รูปบทความ ไขข้อข้องใจ นักลงทุนมือใหม่ 'จะลงทุนทำอะไรดี'

ESTOPOLIS | ไขข้อข้องใจ นักลงทุนมือใหม่ 'จะลงทุนทำอะไรดี'

ลงทุนทำธุรกิจอะไรดี
แล้วถ้าจะเริ่มตอนนี้ต้องมีอะไรบ้าง ?

หากกล่าวถึงทางเลือกที่ทำให้เงินก้อนหนึ่งให้ผลตอบแทนกลับมากับผู้ถือเงินได้ 'การออมเงิน' คงเป็นทางเลือกแรกที่ใครหลาย ๆ คนนึกถึง แต่ด้วยอัตราดอกเบี้ยของการออมที่น้อยจนต่ำกว่าอัตราเงินเฟ้อทำให้การออมเงินอาจไม่ใช่ทางเลือกในการเพิ่มมูลค่าที่ดีนัก ลองนึกภาพตามว่าคุณมีเงิน 1 ล้านบาท แล้วนำไปฝากธนาคารที่อัตราดอกเบี้ย 1% ต่อปี เมื่อฝากครบ 1 ปี คุณจะได้ผลตอบแทนจากเงิน 1 ล้านบาทเพียง 10,000 บาทเท่านั้น เชื่อว่าคุณคงอยากได้รับผลตอบแทนจากเงิน 1 ล้านมากกว่านั้นอย่างแน่นอน

อธิบายรูป

ที่มา: Pixabay

จะดีกว่าไหม ?
ถ้าคุณทำให้เงิน 1 ล้านบาทมีมูลค่าเพิ่มมากกว่านั้น
ผ่านการลงทุน

มีอีกทางเลือกในการเพิ่มมูลค่าเงินที่หลายคนรู้จักกันดีอย่าง 'การลงทุน' ที่ว่ากันว่าเป็นทางลัดในการสร้างผลตอบที่มากกว่าการออมเงิน แต่จะนำเงินที่มีอยู่ไปลงทุนทำธุรกิจอะไรดี ? แล้วจะเริ่มลงทุนยังไง? เพราะถ้าเริ่มต้นไม่ดี ขาดประสบการณ์ ก็อาจทำให้การลงทุนธุรกิจนี้ขาดทุนได้ วันนี้ Estopolis ขอพานักลงทุนมือใหม่ไปสร้างรากฐานที่มั่นคงสำหรับการลงทุนของคุณกัน !!!


ลงทุนทำธุรกิจอะไรดี ?

สิ่งที่สำคัญสำหรับการเริ่มลงทุนทำธุรกิจอะไรสักอย่าง คือ การกำหนดเป้าหมายของการลงทุน 'การลงทุนของคุณคืออะไร? ต้องการใช้เงินประมาณเท่าไหร่? และต้องการบรรลุเป้าหมายเมื่อใด?' คำถามพวกนี้จะเป็นตัวช่วยในการกำหนดเป้าหมายในการลงทุนให้ชัดเจนยิ่งขึ้น

Getting to know yourself

สำนวนที่ว่า 'รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง' ยังคงเป็นสำนวนที่ได้ในทุกการลงทุนธุรกิจในทุกรูปแบบ เพราะนอกจากที่จะต้องสำรวจความพร้อมของตัวเองให้ดีแล้ว ยังจำเป็นต้องสนใจศึกษาพฤติกรรมและกลยุทธ์ของคู่แข่งด้วย


มาเริ่มจากเรื่องใกล้ตัวอย่าง 'รู้เรา' กันก่อน เพื่อพิจารณาถึงปัจจัยในการลงทุน ด้วยการตอบคำถามเหล่านี้กับตัวเองว่า ...

  • อายุเท่าไหร่?
  • ชอบ สนใจ หรือถนัด สินทรัพย์ประเภทไหน?
  • มีประสบการณ์ลงทุนธุรกิจหรือไม่?
  • มีเงินลงทุนมากน้อยเพียงใด?
  • ต้องการผลตอบแทนรูปแบบใด? เท่าไหร่?
  • มีเวลาติดตามข่าวสารด้านการลงทุนหรือไม่?
  • หากขาดทุน จะยอมรับได้ในวงเงินไม่เกินเท่าไหร่?
  • หากได้กำไร จะขยายวงเงินในการลงทุนหรือไม่?


