รูปบทความ Mix&Match จับคู่โทนสี กับการแต่งห้องแต่ละสไตล์

Mix&Match จับคู่โทนสี กับการแต่งห้องแต่ละสไตล์


สายตาของมนุษย์เราสามารถแยกแยะสีได้ถึง 16 ล้านสี ไม่ว่าเราจะมองไปทางไหนก็เห็นสีสันต่าง ๆ มากมายอยู่รอบตัว และในบางครั้ง เราสามารถรับรู้ได้ถึงพลังของสีต่าง ๆ ที่ส่งผลต่ออารมณ์ความรู้สึกของเราได้ โทนสีต่าง ๆ จึงถูกนำมาใช้ในทุกแขนงศาตร์ ทั้งศิลปะ, การแสดง, การตลาด, แฟชัน และแน่นอนว่ารวมถึงการแต่งห้องในบ้านของเราเอง...ในบทความนี้ของ Esto จะมาแนะนำการจับคู่สีที่เข้ากันเป็นอย่างดีสำหรับแต่ละห้องในบ้าน เพื่อส่งพลังให้ผู้อยู่อาศัย และเพิ่มความสวยงามให้บ้านของเราน่าอยู่มากยิ่งขึ้น



แต่งห้องให้ “หวานแบบลึกลับ” ด้วยโทนสีชมพูและเทา


แต่งห้องให้ “หวานแบบลึกลับ” ด้วยโทนสีชมพูและเทา

โทนสีชมพูจะให้ความรู้สึกหวาน สดใส และมีความรู้สึกของเด็กผู้หญิงผสมปนอยู่ในสี ทำให้เมื่อนำไปแต่งห้องจะได้ห้องที่ดูสว่าง และเต็มไปด้วยความสุข สำหรับคนที่ชื่นชอบสีสว่าง สดใส แต่ไม่ต้องการความร่าเริงและขี้เล่นจนเกินไป เราอาจเบรกสีชมพูไว้ด้วยสีเทาหม่น ๆ แม้จะเป็นสีที่ให้คนละความรู้สึกแต่กลับเข้ากันได้ดีอย่างน่าประหลาด เมื่อมองดูสีชมพูเทา เราจะยังเห็นความหวาน แต่ขณะเดียวกันก็ดูสุขุม นุ่มลึกสอดแทรกเข้ามา เป็นการเพิ่มอารมณ์ให้กับสีไปอีกทางด้วย



แต่งห้องให้ “เรียบง่ายดูเป็นธรรมชาติ” ด้วยโทนสีน้ำตาลและขาว


แต่งห้องให้ “เรียบง่ายดูเป็นธรรมชาติ” ด้วยโทนสีน้ำตาลและขาว

น้ำตาลและขาวเป็นสองโทนสีที่ใช้แต่งห้องให้ดูเรียบง่าย สบายตา แต่ไม่ไร้ความรู้สึก เพราะเมื่อสองสีนี้อยู่รวมกัน จะทำให้ห้องดูเรียบง่ายแต่ไม่ธรรมดาเกินไป โดยใช้สีขาวเป็นสีหลัก และแต่งเติมสีน้ำตาลเข้าไปตามส่วนต่าง ๆ เช่น ผนังห้องและเตียงนอนเป็นสีขาว แล้วเติมหมอนหรือของตกแต่งสีน้ำตาลเข้าไป โดยอาจเลือกใช้เป็นสีน้ำตาลเปลือกไม้ หรือใครที่ชอบสีน้ำตาลเป็นพิเศษอาจใช้สีน้ำตาลเข้มแบบหนังสัตว์เข้าไป จะได้ความรู้สึกหรูหรา ผสมความมินิมอลมากขึ้น 



แต่งห้องให้ “หรูหราเปี่ยมด้วยพลังบวก” ด้วยโทนสีน้ำเงินและเหลือง


แต่งห้องให้ “หรูหราเปี่ยมด้วยพลังบวก” ด้วยโทนสีน้ำเงินและเหลือง

มาถึงโทนสีที่จะพลาดไม่ได้เลยกับสีน้ำเงินเข้ม (Classic Blue) ที่ถูกเลือกให้เป็นสี PANTONE ประจำปี 2020 โดยสี Classic Blue นั้นให้ความรู้สึกสงบ และไร้ขอบเขตของยามค่ำคืน เมื่อนำมารวมกับสีเหลืองที่มีอารมณ์ความรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่าของตอนกลางวัน จะให้ความรู้สึกที่ตัดกันแต่ลงตัว โดยสีน้ำเงินและสีเหลืองเมื่อเทียบกับกงล้อสีจะเห็นว่าค่อนข้างเป็นขั้วตรงข้าม ทำให้ทั้งสองโดดเด่นขึ้นมา หากยึดตามหลัก 60-30-10 อาจเลือกสีพื้นเป็นขาว หรือเทา 60% ตามด้วย สีน้ำเงิน 30% และแต่งเติมสีเหลืองด้วยเฟอร์นิเจอร์อย่างโซฟา 10% หรืออาจสลับอัตราสีระหว่างน้ำเงินกับเทาก็ได้



