A space MEGA 2 คอนโด ที่น่าลงทุน และน่าอยู่ที่สุดในโซน บางนา
25 October 2561
นับเป็นระยะเวลานานกว่า 17 ปีมาแล้ว ที่เราได้ใช้บริการรถไฟฟ้า BTS ระบบขนส่งสาธารณะที่จัดเป็นทางเลือกสำคัญในการหลีกเลี่ยงรถติดอันดับต้นๆ ทั้งช่วยอำนวยความสะดวก ให้ความรวดเร็วและความปลอดภัยแก่เราชาวกรุงเทพฯ ให้การคมนาคมเป็นไปอย่างราบรื่นมากขึ้น
แต่นอกจากการขยายรูปแบบการเดินทางแล้ว รถไฟฟ้ายังนำพาความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นอีกมากมาย โดยเฉพาะกับตลาดคอนโดที่เริ่มขยายตัวจากย่าน CBD อย่าง “อโศก-พร้อมพงษ์-ทองหล่อ” ออกสู่พื้นที่ข้างเคียง
โดยทำเลที่เราเห็นภาพการเจริญเติบโตได้ชัดเจนที่สุด คงจะเป็นแนวเส้นทางรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสุขุมวิท จากอ่อนนุชไปจนถึงแบริ่งที่เปิดให้บริการในปี 2554 เพราะทำเลย่านนี้จะเป็นพื้นที่รองรับการขยายตัวมาจากเขต CBD โดยเฉพาะบริเวณ ‘บางนา’ ทำเลที่เคยเป็นเพียงทำเลชานเมืองก็ได้รับอิทธิพลความเจริญมาจากย่านอุดมสุข และมีแนวโน้มเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ทั้งการคมนาคม, การใช้ชีวิต รวมถึงราคาที่ดินเองก็ปรับเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนับเป็นโอกาสดีสำหรับนักลงทุนที่อยากได้คอนโดทำเลใหม่ๆ ไว้เก็งกำไรในระยะยาว
ความเจริญของ ‘บางนา’ ทำเลติดเส้นรถไฟฟ้าในอนาคต
นอกจากจะเป็นทำเลที่มีรถไฟฟ้า BTS สายปัจจุบันตัดผ่านไปถึงสถานีสำโรงในปี 2560 ที่ผ่านมาแล้ว บางนายังถือเป็นทำเลอนาคตไกล ที่มีทั้งรถไฟฟ้าสายใหม่และรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายตัดผ่านเพิ่มเติมด้วยกันอีก 3 สาย ได้แก่...
หนึ่งคือ...การขยายตัวของเมืองออกไปสู่จังหวัดสมุทรปราการกับโครงการ รถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้มส่วนต่อขยาย (สำโรง-สมุทรปราการ) ซึ่งต่อเนื่องจากแนวอ่อนนุช-แบริ่งไปอีก 9 สถานี แน่นอนว่า...ใครที่กำลังทำงานอยู่ในย่านอุตสาหกรรมแถบจังหวัดสมุทรปราการจะสามารถเดินทางหรือเลือกที่จะขยับขยายย้ายการใช้ชีวิตเข้ามาอยู่อาศัยในย่านตัวเมืองได้ง่ายดายมากขึ้น
รถไฟฟ้าสายสีเหลือง (สำโรง-รัชดา) เองก็เป็นอีกหนึ่งเส้นทางรถไฟฟ้าสายใหม่ ที่ตัดกับรถไฟฟ้าสายสีส้มตรงบริเวณสถานีมีนบุรี แล้วมาตัดกับ Airport Rail Link ที่สถานีหัวหมาก เหมาะสำหรับชาวบางนาที่ต้องการความสะดวกในการเดินทางออกไปยังโซนรัชดา-ลาดพร้าว สามารถเปลี่ยนไปใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (สำโรง-รัชดา) กันได้ที่สถานี BTS สำโรง ซึ่งเป็นจุด Interchange สำคัญอีกแห่งหนึ่งจุดในอนาคต
