รูปบทความ คาเฟ่ชิคๆ ในเมืองกรุง ที่คุณต้องลองไปสักครั้ง

คาเฟ่ชิคๆ ในเมืองกรุง ที่คุณต้องลองไปสักครั้ง

ปัจจุบันเรียกได้ว่า มีร้านคาเฟ่แข่งขันเปิดใหม่กันมากมาย ซึ่งแต่ละร้านก็ถือว่ามีจุดเด่น และเสน่ห์ที่แตกต่างกันออกไป ทั้งการตกแต่งภายในร้าน และเมนูเครื่องดื่ม-ขนมหวานที่เป็นซิกเนเจอร์


ซึ่งวันนี้ Esto จะมาเฉลยพิกัดร้านเจ๋งๆ กับ “เผย 5 คาเฟ่ชิคๆ ในเมืองกรุง ที่คุณต้องลองไปให้ได้สักครั้ง” คาเฟ่ร้านไหนบ้างที่ให้บรรยากาศที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร มีเมนูที่สร้างสรรค์ สร้างความตื่นตาตื่นใจที่เห็นแล้วต้องร้องว้าว! ว่าแล้วก็ ตามไปดูด้านล่างกันได้เลย


FABLAB Café & Dining





คาเฟ่สุดแนวย่านเอกมัย ที่นำเสนอในธีมห้องแลปสุดชิค! จุดเด่นของที่นี่คือเมนูเครื่องดื่ม ที่ใครชอบผสมเครื่องดื่มเองแบบนักวิทยาศาตร์ต้องไม่พลาด บรรยากาศภายในร้านตกแต่งโทนสีขาว-ดำ โต๊ะและพื้นภายในร้านเน้นลายหินอ่อนเป็นหลัก มีต้นไม้สีเขียวแซมรอบๆ ให้บรรยากาศร่มรื่นเย็นสบายตา มีเครื่องดื่ม อาหารคาวและหวานให้เลือกทานมากมาย ใครทานอิ่มแล้วจะเดินขึ้นไปชอปปิงเสื้อผ้าแฟชั่นที่ชั้น 2 โซน Multi - Brand Store ก็ได้ เรียกได้ว่า ชอป-ชิลล์-แชะ ครบรสเลยทีเดียว



เมนูอาหารอาหารของที่นี่จะใช้คอนเซ็ปต์ “All Day Dining” ที่พร้อมเสิร์ฟเมนูอาหารตลอดวัน โดยอาหารคาวจะเน้นไปทางอาหารฟิวชั่นเป็นหลัก เมนูที่ขึ้นชื่อของร้านจะเป็น “Mac n Cheese” ในราคา 350 บาท เมนูที่สายชีสไม่ควรพลาด เมนูนี้มีจุดเด่นอยู่ที่ซอสครีมรวมมิตรกุ้ง ปลาหมึก และไข่กุ้งสุดเข้มข้น และโรยหน้าด้วยเกล็ดขนมปังอบชีสพาร์เมซานสร้างความกรุบกรอบ ชีสยืดได้ใจ อร่อยได้ในคำเดียว



ส่วนเมนูอาหารหวานของที่นี่จะมีให้เลือกรับประทานหลากหลายเมนู ไม่ว่าจะเป็นแบบไทยๆ อย่าง “Mingle Mango” (170 บาท) เมนูข้าวเหนียวมะม่วงที่นำเสนอในรูปแบบทันสมัย พร้อมน้ำราดมะม่วงสุดอร่อย หรือแบบฝรั่งอย่าง “Chocolate Volcano” (240 บาท) เค้กช็อกโกแลตอัลมอนด์ พร้อมช็อตมิลค์ซอสที่บรรจุอยู่ในหลอดฉีดยา ที่เราสามารถฉีดซอสเข้าไปตรงกลาง ให้ไหลเยิ้มออกมาเป็นลาวาแสนอร่อย กินคู่กับช็อกโกแลตสุดเข้มข้นสุดฟิน



มากันต่อที่เมนูเครื่องดื่มที่ถือเป็นซิกเนเจอร์ของทางร้าน เพราะที่นี่มีลูกเล่นให้เราเหมือนได้เรียนวิชาเคมี โดยที่นี่จะเสิร์ฟเครื่องดื่มใส่ในแก้วทดลอง และมีส่วนผสมต่างๆ ใส่มาในหลอดฉีดยาให้เราฉีดลงไปผสมเอาเองอย่าง “น้ำมะนาวอัญชัน” ที่บรรจุน้ำมะนาวมากับหลอดฉีดยา ให้เราเต็มความเปรี้ยวเอาเองตามใจชอบ ความพิเศษของเมนูนี้คือ เวลาฉีดน้ำมะนาวลงไป น้ำอัญชันก็จะค่อยๆ เปลี่ยนจากสีม่วงเป็นสีน้ำเงิน เหมือนกำลังทดลองเลยจริงๆ