แต่งห้องให้ “ไร้อายุ ไร้กาลเวลา” ด้วยโทนสีเขียวและดำ


แต่งห้องให้ “ไร้อายุ ไร้กาลเวลา” ด้วยโทนสีเขียวและดำ

เมื่อพูดถึงความหรูหรากันไปแล้ว เรามาดูโทนสีที่ทำให้ห้องของเราดูไร้กาลเวลาหรือ Timeless กันบ้าง โดยสีเขียวอาจเลือกเป็นสีเขียวนีออนที่ให้การสะท้อนแสงได้บ้าง ผสมกับสีดำแบบ Matte จะให้ความรู้สึกต่างกันโดยสิ้นเชิง แม้จะเป็นโทนสีเข้มเหมือนกัน จากรูปตัวอย่างจะเห็นได้ว่าทั้งสีเขียวเข้มและสีดำสามารถเลือกสีไหนเป็นสีหลักก็ได้โดยตามด้วยสีรองเป็นอีกสี และการเสริมแต่งด้วยสีขาวจะไม่เป็นการรบกวนสองสีนั้น ทำให้สีเขียวและดำยังคงโดดเด่นออกมาโดยไม่รู้สึกน่าเบื่อ



แต่งห้องให้ “Playful Lv.MAX” ด้วยโทนสีชมพูและเหลือง


แต่งห้องให้ “Playful Lv.MAX” ด้วยโทนสีชมพูและเหลือง

ใครที่ชอบสีสันจัดจ้าน โทนสีแต่งห้องแบบนี้ ต้องเป็นที่ชื่นชอบของคุณอย่างแน่นอน หรือว่าใครที่มีเด็กในบ้าน การใช้โทนสีนี้ในห้องเด็กก็ทำให้ดูน่ารักไปอีกแบบ หรือใครที่ทำงานสายครีเอทีฟต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ การได้อยู่ในห้องที่มีบรรยากาศขี้เล่น สดชื่น กระปรี้กระเปร่า จะทำให้สมองแล่น คิดอะไรใหม่ ๆ ได้อยู่เสมอ และด้วยพลังของสีเหลืองและชมพูที่รวมกันเปรียบเสมือยาชูกำลังชั้นดี ลดอาการง่วง เหนื่อยล้าลงไปได้แน่นอน โดยเราอาจจะเลือกใช้สีขาวเป็นพื้นหลังและเติมแต่งชมพูและเหลืองเข้าไปให้สมดุลเกิดเป็นห้องที่สุดแสนจะขี้เล่นที่สุดในบ้านขึ้นมา



แต่งห้องให้ “เซ็กซี่” ด้วยโทนสีแดงและดำ


แต่งห้องให้ “เซ็กซี่” ด้วยโทนสีแดงและดำ

และแล้วก็มาถึงโทนสีที่อาจเป็นสีโปรดของหลายคน นั่นคือสีแดง สีแดงมีความหมายมากมาย ที่สื่อถึงอารมณ์ตรงไปตรงมา ร้อนแรง และเซ็กซี่ แต่เมื่อนำมารวมกับสีดำที่ให้ความรู้สึกลึกลับ น่าค้นหา เปี่ยมด้วยพลัง ทำให้สีแดงดำเป็นสีที่น่ามอง ดูมีความขี้เล่นแต่แฝงด้วยความอันตราย เมื่อนำมาแต่งห้องจะให้ความรู้สึกหรูหรา สวยงาม สื่อถึง Personality ของเจ้าของบ้านได้เป็นอย่างดี โดยอาจะเลือกใช้เป็นสีดำและน้ำตาลเข้มในการตกแต่งโดยรวมเช่นผนังห้องและพื้น และใช้สีแดงกับเฟอร์นิเจอร์ที่โดดเด่นที่สุดในห้องชิ้นเดียว อย่างเช่นเตียงนอน หรือโซฟาขนาดใหญ่เป็นจุดรวมสายตา



และนี่เป็นการตกแต่งห้องโดยการจับเอาโทนสีต่าง ๆ มา Mix&Match กัน ทำให้เกิดความรู้สึกและอารมณ์ต่าง ๆ เพิ่มความน่าสนใจให้กับตัวบ้าน โดยโทนสีที่ Esto นำมาแนะนำจะเป็นคู่สีที่ให้ความรู้สึกแตกต่างกันออกไป ทั้งขี้เล่น หรือเซ็กซี่ ลึกลับ ใครที่ชอบ หรือสนใจคู่สีไหน ก็เลือกสรรกันไปประยุกต์ใช้ให้เข้ากับบ้านหรือห้องของตัวเองกันได้เลย


เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร...?

Related Stories

Esto Talks

See All >

Living out loud

Living out loud : VANA RESIDENCE พระราม 9 - ศรีนครินทร์