื่นบาทโดยประมาณ

ตู้เสื้อผ้าแบบ L-Shape นอกจากสามารถใส่เสื้อผ้าได้เยอะแล้ว ยังประยุกต์ใช้งานภายในห้องอื่นๆได้ด้วย เช่น ห้องนอน แต่แนะนำให้แยกพื้นที่สัดส่วนโดยการสร้างฉากกั้นให้ชัดเจน เพื่อแบ่งระยะการใช้งานให้ลงตัวขึ้นกว่าเดิม

ใช้งานได้อย่างจุใจด้วย Walk-in closet แบบ U-Shape

ไอเดียการจัดแบบแปลนรูปแบบสุดท้าย โดยใช้ร่วมกับ Walk-in Closet แบบ U-Shape โดยการวางตู้เสื้อผ้าในลักษณะนี้ให้เข้ากับ Lay-out plan ภายใน พื้นที่เป็นสิ่งสำคัญมาก หากมีพื้นที่จำกัดจะไม่สามารถรถวางตู้เสื้อผ้าได้ หรือก่อให้เกิดความอึดอัดในการใช้งาน

ดังนั้นการจัดแบบแปลนโดยใช้ชุดผู้เสื้อผ้าแบบ U-Shape ต้องแยกสัดส่วนพื้นที่การใช้งานออกเป็นของตัวเอง โดยการแยกให้เป็นห้องแต่งตัวโดยเฉพาะ และนำชุดตู้เสื้อผ้าเข้าไปจัดวางโดยเว้นระยะทางเดินตรงกลาง ประมาณ 0.80-1.20 เมตร

ในบางกรณีถ้าพื้นที่ Walk-in closet มีพื้นที่กว้างมากพอ อาจต่อเติมเคาน์เตอร์สำหรับเก็บสัมภาระอื่นๆ เช่น ถุงเท้า, รองเท้า, เทคไท ฯลฯ ก็จะช่วยเพิ่มฟังก์ชันการใช้งานได้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

สำหรับไอเดียการจัดวางแปลนภายในห้องแต่งตัว ให้เหมาะกับ Walk-in Closet ในลักษณะต่างๆ จะทำให้เพื่อนๆสามารถนำไปประยุกต์ใช้ เพื่อให้เข้ากับที่อยู่อาศัยของตัวเอง