ชีวาทัย ลุยแผนปี 63 เปิด 4 โครงการใหม่ พร้อมตั้งเป้ารายได้แตะ 2,000 ล้านบาท

ชีวาทัย ลุยแผนธุรกิจปี 2563 พร้อมเปิดโครงการใหม่ 4 โครงการ มูลค่า 3,602 ล้านบาท แบ่งเป็นแนวราบ 3 โครงการ และแนวสูง 1 โครงการ พร้อมทั้งยังมีคอนโดรอโนปีนี้ 3 โครงการ ตั้งเป้ารายได้ปี 2563 แตะ 2,000 ล้านบาท

นายบุญ ชุน เกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชีวาทัย จำกัด (มหาชน) ได้แถลงข่าวเปิดแผนธุรกิจปี 2563 ว่า ปีนี้จะมีการเปิดโครงการใหม่ทั้งหมด 4 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 3,602 ล้านบาท แบ่งออกเป็นดังนี้

โครงการใหม่ปี 2563 ชีวาทัย

โครงการ ชีวาโฮม กรุงเทพ-ปทุม โครงการทาวน์โฮม ทั้งหมด 333 ยูนิต มูลค่าโครงการ 903 ล้านบาท เปิดตัวไตรมาส 1/63

โครงการ ชีวาโฮม รังสิต-ปทุม โครงการทาวน์โฮม ทั้งหมด 385 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,093 ล้านบาท เปิดตัวไตรมาส 2/63

โครงการ ฮาร์ท สุขุมวิท 36 ทาวน์โฮมหรู จำนวน 9 ยูนิต มูลค่าโครงการ 270 ล้านบาท เปิดตัวไตรมาส 1/63 โดยโครงการนี้ชีวาทัยถือหุ้น 70%

ส่วนอีก 1 โครงการเปิดใหม่ปี 2563 จะเป็นคอนโดมิเนียม โครงการ ชีวาทัย อินเตอร์เชนจ์ ลำสาลี คอนโดบนทำเลอินเตอร์เชนจ์ลำสาลี มีทั้งหมด 495 ยูนิต  มูลค่าโครงการ 1,336 ล้านบาท และจะเปิดตัวไตรมาส 4/63 

นอกจากนี้บริษัทฯยังได้ตั้งงบลงทุน เพื่อซื้อที่ดินไว้พัฒนาโครงการของปีนี้จำนวน 858 ล้านบาท

สำหรับโครงการพร้อมโอนในปีนี้ของชีวาทัย จะทยอยรับรู้รายได้อีก 3 โครงการ ได้แก่

• ชีวาทัย ฮอลล์มาร์ค จรัญ 13 เริ่มรับรู้รายได้ ไตรมาส 1.63
• ชีวาทัย เกษตร-นวมินทร์ เริ่มรับรู้รายได้ ไตรมาส 3/63
• ชีวาทัย เรสซิเดนซ์ ทองหล่อ เริ่มรับรู้รายได้ ไตรมาส4/63

สำหรับภาพรวมสถานการณ์ของตลาดอสังหาฯปีนี้ โดยเบื้องต้นทางบริษัทได้ประเมินว่าจะยังไม่สดใสมากนัก เนื่องจากแนวโน้มตัววัดภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศ (GDP) ที่ลดลง หนี้สินครัวเรือนที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับมาตรการควบคุมสินเชื่อ LTV หรือการปล่อยสินเชื่อของธนาคารที่เคร่งครัดมากยิ่งขึ้น แต่บริษัทยังเห็นกลุ่มลูกค้าเรียลดีมานด์ที่ยังมีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัย ที่แท้จริงอยู่ ซึ่งคาดว่าน่าจะได้รับประโยชน์จากปัจจัยเหล่านี้เข้ามาอีกด้วย

“ปีนี้ถือว่าเป็นปีที่ท้าทายอีกหนึ่งปี ซึ่งทางบริษัทจะต้องระมัดระวังในการดำเนินธุรกิจมากขึ้น และจากปัจจัยดังกล่าว ทางบริษัทมองว่ายังจะเป็นโอกาสในการใช้กลยุทธ์สร้างระบบการทำงา นภายในให้แข็งแกร่งเพื่อเตรียมความพร้อม เช่น การศึกษาและสำรวจการเลือกซื้อที่ดินและทำเลที่ตั้งโครงการใหม่ๆ,การออกแบบและควบคุมคุณภาพผลิตภัณฑ์, รวมถึงการสร้างความแตกต่างด้วยการเพิ่มฟังก์ชั่นการใช้งานและความ หลากหลายให้ลูกค้าได้เลือกสรรมากยิ่งขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า เพราะว่าในปัจจุบันความต้องการของลูกค้าได้เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย ทำให้เราจึงเน้นเรื่องนี้เป็นสำคัญ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างมั่นคง และยั่งยืนในอนาคตอีกด้วย”นายบุญ ชุน เกียรติ กล่าว