ส่วนคนที่เขยิบมาเลือกซื้อคอนโดในแถบถนนบางนา-ตราด ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะเดินทางลำบากอีกต่อไป เพราะในอนาคตถนนเส้นนี้จะมี รถไฟฟ้า Light Rail บางนา-สุวรรณภูมิ ซึ่งเชื่อมต่อมาจากสถานี BTS บางนาวิ่งเลียบมายังถนนบางนา-ตราด แล้วเชื่อมต่อไปยัง Terminal 2 ของสนามบินสุวรรณภูมิ เรียกได้ว่า...เป็นเส้นรถไฟฟ้าที่สามารถอำนวยความสะดวกได้ทั้งคนที่ต้องเข้า-ออกเมืองอยู่เป็นประจำ และคนที่ต้องการเดินทางไปยังสนามบินแห่งชาติเลยก็ว่าได้
ความศิวิไลซ์ของ ‘บางนา’ เมื่อกลายเป็นเมือง Maga Project ขนาดใหญ่
ไม่ใช่แค่ทำเลในแนวรถไฟฟ้า BTS บางนาเท่านั้นที่ฮอตฮิต เพราะในแนวถนนบางนา-ตราดเองก็เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กที่น่าจับตามองไม่แพ้กัน!
ถนนบางนา-ตราด เป็นถนนใหญ่ที่เชื่อมต่อกับถนนสุขุมวิท, ถนนศรีนครินทร์ และถนนกาญจนาภิเษกเข้าไว้ด้วยกัน แถมยังเป็นถนนที่นิยมใช้เดินทางไปสู่ภาคตะวันออก ซึ่งเป็นเมืองอุตสาหกรรมและแหล่งท่องเที่ยวเชิงชายฝั่งของไทย จึงนับเป็นถนนสำคัญที่นำพาความเจริญเข้ามาสู่ทำเลบางนา ประกอบกับการเปิดตัวของโครงการรถไฟฟ้า Light Rail บางนา-สุวรรณภูมิ ด้วยแล้ว ก็ยิ่งทำให้ทำเลนี้กลายเป็นทำเลน่าจับตามองมากยิ่งขึ้นหลายเท่าตัว
แต่นั่นอาจไม่ใช่ปัจจัยหลักทั้งหมดที่ทำให้ถนนเส้นนี้มีแนวโน้มของราคาที่ดินสูงขึ้น เพราะสิ่งที่โดดเด่นและทำให้ถนนบางนา-ตราดเป็นทำเลที่น่าสนใจก็คือ การเป็นทำเล Mixed-use ขนาดใหญ่ โดยเฉพาะช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา เราจะพบเห็นโฉมหน้าของโครงการ Mega Project ใหม่ๆ แข่งกันเปิดตัวอย่างคึกคัก เรียกว่าไล่เรียงมาตั้งแต่บริเวณสี่แยกบางนาเลยก็ว่าได้ ยกตัวอย่างเช่น
ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค เฟส 2 ( BITEC Phase 2) ที่ทำการลงทุนขยายโครงการเฟส 2 ด้วยงบลงทุนราว 6,000 ล้านบาท ขยายพื้นที่กว่า 37,800 ตารางเมตรเพื่อรองรับผู้คน, การจัดงานและนิทรรศการต่างๆ โดยมีการเปิดตัวเฟสสองไปแล้วในปี 2558 ที่ผ่านมา ซึ่งในปัจจุบันก็ยังมีโครงการก่อสร้างทางเชื่อม Sky Walk ระหว่างอาคารกับสถานีรถไฟฟ้าบางนายาวไปถึงสถานีอุดมสุขอีกด้วย