เมื่อตอบคำถามเหล่านี้ได้ก็จะพบจุดแข็งของตัวเราเองแล้ว เราก็เกือบจะได้คำตอบของคำถามที่ว่า ลงทุนทำธุรกิจอะไรดี? สำหรับมือใหม่หัดลงทุน แนะนำให้เริ่มศึกษาเพิ่มเติมในเรื่องของการลงทุนในสิ่งที่เป็นจุดแข็งของเรา เพราะเรามีความสนใจ มีความรู้ และก็พร้อมจะติดตามข่าวสารในเรื่องนั้นอยู่แล้ว

อธิบายรูป

ที่มา: Pixabay

อีกสิ่งที่ต้องรู้และสำคัญมากเกี่ยวกับตัวเองคือ 'ยอมรับความเสี่ยงได้แค่ไหน?' เพราะสิ่งนี้จะเป็นสิ่งที่จะตอบว่า ทางเลือกลงทุนแบบไหนและสัดส่วนการลงทุนแบบใดจึงจะเหมาะสมที่สุด ก่อนอื่นต้องรู้ก่อนว่าความเสี่ยงคืออะไร มีความสำคัญยังไงจนต้องมีวลีคุ้นหูเตือนใจก่อนการลงทุนทุกครั้ง

การลงทุนมีความเสี่ยง
ผู้ลงทุนโปรดศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน

ความเสี่ยง ก็คือ โอกาสที่จะเกิดความผิดพลาด ความเสียหาย ความสูญเปล่า หรือเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นภายใต้สถานการณ์ที่ไม่แน่นอน ซึ่งอาจเกิดขึ้นในอนาคตและมีผลกระทบทำให้การดำเนินงานไม่ประสบความสำเร็จตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายขององค์กร

อธิบายรูป

ลองจินตนาการง่าย ๆ ถึงการเดินทางไปเที่ยวต่างจังหวัดโดยขับรถยนต์ไปเองและเดินทางโดยรถไฟ การเดินทางทั้ง 2 วีธี มีจุดประสงค์เดียวกันคือไปถึงจุดหมายปลายทาง แต่แตกต่างกันตรงที่รูปแบบการเดินทาง หากเดินทางโดยขับรถไปเอง แน่นอนว่าถึงที่หมายเร็วกว่า แต่ก็มีโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุระหว่างทางมากกว่าการเดินทางโดยรถไฟที่ถึงแม้จะถึงช้ากว่า แต่มีความปลอดภัยในการเดินทาง


ในกรณีนี้ความเสี่ยงก็คือการเกิดอุบัติเหตุ ส่วนผลตอบแทนก็คือระยะเวลาในการเที่ยว ระยะเวลาในการพักผ่อนที่จะเพิ่มขึ้นหากเดินทางถึงเร็ว โลกของการลงทุนก็เป็นคล้าย ๆ กับตัวอย่างดังกล่าว ที่ความเสี่ยงและผลตอบแทนเป็นสิ่งที่ต้องแลกกัน ผู้ลงทุนทำธุรกิจต้องเลือกว่าจะรับความเสี่ยงมากเพื่อให้ได้รับผลตอบแทนที่มากตามไปด้วย หรือไม่อยากรับความเสี่ยงแต่ผลตอบแทนก็น้อยตามเช่นกัน

อธิบายรูป

เมื่อรู้จักความเสี่ยงแล้ว ก็ต้องดูไปถึงนิสัยในการยอมรับความเสี่ยงของผู้ลงทุนควบคู่กันไปด้วย การยอมรับความเสี่ยงในการลุงทุนก็คล้าย ๆ การเดินอยู่บนเส้นเชือก ยิ่งแบกรับภาระหรือความเสี่ยงไว้มากเท่าใด โอกาสที่จะตกลงมาก็มีมากเท่านั้น ซึ่งก็อยู่ที่ตัวของผู้ลงทุนเองว่าจะสามารถแบกรับความเสี่ยงได้ในระดับไหน โดยระดับการยอมรับความเสี่ยงสำหรับผู้ลงทุนถูกแบ่งออกเป็น 3 ระดับ


