7-11 และ Amazon สร้างร้านค้าอัจฉริยะ ไม่มีพนักงาน ไม่ต้องต่อคิว ไม่ต้องจ่ายเงินสด!

ไม่ใช่เรื่องฝันอีกต่อไปกับ ร้านค้าอัจฉริยะแบบใหม่ ที่ทั้งสะดวก รวดเร็ว ไม่ต้องต่อคิว ไม่ต้องจ่ายเงิน และไม่ต้องใช้พนักงาน

ถือเป็นการยกระดับความประทับใจของการใช้บริการร้านสะดวกซื้อขึ้นอีกหนึ่งขั้นกับ 'ร้านค้าอัจฉริยะ' จากสองผู้ประกอบการรายใหญ่อย่าง 7-11 และ Amazon ที่พลิกโฉมร้านสะดวกซื้อธรรมดาๆ ให้พิเศษยิ่งขึ้นด้วยเทคโนโลยีทันสมัย พร้อมอำนวยความสะดวก และประสบการณ์จับจ่ายซื้อสอยในรูปแบบใหม่ให้กับผู้บริโภค 

7-11 ในรูปแบบร้านค้าอัจฉริยะที่ Lotte World Tower ประเทศเกาหลีใต้

เรียกว่าเป็นร้านสะดวกซื้อในดวงใจของคนไทยเลยก็ว่าได้กับ 7-11 ด้วยสโลแกน 'หิวเมื่อไรก็แวะมา' ทำให้คนไทยอดไม่ได้ที่จะเดินเข้า-ออก  7-11  กันเป็นว่าเล่น แต่ก็ไม่ใช่แค่ในประเทศไทยเท่านั้น 7-11 ในต่างประเทศก็บูมไม่แพ้กัน โดยเฉพาะในประเทศเกาหลีใต้ที่นำร่องเปิด 7-11 โฉมใหม่ ภายใต้ความร่วมมือระหว่าง Lotte Card, Lotte Data Communication และ 7-11 เปิดให้บริการ 7-11 ในแบบ “Smart Convenience Store” แห่งแรกของโลก ภายใน Lotte World Tower ประเทศเกาหลีใต้

จุดเด่นของ 7-11 ในรูปแบบร้านค้าอัจฉริยะนี้คือ ไม่จำเป็นต้องมีพนักงาน ไม่ต้องใช้เงินสด บัตรเครดิต หรือ E-Payment เพื่อชำระเงิน ใช้แค่ฝ่ามือเท่านั้น

ภายในร้านค้าอัจฉริยะแห่งนี้ จะมีระบบการชำระเงินที่เรียกว่า 'BioPay' ซึ่งเป็นเทคโนโลยี Biometric ใช้ในการตรวจสอบลักษณะทางกายภาพและพฤติกรรมของมนุษย์ ลูกค้าจึงสามารถชำระค่าสินค้าและบริการได้ด้วย HandPay เป็นการจ่ายค่าบริการผ่านฝ่ามือ ทำให้ไม่จำเป็นที่จะต้องพกเงินสด, บัตรเครดิต หรือจ่ายด้วย E-Payment ให้ยุ่งยาก โดยลูกค้าจำเป็นต้องลงทะเบียนเชื่อมโยงข้อมูลกับ Lotte Card เพื่อใช้ในการระบุตัวตนเมื่อเข้ามาภายใน 7-11 รวมถึงใช้ระบบ HandPay ในการชำระค่าสินค้าและบริการภายในร้านด้วย 

และนอกจากจะมี 'ระบบชำระเงิน' ที่ล้ำสมัยแล้ว ระบบชำระเงินและระบบการให้บริการ ยังใช้เทคโนโลยีที่อำนวยความสะดวกเพื่อผู้ใช้ริการอีกด้วย 

7-11  ร้านค้าอัจฉริยะ มีระบบการชำระเงินที่ไม่จำเป็นต้องใช้พนักงาน

ใครที่เคยโดนพนักงานมองหางตา หรือออกอาการไม่พอใจใส่คงจะถูกใจระบบการชำระเงินของร้านค้าอัจฉริยะแห่งนี้ไม่น้อย เพราะไม่จำเป็นต้องมีพนักงานคอยให้บริการ แต่ 7-11 จะใช้ระบบอัจฉริยะทั้งหมด เมื่อลูกค้าวางสินค้าบนเคาน์เตอร์ สินค้าต่างๆ จะถูกสแกน 360 องศา เพื่อค้นหาบาร์โค้ดบนสินค้า จากนั้นราคาจะปรากฏบนหน้าจอ ส่วนสินค้าที่ไม่มีบาร์โค้ดก็ยังมีระบบในการสแกนตัวสินค้า และระบุราคาของสินค้าออกมาได้ด้วย