Bangkok Mall โครงการ Mixed-use ในเครือเดอะมอลล์กรุ๊ป และบริษัท ซิตี้ เรียลตี้ จำกัด บนพื้นที่ร่วม 650,000 ตร.ม. ตั้งอยู่ในเส้นถนนบางนา-ตราด นับเป็น Mega Project ยักษ์ใหญ่ที่ในอนาคตจะกลายเป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากนี้ภายในยังมีคอนโดมิเนียม, เซอร์วิสอพาร์ทเมนท์, อาคารสำนักงานให้เช่า, อาคารที่พักอาศัย และสถานีขนส่งผู้โดยสารสายตะวันออกรวมกันอยู่บนพื้นที่ขนาด 7.5 ไร่ และคาดว่าทั้งหมดนี้จะเปิดให้บริการได้ภายในปี 2022
สำหรับปี 2559 ที่ผ่านมานี้ ชาวบางนาคงได้เห็นการปรับโฉมครั้งยิ่งใหญ่ของห้างสรรพสินค้าชื่อดังอย่าง เซ็นทรัลพลาซา บางนา เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าที่มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่น การสร้างพื้นที่ Co-working space คู่กับ Think Space B2S, ลานพื้นที่ออกกำลังกายแทมโพรีนอย่าง BOUNCEinc, พื้นที่ Supermarket รูปแบบ Central Food Hall, Pororo AquaPark Roof Top Water Park สวนน้ำสำหรับคุณหนูๆ กว้าง 10,000 ตารางเมตร เป็นต้น
และเมื่อมาถึงแยกเมกา บางนาทั้งทีจะไม่พูดถึงโครงการ Mega City เลยก็คงไม่ได้ เพราะหลังจาก ศูนย์การค้า Mega Bangna เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2555 ก็ทำให้ทำเลละแวกนี้ดูคึกคักขึ้นมาเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็น
- ด้านการค้าขายที่ Occupancy Rate ในการเช่าพื้นที่ในห้างเต็ม 100%
- การท่องเที่ยวที่ไม่ได้ดึงดูดแค่คนในพื้นที่แต่ Mega Bangna ยังเป็นเหมือนแหล่งไลฟ์สไตล์ระหว่างจังหวัด ตั้งแต่กรุงเทพ สมุทรปราการ และฉะเชิงเทรา
- แม้แต่การพัฒนาที่อยู่อาศัยโดยรอบก็ดูจะบูมและสร้างกำไรได้ดี เพราะสัดส่วนค่าเช่ามีราคาดีเมื่อเทียบกับราคาขายของคอนโด
จากห้างสรรพสินค้า สู่การเป็นเมืองใหม่ในเมืองใหญ่
ด้วยกระแสที่ดีของ Mega Bangna ทำให้ในอนาคตจะเกิดโปรเจ็กต์ยักษ์ใหญ่อย่าง Mega City โครงการอสังหาฯ รูปแบบ Mixed-use พรั่งพร้อมสำหรับทุกคน ช่วยให้ผู้คนได้ใช้ชีวิตและทำงานกันแบบสะดวกสบายครบวงจรภายในที่เดียว ครอบคลุมทั้งศูนย์การค้า, ที่อยู่อาศัย, โรงแรม ฯลฯ ซึ่งโปรเจ็กต์ Mixed-use นี้ทำให้ Mega City กลายเป็นแหล่งงานและแหล่งไลฟ์สไตล์ที่ครบจบในพื้นที่เดียวเลยก็ว่าได้
ความก้าวหน้าของ ‘บางนา’ ทำเลดี มีศักยภาพสูง
ถ้าเป็นด้านการอยู่อาศัย บางนาก็ถือเป็นอีกหนึ่งทำเลที่เต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เพราะนอกจากจะมีรถไฟฟ้าตัดผ่านและมีโครงการ Mixed-use เกิดขึ้นมากมายแล้ว บางนายังเป็นพื้นที่ของอาคารสำนักงาน เช่น Central City Tower, MD Tower, Tossapol Land 4, Bangna Thanee, Ample, Interlink Tower, Bangna Tower, WHA Business Complex และล่าสุดคือ Bhiraj Tower @BITEC ซึ่งช่วยขับเคลื่อนและดึงความสนใจให้ทั้งชาวไทย รวมถึงชาวต่างชาติเข้ามาอยู่อาศัยในพื้นที่นี้มากขึ้น