  • ลงทุนธุรกิจแล้วรับความเสี่ยงได้ต่ำ (Conservative) ยอมรับความผันผวนได้น้อย หรือแทบจะไม่ได้เลย การลงทุนส่วนใหญ่จึงมุ่งเน้นไปที่ การพยายามรักษาเงินลงทุนให้ปลอดภัย
  • ลงทุนธุรกิจแล้วรับความเสี่ยงได้ปานกลาง (Moderate) ยอมรับความผันผวนได้ระดับหนึ่ง แต่ต้องไม่มากจนเกินไป เพื่อแลกกับการได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้น และหวังให้เงินลงทุนบางส่วนมีมูลค่าเพิ่มขึ้น
  • ลงทุนธุรกิจแล้วรับความเสี่ยงได้สูง (Aggressive) ไม่กังวลกับความผันผวนที่เกิดขึ้น ระหว่างการลงทุนเท่าใดนัก เพราะมุ่งหวังจะได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้น รวมถึงโอกาสที่เงินลงทุนจะเติบโตเพิ่มขึ้น


เรื่องที่นักลงทุนหรือคนเริ่มทำธุรกิจควรรู้เกี่ยวกับความเสี่ยง

อธิบายรูป


ระดับความเสี่ยงที่นักลงทุนยอมรับได้ กับความเสี่ยงของผลิตภัณฑ์ลงทุนไม่เหมือนกันนะ !!

ระดับการยอมรับความเสี่ยงของนักลงทุน
จะเป็นตัวกำหนดว่า
คน ๆ นั้นควรจะลงทุนในผลิตภัณฑ์การลงทุนชนิดใด


เพราะแต่ละผลิตภัณฑ์ลงทุนก็มีระดับความเสี่ยงที่แตกต่างกันไปด้วย ยกตัวอย่างเช่น นายเอสโตเพิ่งเริ่มลงทุน ยังไม่มีประสบการณ์ในการลงทุน ย่อมไม่กล้าที่จะยอมรับความเสี่ยงในระดับที่มากนัก จึงเหมาะที่จะลงทุนในสินทรัพย์ประเภทที่มีความเสี่ยงต่ำจนถึงปานกลาง อย่างเช่น อสังหาริมทรัพย์ หรือทองคำ เป็นต้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่านายเอสโตไม่ควรลงทุนในผลิตภัณฑ์อื่น เพราะสุดท้ายแล้ว คนที่จะตัดสินใจว่าจะลงทุนในสินทรัพย์ชนิดใดก็คือตัวของผู้ลงทุนเอง


สำหรับมือใหม่ในการลงทุน แนะนำให้ลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำถึงปานกลางก่อน แต่สิ่งที่ควรคำนึงถึงก่อนตัดสินใจลงทุนทุกครั้งคือ 'ความเสี่ยงมีความสำคัญกว่าการคาดการณ์ผลตอบแทนเสมอ' เพราะฉะนั้นอย่าลืมศึกษาข้อมูลคาดการณ์ความเสี่ยงของสินทรัพย์ที่ต้องการลงทุนให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุน


ถ้าให้ Estopolis ลงทุน จะลงทุนอะไรดีนะ ?

Estopolis ต้องเลือกลงทุนอสังหาฯ และก็คงเป็นอสังหา คอนโด แน่นอนอยู่แล้ว!! เพราะจุดแข็งของเราคือเรื่องนี้ บวกกับอสังหาริมทรัพย์เป็นสินทรัพย์ที่ใกล้ตัวเราและสามารถจับต้องได้ นอกจากจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจแล้ว มูลค่าก็เพิ่มสูงขึ้นทุกปีแถมไม่ผันผวน มีรายได้เข้ามาสม่ำเสมอทุกเดือน

อธิบายรูป

ที่มา: Pixabay

หากพูดถึงเรื่องความเสี่ยง การลงทุนอสังหาฯ จัดว่ามีความเสี่ยงต่ำจนถึงปานกลาง ความเสี่ยงก็ไม่ค่อยเกิดจากตัวสินทรัพย์เอง แต่ส่วนมากจะเป็นความเสี่ยงจากภาวะฟองสบู่มากกว่า

การลงทุนอสังหา เริ่มยังไง
ต้องใช้เงินทุนเยอะจริงเหรอ ?

หลายคนอาจจะคิดถึงการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบของดีเวลลอปเปอร์ต่าง ๆ ที่มีการเปิดตัวโครงการอย่าง บ้าน ทาวน์เฮ้าส์ คอนโดมินเนียม แต่ความเป็นจริงแล้วการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เป็นเรื่องใกล้ตัวเรามาก และไม่จำเป็นต้องใช้เงินทุนก้อนใหญ่เสมอไป


รู้จักทางเลือกในการลงทุนอสังหาริมทรัพย์

อธิบายรูป

ที่มา: Pixabay

นอกจากจะรู้ว่าจะลงทุนในสินทรัพย์ประเภทใดแล้ว การรู้จักทางเลือกในการลงทุน ก็เป็นสิ่งที่สำคัญมากเช่นกัน เพราะการลงทุนก็คล้าย ๆ กับการซื้อขายสินค้า การให้บริการในตลาดทั่วไป เราจึงจำเป็นต้องมี 'ผลิตภัณฑ์' เพื่อนำไปเสนอขาย เสนอบริการเพื่อให้ได้รับผลตอบแทนคืนมา ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีทางเลือก หลากหลาย มาดูกันดีกว่าว่า ธุรกิจอสังหาฯ มีอะไรบ้างที่น่าลงทุน ซึ่งเราสามารถแบ่งเป็น 3 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่  


1. การลงทุนอสังหา แบบการซื้อขายทั่วไป

การซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ก็มีลักษณะการซื้อขายที่คล้ายกับในธุรกิจอื่นๆ แต่จะต่างกันในเรื่องของเอกสาร หนังสือแสดงความเป็นเจ้าของ และกฎหมาย เนื่องจากอสังหาริมทรัพย์เป็นทรัพย์สินที่มูลค่าสูง จึงต้องมีกฎหมายควบคุมเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา


2. การลงทุนอสังหา แบบการปล่อยเช่า

ลักษณะการปล่อยเช่าอสังหาริมทรัพย์ เช่น การให้เช่าคอนโดมิเนียม หอพัก อพาร์ตเมนต์ ห้องพัก บ้าน อาคารพาณิชย์ สำนักงานให้ หรือการเช่าที่ดินว่างเปล่า เป็นการทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เรียกว่า  'เสือนอนกิน' เพราะเมื่อลงทุนสร้างหรือซื้ออาคารซื้อที่ดินว่างเปล่าแล้วนำออกให้เช่า ก็จะทำให้เกิดรายได้อย่างสม่ำเสมอ และเป็นรายได้ที่ตายตัว ทำให้มีเงินใช้สอยไม่ขาดมือ


3. การลงทุนอสังหา แบบการเป็นนายหน้าซื้อขายหรือเช่า

เป็นอาชีพที่คนส่วนเช่นใหญ่คุ้นเคย เช่น เป็นนายหน้าซื้อขายที่ดิน ซื้อขายรถยนต์ ส่วนใหญ่ทำเป็นอาชีพเสริมหรือทำเป็นงานเสริม แต่การซื้อขายแต่ละครั้งอาจทำให้นายหน้ามีรายได้สูงมาก ซึ่งขึ้นอยู่กับความสามารถและองค์ประกอบด้านอื่นๆด้วย

อธิบายรูป

ที่มา: Pixabay

สำหรับอสังหาริมทรัพย์จัดว่าเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ของการดำรงชีวิต บวกกับการที่ความต้องการที่พักอาศัยในที่ ๆ เดินทางสะดวก มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันก็เกิดขึ้นทุกวัน การลงทุนอสังหา คอนโดราคาปานกลาง บนทำเลดี ๆ ก็ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจและน่าจับตามองสำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่ไม่ต้องการใช้เงินทุนในการลงทุนมากนัก


อย่างที่บอกไปตอนแรกว่ากลยุทธ์ที่จะทำให้ประสบความสำเร็จในการลงทุนคือ 'รู้เขา รู้เรา' นอกนอกจากรู้จักตัวเราเองแล้ว ยังต้องรู้จักปัจจัยอื่นที่เกี่ยวกับการลงทุนธุรกิจอื่น ๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็น สภาวะเศรษฐกิจ สังคม การเมือง หรือค่านิยมในช่วงเวลาต่าง ๆ ซึ่ง Estopolis จะพาไปรู้จักการ 'รู้เขา' ในบทความอื่นต่อไป แล้วอย่าลืมติดตามกันด้วยนะ


หากสนใจบทความเกี่ยวกับการลงทุนในคอนโดมิเนียม สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่

รู้ลึก รู้จริง เริ่มต้นลงทุนอสังหาทรัพย์แบบ Step by Step

ก่อนที่จะเริ่มลงทุนคอนโด ถามตัวเองสักนิด ว่าเราพร้อมแล้วหรือยัง

ลงทุนอสังหาฯ ทำได้อย่างไร มีวิธีการเพิ่มผลกำไรได้ยังไงบ้าง?

เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร...?

Related Stories

Esto Talks

See All >

Living out loud

Living out loud : VANA RESIDENCE พระราม 9 - ศรีนครินทร์