รูปบทความ 6 วิธีเลือกซื้อคอนโดตามหลักฮวงจุ้ย อยู่แล้วมีความสุข

เลือกซื้อคอนโดตามหลักฮวงจุ้ย ควรดูอย่างไร ให้อยู่แล้วมีความสุข

ฮวงจุ้ย เป็นหลักความเชื่อโบราณในการจัดการเรื่องที่อยู่อาศัยของชาวจีน ซึ่งทุกวันนี้ยังคงสืบทอดกันมา และมีผู้คนจำนวนไม่น้อยเลยที่ยังยึดหลักการเหล่านี้ สำหรับชาว Estopolis คงต้องพูดกันตรงๆ ว่าหลายอย่างในความเชื่อของหลักฮวงจุ้ยเป็นเรื่องที่พิสูจน์ไม่ได้ บางเรื่องก็เชยไปแล้ว แต่ก็ยังมีบางเรื่องที่ยังสามารถยึดถือได้อยู่ ดังนั้นเรามาดูกันว่าในหัวข้อของการเลือกซื้อคอนโดตามหลักฮวงจุ้ยนี้ ยังมีเรื่องใดบ้างที่คนหัวสมัยใหม่อย่างเราควร หรือไม่ควรใส่ใจ สำหรับการเลือกซื้อคอนโด


ฮวงจุ้ยคอนโดที่จะซื้อต้องไม่อยู่บริเวณทางโค้ง

เลือกซื้อคอนโดตามหลักฮวงจุ้ย

ทางโค้ง หรือเรียกว่าคมเคียวพิฆาต ซึ่งตำแหน่งที่ไมดีตามภาพจะเป็นตึก A ส่วนตำแหน่งที่ดีจะเป็นตึก B ส่วนทางโค้งจะเป็นโค้งถนน หรือโค้งแม้น้ำก็ได้


สาเหตุที่ตึก A เป็นฮวงจุ้ยที่ไม่ดี ไม่ควรซื้อคอนโดในตำแหน่งนี้ หลายซินแสอาจจะพูดถึงพลังต่างๆ แต่สำหรับ Estopolis ขอพูดถึงเรื่องที่คนยุคใหม่เข้าใจได้ดีกว่าครับ กล่าวคือ หากทางโค้งนั้นเป็นแม่น้ำหรือถนน มีเส้นทางตามลูกศร วัตถุที่มีมวลมากเช่น รถบรรทุก หรือน้ำปริมาณมากๆ มีโอกาสที่จะแหกโค้งพุ่งเข้าใส่ตึก A ได้ครับ อีกข้อหนึ่งหากทางที่เห็นนั้นเป็นโค้งของรถไฟฟ้า หรือทางยกระดับ ตึก A ก็อาจจะถูกรบกวนจากแสงไฟของรถด้วยเช่นกัน


ในขณะเดียวกัน ตึก B ในตำราฮวงจุ้ยมักจะบอกว่าเป็นทำเลที่ดี เพราะเหมือนได้รับการโอบอุ้ม มีสิ่งที่ดี ๆ วิ่งเข้ามาแต่ไม่ได้รับอันตราย หากจะว่าไปก็คงเป็นคอนโดที่ติดรถไฟฟ้าหรือทางด่วน แต่ไม่โดนแสงไฟของรถสาดโดยตรง


สำหรับใครที่ชอบทำเลแบบตึก A ก็ไม่ต้องกังวลไปครับ เพราะบ้านเราไม่ได้มีปัญหาน้ำท่วมแบบเมืองจีน หรือรถแหกโค้งพุ่งเข้าชนอาคารกันบ่อย สิ่งที่อยากแนะนำคือเลือกซื้อห้องคอนโดฝั่งที่ไม่เห็นถนน หรือเลือกห้องที่สูงหน่อยเพื่อให้พ้นจากมลภาวะทางแสงครับ


ฮวงจุ้ยคอนโดที่จะซื้อ ไม่ควรตรงทางสามแพร่ง หรือตรงช่องลม

ทางสามแพร่งในที่นี้เป็นไปได้ทั้งถนน แม่น้ำ และช่องลมครับ การเลือกซื้อคอนโด จึงต้องดูเป็นอย่าง ๆ ไปดังนี้