ในเมื่อบางนาถูกขยับให้เป็นแหล่งงานขนาดใหญ่เช่นนี้แล้ว ก็ต้องมีระบบสาธารณูปโภครองรับแบบครบครันตามไปด้วย ทั้งโรงพยาบาลและโรงเรียนที่กระจายอยู่ทั่วไปอย่าง โรงพยาบาลศิครินทร์, โรงพยาบาลบางนา 1 และโรงพยาบาลไทยครินทร์ เป็นต้น ส่วนโรงเรียนก็จะเป็นกลุ่มของโรงเรียนนานาชาติเสียส่วนใหญ่ เช่น St. Andrew International School, D-Prep International School, Berkeley International School เป็นต้น
ด้วยศักยภาพทำเลที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องนี่เอง ที่ทำให้ราคาประเมินทุนทรัพย์ที่ดินปี 2559-2562 ของทำเลเขตบางนาจากกรมธนารักษ์ ช่วงใกล้ๆ กับสี่แยกบางนาจะมีราคาเฉลี่ยอยู่ในระดับแสนต้นๆ ต่อตร.ม. ซึ่งเมื่อเทียบกับราคาพื้นที่รอบสถานีพร้อมพงศ์-ทองหล่อ-เอกมัย ที่มีราคา 200,000 - 250,000 บาท/ตร.ม. แล้ว ก็ถือว่าคุ้มค่าและสามารถจับต้องเป็นเจ้าของได้ง่ายกว่ามากเลยทีเดียว
เช่นเดียวกับคอนโดที่เปิดตัวล่าสุดอย่าง A SPACE MEGA II (เอ สเปซ เมกา 2) จาก Areeya Property ที่ถือเป็นอีกหนึ่งคอนโดน่าจับตามองมากที่สุดในย่านเมกาซิตี้ บางนา เพราะเป็นโครงการต่อเนื่องมาจาก A Space Mega ซึ่งประสบความสำเร็จด้วยการปิดยอดขายได้ 100% ภายใน 3 เดือน มีผลสืบเนื่องมาจากทำเลที่ตั้งของคอนโดที่อยู่ในโครงการ Mega City ทำให้มีโอกาสเติบโตสูง โดยปัจจุบันก็ได้เปิดตัวด้วยราคาเริ่มต้นเพียงตารางเมตรละ 65,000 บาท เราจึงมั่นใจได้เรื่องของการปล่อยเช่า เพราะมีการคาดหวังผลตอบแทนถึง 7% ถือว่าอยู่ในระดับสูงในตลาดอสังหาฯ ณ ปัจจุบัน
ความโดดเด่นของ A SPACE MEGA II (เอ สเปซ เมกา 2) ที่อยากให้คุณไปสัมผัส
หากพูดถึงความโดดเด่นของโครงการ A SPACE MEGA II (เอ สเปซ เมกา 2) แล้ว ดูเหมือนว่าโครงการนี้จะเป็นคอนโดที่เหมาะสำหรับเหล่านักลงทุนและคนทำงาน เพราะมีทำเลที่อยู่ใกล้กับความเป็นเมือง และศูนย์การค้าที่จะพัฒนาเป็นเมืองใหม่ในอนาคต แน่นอนว่า ถ้าใครเลือกซื้อ A SPACE MEGA II แล้ว ก็จะได้เป็นเจ้าของคอนโดมิเนียมเจ้าแรกๆ ที่อยู่ใกล้กับ Mega City มากที่สุด
นอกจากนี้ยังอยู่ไม่ไกลจากสนามบินสุวรรณภูมิ, ใกล้ทางด่วน 3 เส้น และใกล้รถไฟฟ้า 2 สาย จึงสะดวกมากในแง่ของการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ส่วนตัวหรือรถไฟฟ้า โดยปัจจุบันสถานีที่ใกล้โครงการที่สุดจะเป็น สถานี BTS อุดมสุข ซึ่งห่างจากโครงการไปประมาณ 12 กม.