ร้านค้าอัจฉริยะที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ทั้งร้าน

7-11 แห่งนี้เน้นความสะดวกสบายทั้งด้านการเข้า-ออก การชำระเงิน รวมถึงการให้บริการที่ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence หรือ AI) ทั้งร้าน เช่น ตู้เย็นที่สามารถเปิด-ปิดประตูอัตโนมัติ เมื่อลูกค้ายืนอยู่หน้าตู้ และเมื่อหยิบสินค้าเสร็จประตูจะปิดเอง เนื่องจากติดตั้งระบบเซ็นเซอร์เอาไว้, มีการนำเทคโนโลยีสแกนหลอดเลือดมาใช้กับเครื่องจำหน่ายบุหรี่อัตโนมัติ เพื่อป้องกันเยาวชนซื้อบุหรี่, ป้ายราคาเป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์, มีระบบกล้องวงจรปิดอัจฉริยะ ตรวจจับสิ่งผิดปกติภายในร้าน เป็นต้น 

Amazon สร้าง Amazon Go ร้านค้าอัจฉริยะด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำ

มาดูฝั่ง Amazon กันบ้าง อย่างที่ทราบกันดีว่า Amazon เป็นบริษัทอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ของโลกที่เน้นการให้บริการบนโลกออนไลน์เป็นหลัก แต่ในวันนี้ Amazon ผุดโปรเจ็กต์ใหม่ โดยจะเปิดให้บริการ Amazon Go ร้านค้าอัจฉริยะที่สร้างความสะดวกสบายให้กับการชอปปิง โดยไม่ต้องต่อคิว ไม่ต้องจ่ายเงิน เพียงแค่ใช้ Application ของ Amazon GO จากนั้นหยิบของที่ต้องการแล้วกลับบ้านได้เลย ซึ่งคาดว่าจะเริ่มเปิดให้บริการในปี 2017 และจะขยายสาขาให้กระจายทั่วทั้งอเมริกาภายใน 10 ปี

ภายในร้าน Amazon Go ดูเหมือนกับร้านสะดวกซื้อทั่วๆ ไปที่มีสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นขนม นม เนย รวมไปถึงอาหารที่ปรุงสุกใหม่ ในพื้นที่เล็กๆ เพียง 1,800 ตารางเมตร แต่ที่พิเศษกว่าร้านสะดวกซื้ออื่นๆ ตรงที่นำเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ เซ็นเซอร์ และแอปพลิเคชันมาใช้ในการให้บริการลูกค้า ซึ่งสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำด้วยการเลือกซื้อของได้สะดวก และรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

Amazon Go ร้านค้าอัจฉริยะที่จะสร้างประสบการณ์ด้านการชอปปิงแบบใหม่เพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส

ด้วยคอนเซปต์ ‘Just Walk Out’ ทาง Amazon Go จึงใช้การคำนวณราคาและตัดเงินในระบบ Application Amazon Go อัตโนมัติพร้อมส่งใบเสร็จไปให้ จึงไม่จำเป็นต้องต่อคิวเพพื่อชำระเงินค่าสินค้าและบริการให้เสียเวลา 

นอกจากนี้ Amazon Go ยังเป็นร้านค้าอัจฉริยะที่ใช้ระบบ Machine-Learning ในการระบุว่า เราหยิบสินค้าอะไรจากชั้นใส่ลงในตะกร้าแล้วบ้าง และเมื่อนำสินค้าออกจากตะกร้าไปวางบนชั้นเหมือนเดิมระบบก็จะทำการอัพเดตข้อมูลใหม่ตามอัตโนมัติ จึงหมดปัญหาในการคิดราคาสินค้าผิด หรือคิดราคาสินค้าเกิน ส่วนด้านการลักเล็กขโมยน้อยภายในร้านก็ยังป้องกันด้วยการใช้ระบบสแกนเข้า-ออกจากร้านด้วยระบบแอปพลิเคชัน และมีบัญชีของ Amazon ที่มีข้อมูลผู้ใช้บริการอยู่อย่างครบถ้วน

เห็นความก้าวหน้าในต่างประเทศแบบนี้แล้ว ก็เป็นไปได้ว่า ในอนาคตอันใกล้กลุ่มธุรกิจด้านการค้าในบ้านเราที่นอกจากจะมีสินค้าและการให้บริการที่ครบถ้วน ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคจะทำการปรับเปลี่ยนวิธีการขายในรูปแบบใหม่ โดยการนำร้านค้าอัจฉริยะเข้ามาช่วยในการอำนวยความสะดวกสบาย และสร้างความพึงพอใจในการบริการได้มากยิ่งขึ้น

ที่มา :

koreaherald

retaildetail

amazon