ฮวงจุ้ยกับการเลือกซื้อคอนโด - ทางสามแพร่ง

ตำแหน่งตึกที่มีเครื่องหมาย x คือตำแหน่งที่ไม่ดีของหัวข้อทางสามแพร่ง คนที่เชื่อเรื่องฮวงจุ้ยส่วนใหญ่จะไม่เลือกซื้อคอนโดที่ตั้งอยู่ในตำแหน่งนี้


ทางสามแพร่งที่เป็นถนน

หลักฮวงจุ้ยนี้เกิดขึ้นในสมัยก่อนที่การเดินทางยังเป็นรถม้า บ้านก็ทำจากไม้เป็นส่วนใหญ่ โอกาสที่รถม้าจะพุ่งเข้าชนบ้านจนเกิดความเสียหายก็เป็นไปได้ แต่ในปัจจุบันคงต้องโชคร้ายจริงๆ จึงจะเกิดเหตุการณ์แบบนั้นได้ ที่น่าเป็นห่วงคงจะเป็นเรื่องแสงไฟจากรถยนต์เสียมากกว่าที่อาจจะทำให้ผู้อยู่อาศัยเกิดความรำคาญ ซึ่งสามารถแก้ปัญหาได้ง่าย ๆ โดยการเลือกห้องที่อยู่สูงขึ้นจนพ้นจากการรบกวน หรือเลือกห้องที่ไม่อยู่ตรงกับถนนเป็นต้น

ทางสามแพร่งที่เป็นถนน ฮวงจุ้ยกับการเลือกซื้อคอนโด

การที่มีถนนพุ่งเข้าหาคอนโดแบบนี้ในหลักฮวงจุ้ยแนะนำว่าไม่ควรซื้อ แต่จริง ๆ แล้วเราแค่เลือกห้องที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งในชั้นสูง ๆ ก็สามารถลดปัญหาเรื่องมลพิษทางแสง และเสียงรบกวน แถมยังได้อยู่ในคอนโดที่สามารถเดินทางได้สะดวกอีกด้วย


ทางสามแพร่งที่เป็นแม่น้ำ

ไม่ใช่เพราะเชื่อในหลักฮวงจุ้ย แต่โดยปกติไม่มีใครทำคอนโด หรือสร้างบ้านในบริเวณนี้อยู่แล้ว เนื่องจากนานวันเข้าที่ดินเหล่านี้จะถูกกัดเซาะโดยแม่น้ำแล้วหายไปในที่สุด ดังนั้นคอนโดที่อยู่ตรงทางสามแพร่งแม่น้ำจึงไม่ใช่โครงการที่หาซื้อได้ง่าย ๆ จนต้องกังวลแน่นอนครับ


ช่องลม หรือช่องลมพิฆาต

จุดสังเกตคือเป็นคอนโด หรือตึกที่มองเห็นช่องว่างระหว่างตึกในระยะใกล้ในทิศเหนือและทิศใต้ซึ่งเป็นทิศที่ลมพัดผ่าน การที่มีช่องระหว่างตึก 2 ตึก เมื่อลมพัดทำให้อากาศไหลเข้ามาในช่องนั้นมากขึ้น ทำให้ลมที่ไหลออกมาปะทะกับตึกมีความแรงมากขึ้น


หลักฮวงจุ้ยนั้นคำนึงถึงสภาพบ้านเรือนในสมัยก่อนที่ยังหลังคามุงด้วยจาก แต่ในสมัยนี้อาคารมีความแข็งแรงมากจึงไม่ต้องกังวล เพียงแต่ห้องคอนโดที่อยู่ในบริเวณดังกล่าว อาจจะต้องระวังเรื่องของฝนสาดและน้ำรั่วซึมกันหน่อยครับ

เลือกซื้อคอนโดตามหลักฮวงจุ้ย ช่องลมพิฆาต

 บริเวณช่องว่างระหว่างตึก ลมจะค่อนข้างแรง อาจจะต้องระวังเรื่องของฝนสาด น้ำรั่วซึมตามขอบประตูหน้าต่าง