พร้อมสัมผัสบรรยากาศแบบ City View ได้จากมุม Sky infinity edge swimming pool ที่สามารถ Take View สูงที่สุดของย่านบางนาได้แบบ 360 องศา ซึ่งหากเทียบราคาต่อตารางเมตรกับคอนโดพร้อมอยู่ที่เปิดตัวมานานแล้วก็อาจจะสูงกว่า แต่เมื่อเทียบกับ Facilities และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่ A SPACE MEGA II (เอ สเปซ เมกา 2) จัดเต็มให้มานั้น แน่นอนว่าต้องคุ้มกว่าเป็นเท่าตัว
ด้าน Unit Type จะแบ่งเป็นห้องแบบ One Bed ได้แก่
- Type AA ขนาด 28.52 sq.m. จำนวน 693 ยูนิต
- Type AB ขนาด 34.97 sq.m. จำนวน 113 ยูนิต
- Type AC ขนาด 31.06 sq.m. จำนวน 82 ยูนิต
ห้องแบบ Two Bed ได้แก่
- Type BA ขนาด 56.44 sq.m. จำนวน 60 ยูนิต
- Type BB ขนาด 62.48 sq.m. จำนวน 53 ยูนิต
ด้วย “ศักยภาพทำเล” บวกกับ ”ตัวโครงการ” ที่ให้มาค่อนข้างคุ้มกว่าราคา จัดอยู่ในช่วง 1.xx ล้านบาท ทำให้ A SPACE MEGA II (เอ สเปซ เมกา 2) เป็นคอนโดที่น่าจับตามองที่สุดใน เมกา ซิตี้บางนา ฉีกกฎการอยู่อาศัยรูปแบบเดิมๆ พร้อมให้คุณสัมผัสความสะดวกสบายแบบครบวงจร บนทำเลสุดยอดศักยภาพที่เราไม่อาจปฎิเสธได้ เหมาะสำหรับกลุ่มผู้ซื้อระดับ Budget ไปจนถึงระดับ High Class ที่ต้องการคอนโดในราคาเอื้อมถึง อยู่ไม่ห่างจากตัวเมือง มีรถไฟฟ้าสายอนาคตตัดผ่าน แถมยังเป็นทำเลที่มีแนวโน้มเติบโตได้อีกในอนาคต
รายละเอียดของคอนโด A SPACE MEGA II (เอ สเปซ เมกา 2)
ชื่อโครงการ : A SPACE MEGA II (เอ สเปซ เมกา 2)
ผู้พัฒนา : Areeya Property
ขนาดที่ดิน : 3-2-0 Rai
ลักษณะอาคาร : 1 High Rise Building 2 Towers (29 and 34 Floors)
จำนวนยูนิต : 1,001 Units & 2 Retail Shops
จำนวนลิฟต์ : ลิฟต์โดยสาร 8 ตัว ลิฟต์เซอร์วิส 1 ตัว
เงินกองทุน : 450 THB when transfer
ค่าส่วนกลาง : 45 THB / sq.m. / month
ประเภทห้อง :
One Bed
Type AA ขนาด 28.52 sq.m. จำนวน 693 ยูนิต
Type AB ขนาด 34.97 sq.m. จำนวน 113 ยูนิต
Type AC ขนาด 31.06 sq.m. จำนวน 82 ยูนิต
Two Bed
Type BA ขนาด 56.44 sq.m. จำนวน 60 ยูนิต
Type BB ขนาด 62.48 sq.m. จำนวน 53 ยูนิต
ราคาเริ่มต้น : 1.69 ล้านบาท
โปรโมชั่น : A SPACE MEGA II (เอ สเปซ เมกา 2) ‘The Complete Lifestyle Hub’ เตรียมพบกับคอนโดโครงการใหม่ ให้คุณได้ใช้ชีวิตใกล้เมกา บางนาเร็วๆ นี้ สามารถลงทะเบียนรับส่วนลดเพิ่ม 10,000 บาทได้ที่ http://bit.ly/2OuYcRT หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 1797
