สมสกุล หลิมศุทธพรรณ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานบริหารสินทรัพย์ บริษัทลูกในเครือแสนสิริแบรนด์เนม "พลัส พร็อพเพอร์ตี้" เผยปรากฏการณ์นักลงทุนอสังหาฯ และโครงการพัฒนาที่ดินคนรุ่นใหม่หรือ Young Developer ทั้งในวงการและหน้าใหม่ให้ความนิยมเข้ามาลงทุนอสังหาฯ แข่งขันกับผู้พัฒนาอสังหาฯ ใหญ่มากขึ้น

เทรนด์นักลงทุนอสังหาฯคนรุ่นใหม่ จากการสำรวจ 5 ปีย้อนหลัง ซึ่งพลัส พร็อพเพอร์ตี้พบว่าลูกค้ารุ่นพ่อทำได้ระยะหนึ่งแล้วจะส่งให้รุ่นลูกก็มาทำต่อ และเริ่มสังเกตว่าเจ้าของโครงการพัฒนาอสังหาฯ เริ่มอายุน้อยลงเรื่อยๆ จะเห็นตั้งแต่อายุ 20 ปลายๆ จนถึงอายุไม่เกิน 40 ปี

เด็ก Generation ใหม่ ในปัจจุบันโตเร็วมาก ความคิดความอ่านเร็ว อาจเกิดจากเทคโนโลยีและข้อมูลที่สามารถเข้าถึงและศึกษาด้วยตัวเองได้กว้างหลากหลายมากขึ้น เมื่อถามคนเหล่านี้ว่าเรียนหนังสือจบอยากทำอะไร คำตอบส่วนใหญ่คือ อยากทำธุรกิจส่วนตัว

การลงทุนอสังหาฯ เป็นอีกคำตอบของคนรุ่นใหม่ที่อยากประสบความสำเร็จในธุรกิจส่วนตัว

ถ้ามีเงินทุนน้อยมักจะอยากทำร้านกาแฟ มีเงินทุนเยอะขึ้นมาหน่อยก็อาจจะทำโรงแรม บัดเจตโฮเทล โรงแรมแคปซูล แต่ถ้าทำอสังหาฯ สัก 1 โครงการ ซึ่งใช้เวลาน้อยกว่าและจบแล้วจบเลย กำไรว่ามาเลย 10-20 ล้านภายในเวลาสัก 2 ปี แต่โดยพื้นฐานผู้ลงทุนอสังหาฯ ต้องมีเงินทุนสูง นักลงทุนอสังหาฯ รุ่นใหม่บางคนเคยทำอสังหาฯ มาแล้วทั้งแนวราบแนวสูง แต่ทำเลอยู่นอกเมืองก็ขยับเข้ามาในเมืองมากขึ้นเมื่อมีเงินทุนมากขึ้น หรือนักลงทุนอสังฯ บางรายพ่อแม่มีเงินทำธุรกิจอาหารทะเล เครื่องใช้ไฟฟ้า ธุรกิจก่อสร้างอยู่แล้ว พอมาถึงรุ่นลูกก็ขยายไลน์ธุรกิจออกมาลงทุนอสังหาฯ 

สำหรับครอบครัวที่ทำธุรกิจลงทุนอสังหาฯ อยู่แล้ว แต่ทำโครงการแนวราบประเภทบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮาส์ นักลงทุนอสังหาฯ รุ่นลูกก็มักจะมีแนวคิดอยากทำอะไรที่เป็นโมเดลใหม่ของธุรกิจครอบครัว เช่น อยากทำคอนโดมิเนียม เทรนด์เหล่านี้ทำให้พลัส พร็อพเพอร์ตี้ศึกษาว่าจะตอบสนองความต้องการของตลาดอสังหาฯ อย่างไร

ทำเลคอนโดสำหรับนักลงทุนอสังหาฯ หน้าใหม่ไม่จำเป็นต้องทำเลใกล้รถไฟฟ้าเพราะสู้รายใหญ่ไม่ได้อยู่แล้ว

เน้นการลงทุนอสังหาฯ ครั้งละ 500-1,000 ล้าน หาทำเลไม่ไกลรถไฟฟ้ารัศมี 500-600 เมตร ใกล้ซูเปอร์มาร์เก็ต แนวคิดลูกค้าเกิน 80% คือต้องการทำต่อเนื่อง หลายคนตัดปัญหาถ้าไม่ถนัดงานขายเพราะอาจใช้เวลาในการปิดโครงการ ยกมาร์เก็ตติ้งให้พลัสฯ ทำ

ปัจจุบันพลัส พร็อพเพอร์ตี้มีลูกค้ารุ่นใหม่นี้ 12 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 12,000 ล้านบาท เฉลี่ยโครงการละ 500-1,000 ล้านบาท พื้นที่ยังกระจุกอยู่ในกรุงเทพฯ เพราะเป็นตลาดใหญ่มาก

โดยพลัส พร็อพเพอร์ตี้วางแผนธุรกิจไว้ว่าภายใน 3 ปี (2560-2562) จะเพิ่มลูกค้า Young Developer จากเป้าหมายในปีนี้ คือ 7 โครงการ จะเพิ่มเป็น 20 โครงการในปี 2562 ในระหว่างหาลูกค้าพลัสฯ ก็ต้องสร้างทีมเหมือนกัน เพื่อรองรับความต้องการของนักลงทุนอสังหาฯ รายใหม่ได้อย่างตรง Insight

สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่: ประชาชาติธุรกิจ