ฮวงจุ้ยคอนโดต้องซื้อตามทิศ และชั้นที่ถูกโฉลกกับปีนักษัตร

การซื้อคอนโดตามทิศและชั้นที่ถูกโฉลกกับปีนักษัตร เป็นอีกความเชื่อหนึ่งที่คนรุ่นใหม่ไม่ควรเชื่อมากนักครับ เนื่องจากแทบไม่ได้มีเหตุผลอะไรเลย เป็นความเชื่อตามหลักฮวงจุ้ยล้วน ๆ การเลือกห้องที่ดีควรเลือกจากการใช้ชีวิตของเราน่าจะดีกว่าครับ


อย่างที่เราทราบกันดีในเรื่องของชั้น ยิ่งสูงก็ยิ่งจะทวีความแพง ยิ่งวิวสวยก็จะยิ่งแพงหนักเข้าไปอีก แถมชาวจีนบางส่วนยังเชื่อเรื่องของชั้นที่ 13 ว่าเป็นชั้นที่ไม่มงคล ซึ่งจริง ๆ แล้วเลข 13 เป็นความเชื่อของฝั่งยุโรป สรุปแล้วมันก็เป็นความเชื่อที่ผสมปนเปกัน และเราก็ไม่สามารถสรุปได้ว่าทุกคนที่อยู่ชั้น 13 หรือเลขห้องไม่ถูกโฉลกกับตัวเองจะมีชีวิตที่หาดีไม่ได้อย่างที่ว่ากันมา


จริง ๆ แล้วห้องที่ดี น่าจะเลือกจากความต้องการของเราเองมากกว่า และแน่นอนว่าเห็นผลได้ชัดเจนกว่าหลักฮวงจุ้ยที่เป็นความเชื่อแบบโชคลางแน่นอน

การเลือกคอนโดตามหลักฮวงจุ้ย-ทิศที่เหมาะสม

แสงแดดและทิศทางของลมเป็นเรื่องที่สำคัญกว่าฮวงจุ้ยเรื่องดวงในการเลือกซื้อคอนโด


ทิศของคอนโดเกี่ยวข้องกับความชื้นและอุณหภูมิ

ทิศเหนือ รับลม 4 เดือน ไม่ค่อยโดนแดด เพราะดวงอาทิตย์จะอ้อมไปทางทิศใต้เป็นส่วนใหญ่ ให้ระวังเรื่องความชื้น ห้องนี้เหมาะกับคนที่ชอบเปิดหน้าต่างบ่อย ๆ


ทิศใต้ รับลม 8 เดือน ระเบียงโดนแดดส่องบ้าง พอให้ผ้าที่ตากแห้งได้


ทิศตะวันออก จะโดนแดดส่องในตอนเช้า เหมาะกับคนที่ต้องออกจากห้องแต่เช้า เพราะเป็นช่วงเวลาที่ห้องจะร้อนแต่แสงแดดก็ช่วยให้ห้องไม่อับชื้น


ทิศตะวันตก จะโดนแดดส่งในตอนบ่ายจนถึงเย็น และห้องจะอมความร้อนไปจนถึงตอนหัวค่ำ เครื่องปรับอากาศจะทำงานหนักในช่วงนี้ ห้องนี้ไม่เหมาะกับคนที่ทำงานกลางวันกลับบ้านตอนกลางคืน แต่เหมาะกับคนที่ทำงานกลางคืน และตื่นตอนบ่าย ๆ


สำหรับเรื่องทิศคอนโด ส่วนใหญ่เลือกทำห้องให้หันไปทางทิศเหนือและทิศใต้เป็นส่วนใหญ่ครับ เพราะ 2 ทิศนี้ค่อนข้างเหมาะกับหลาย ๆ lifestyle ทำให้ขายได้ไม่ยาก

ชั้นของห้อง เป็นเรื่องสำคัญในการเลือกซื้อคอนโด มากกว่าหลักฮวงจุ้ย

ฮวงจุ้ย อาจจะให้เลือกชั้นตามเลขท้ายที่ถูกโฉลก ทำให้ไม่ได้ห้องที่ตัวเองตั้งใจเอาไว้ แล้วอย่างนี้จะอยู่คอนโดอย่างมีความสุขได้ยังไง


การเลือกชั้นของคอนโด

ชั้น 1 อาจจะไม่ค่อยได้รับความเป็นส่วนตัวเท่าไรโดยเฉพาะกับคอนโดแบบ Low rise แต่หลาย ๆ โครงการก็ออกแบบมาแก้ในส่วนนี้ โดยการทำให้ห้องเหล่านี้อยู่แล้วรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน บางโครงการสามารถเดินออกจากระเบียงไปยังส่วนหย่อมได้ด้วย


ชั้น 2 อาจจะไม่ค่อยได้รับความเป็นส่วนตัวเท่าไร เนื่องจากชั้น 2 มักจะเป็นคอนโดแบบ low rise โดยใต้ถุนเป็นที่จอดรถ อาจจะได้รับการรบกวนจากรถที่เข้า ๆ ออก ๆ


ชั้นเดียวกับ facility หรือส่วนกลาง ชั้นเหล่านี้จะไม่ค่อยได้รับความเป็นส่วนตัว โดยที่ผู้ใช้บริการ Facility อาจจะมองเข้ามาเห็นเราได้ ทำให้ต้องปิดม่านในช่วงเวลาที่เปิดใช้งาน facility แต่ในช่วงเวลาที่ยังไม่มีการใช้งาน facility ก็ทำให้รู้สึกได้สวนส่วนตัวเหมือนกัน หลายโครงการจึงทำทางเดินให้สามารถเดินลงจากระเบียงไปได้เลย เพราะให้ลูกบ้านรู้สึกเหมือนอยู่บ้านจริง ๆ


ยิ่งชั้นสูงยิ่งส่วนตัว ตำราฮวงจุ้ยมักจะบอกว่ายิ่งสูงยิ่งไม่ดี เนื่องจากเป็นเป้าที่ชัดเจนของสิ่งไม่ดีในหลักฮวงจุ้ย แต่จริง ๆ แล้วยิ่งสูงยิ่งแพง ยิ่งเป็นส่วนตัว ไม่โดนรบกวน และอาจจะยิ่งอับสัญญาณโทรศัพท์ครับ


ห้องไม่ควรอยู่ใต้สระน้ำ ฮวงจุ้ยจะพูดถึงกระแสน้ำที่มีผลต่อคลื่นสมอง ซึ่งทาง Estopolis ไม่ได้เชื่ออย่างนั้น การมีห้องคอนโดอยู่ใต้สระว่ายน้ำ อาจจะมีปัญหาเรื่องรั่วซึมเกิดขึ้นได้ในอนาคตครับ แม้ว่าคอนโดจะสร้างดีเพียงใดก็ตาม แต่คิดแบบนี้ก็ถือว่าปลอดภัยไว้ก่อนครับ


ห้องใกล้ห้องขยะ และใกล้ลิฟต์ ห้องพวกนี้จะได้รับการรบกวนจากลิ่นและสัตว์ไม่พึงประสงค์จากห้องขยะ และเสียงรบกวนจากการใช้ลิฟต์     


ห้องที่อยู่ตรงบันไดหนีไฟ หรือใกล้บันไดหนีไฟ ทาง Estopolis ถือว่าดีครับ เพราะนอกจากหนีไฟได้ง่ายแล้ว บันไดหนีไฟจะไม่ค่อยมีคนใช้ในเวลาปกติ คนที่ได้ห้องติดบันไดหนีไฟจึงเหมือนกับได้ผนังห้องแยกไม่ต้องกลัวเรื่องข้างห้องเสียงดังครับ


ซื้อคอนโดให้ดูตึก ตามฮวงจุ้ยบอกไม่ควรมีใต้ถุนโล่งอยู่ด้านล่าง

ทางฮวงจุ้ยเชื่อว่าการที่มีใต้ถุนเปิดโล่งเป็นรากฐานที่ไม่มั่นคง แต่ในความเป็นจริงโครงสร้างอาคารทุกวันที่แข็งแรงมาก การที่บอกว่ารากฐานไม่มันคง ไม่แข็งแรง จึงเป็นเรื่องความรู้สึกของคนที่ไม่เข้าใจโครงสร้างอาคารอย่างถ่องแท้ หลาย ๆ โครงการโดยเฉพาะ low rise ใช้ใต้ถุนเป็นที่จอดรถ


ถ้าเอาแต่ฮวงจุ้ยนี้ ก็อาจจะเริ่มหาคอนโดอยู่ยากแล้วครับ อีกอย่างหนึ่งคือคอนโดที่มีที่จอดรถอยู่ใต้ถุนยิ่งโล่งยิ่งดีครับ เพราะหมายความว่าเราจะมีที่จอดรถเหลือเฟือ

การที่มีใต้ถุนโล่งเป็นที่จอดรถได้สำหรับคอนโด เป็นเรื่องปกติ

เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไปความเชื่อโบราณอย่าง ฮวงจุ้ยก็อาจจะไม่ตอบโจทย์เรื่อง functional ใต้อาคารส่วนใหญ่จึงเป็นที่โล่งสำหรับจอดรถ


ฮวงจุ้ย 'ห้าม' ประตูระเบียงกับประตูห้องตรงกัน

ทางฮวงจุ้ยเชื่อว่าพลังงานดี ๆ จะผ่านเข้ามาทางประตูหน้าห้องไปยังประตูระเบียง หากคิดแบบนี้หมายความว่าพลังงานดีจำเป็นต้องขึ้นลิฟต์ตามเรามาด้วยจึงจะมีสิทธิ์ออกทางระเบียง  จริงๆ การที่ประตูห้องกับประตูระเบียงตรงกันจะมีข้อที่ต้องระวังอย่างเดียวครับ คือหาก เปิดประตูทั้งสองพร้อมกันลมที่พัดเข้ามาทางระเบียงจะแรงมาก โดยเฉพาะชั้นสูงและห้องอยู่ทางทิศใต้กับเหนืออาจจะแรงจนทำให้ข้างของปลิวได้เลย

ฮวงจุ้ยกับการเลือกซื้อคอนโด ประตูห้องตรงกับประตูระเบียง

โครงการ C Ekkamai ห้องขนาด 34 ตร.ม. ประตูห้องตรงกับประตูระเบียง

ฮวงจุ้ยกับการเลือกซื้อคอนโด ห้องมุมอับ ห้องสุดทางเดิน

ฮวงจุ้ยคอนโด ห้องต้องไม่อยู่สุดทางเดิน หรือบริเวณมุมอับ    

ตามหลักฮวงจุ้ย การซื้อห้องคอนโดที่อยู่สุดทางเดิน หรือบริเวณมุมอับจะทำให้ชีวิตอับจนหาหนทางไม่ได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วห้องสุดทางเดินมันคือห้องมุมครับ ห้องมุมเป็นห้องที่ชาวมนุษย์คอนโดอยากเป็นเจ้าของเพราะสามารถรับวิวได้รอบทิศทาง เวลาขายต่อยังเป็นห้องที่คนสนใจมากกว่ายูนิตอื่นอีกด้วย แล้วแบบนี้จะเรียกว่าอับจนหนทางได้อย่างไร


ส่วนห้องที่อยู่มุมอับอาจจะตีได้ว่าห้องที่โดนบล็อกวิวก็ได้ครับ ห้องที่โดนบล็อกวิวต้องยอมรับจริง ๆ ว่าเป็นห้องที่ไม่ค่อยดีครับ ตรงที่อยู่แล้วอาจจะรู้สึกอึดอัด เวลาอยากขายก็ขายค่อนข้างยาก อาจจะมองว่าอยู่แล้วอับจนหนทางได้จริง ๆ 


คนในยุคนี้ไม่ใช่ผู้คนที่สามารถจับจองที่ดินแล้วสร้างบ้านที่ดีที่สุดให้ตัวเองได้ โดยเฉพาะในทำเลที่เอื้ออำนวยต่อการเดินทางไปทำงาน คอนโดมิเนียมจึงกลายมาเป็นที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์คนเมืองในยุคนี้ การจะยึดหลักฮวงจุ้ยที่เกิดมาก่อนสิ่งก่อสร้างที่เรียกว่าคอนโดมิเนี่ยมจะเกิดขึ้นมา อาจจะไม่ครอบคลุมหรือเข้าใจหลักการของการเลือกซื้อคอนโดในทุกจุดได้ ผู้ที่เลือกซื้อคอนโดจึงควรยึดหลักเหตุผล และความสอดคล้องกับการใช้ชีวิตเป็นสำคัญ เพื่อที่จะได้รับความสุขจากการเป็นมนุษย์คอนโดอย่างแท้จริง


อ้างอิง : http://www.propertytoday.in.th

https://home.kapook.com

เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร...?

Related Stories

Esto Talks

See All >

Living out loud

Living out loud : VANA RESIDENCE พระราม 9 - ศรีนครินทร์