ว้าวกว่านี้ก็มีอีก เพราะบางเมนูของที่นี่จะมาเป็นหลอดทดลองหลายๆ อัน ให้เราได้เป็นนักวิทยาศาสตร์หยดส่วนผสมแต่ละอย่างกันเอาเอง เช่นเมนู “Thai Tea Cubes & Tubes” ที่เสิร์ฟชาไทยมาในรูปแบบก้อนน้ำแข็ง Cube ทรงสี่เหลี่ยม พร้อมหลอดทดลองที่ใส่ชาไทย นมข้น นมสด และน้ำเชื่อมให้เราผสมสัดส่วนต่างๆ เอาเอง เหมือนนักวิทยาศาสตร์จริงๆ ใครอยากลองประสบการณ์แบบนี้ต้องไม่พลาดร้านนี้เลย



พิกัด : ซอยสุขุมวิท 63 (เอกมัย) เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร

เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน เวลา 10.00-22.00

ราคา : 100-600 บาท

เบอร์โทร : 02-101-4287

Facebook : https://www.facebook.com/fablabcafebkk




Mocking Tales



คาเฟ่ย่านทองหล่อสุดชิค ที่นำเสนอ 2 คอนเซ็ปต์ “Day Dessert” และ “Night Bar” เหมาะสำหรับลูกค้าทั้งสองไลฟ์สไตล์ ใครอยากทานขนมอร่อยๆ จิบกาแฟชิลล์ๆ ก็ไปตอนกลางวัน ใครอยากดื่มเครื่องดื่มค็อกเทลเก๋ๆ ก็ไปตอนกลางคืน จุดเด่นของร้านนี้คือ ภายในร้านจะตกแต่งในธีมปราสาทลึกลับ ออกแนวเวทย์มนต์ สไตล์แฟนตาซีเหมือนอยู่ในเทพนิยาย ตกแต่งโทนสีดำเป็นหลัก ใครชอบบรรยากาศลึกลับแฟนตาซีแบบนี้ต้องมาให้ได้เลย


นอกจากภายในร้านที่ตกแต่งได้แปลกแหวกแนวแล้ว เมนูอาหารก็ยังเป็นเอกลักษณ์ ออกแบบได้แฟนตาซีตามคอนเซ็ปต์ทุกเมนูจริงๆ ใครชอบเมนูแปลกๆ มีความสร้างสรรค์สวยงามต้องมาโดน



เมนูขนมที่ขึ้นชื่อของทางร้านจะเป็น “ภูเขาไฟลาวาเพลิง(Inferno Mountain) ในราคา 480 บาท ที่ได้แนวคิดมาจากเรื่อง “เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์” ในฉากทำลายแหวน และภูเขากำลังถล่ม เมนูนี้ประกอบไปด้วยช็อกโกแลตโดมทรงภูเขาไฟ เสิร์ฟพร้อมไอศกรีม 3 ลูก รสมิ้นท์, รสลิ้นจี่ และรสรัมลูกเกด พร้อมน้ำราดสตรอว์เบอรรี่สีแดงที่ทางร้านราดให้พร้อมจุดไฟเบิร์น ให้ช็อกโกแลตโดมค่อยๆ ละลายลงมาพร้อมน้ำราด เหมือนภูเขาไฟลาวาที่กำลังไหลเยิ้มออกมา ชวนให้น่าตื่นตาตื่นใจสุดๆ



อีกเมนูของหวานสุดฮิตที่ชื่อน่าหดหู่นิดๆ อย่าง “พระจันทร์สีเลือด กับกระต่ายที่หายไป (Blood Moon and the Missing Rabbit) ราคา 200 บาท ใครอยากตามหากระต่ายต้องสั่งมาให้ได้ เมนูนี้จะเสิร์ฟไอศกรีมบนแป้งพัฟสอดไส้คัตตาร์ดที่เป็นฐาน ราดน้ำเชื่อมไซรัปรอบๆ เหมือนวงแหวนจักรวาล คล้ายกับกระต่ายบนดวงจันทร์ และปิดท้ายด้วยซอสสตรอว์เบอรรี่ ที่ทางร้านจะนำมาราดบนไอศกรีม ให้ไหลเยิ้มคล้ายกับสีเลือดบนกระต่าย กลายเป็นโศกนาฏกรรมตามชื่อเมนูจริงๆ 

ส่วนเมนูของคาวจะเป็นสไตล์อเมริกัน เช่น วากิวเบอร์เกอร์ (Wagyu Burger) ราคา 480 บาท เบอร์เกอร์สีชาโคล กับเนื้อวากิวที่ปรุงสุกกำลังดี และ ไส้กรอกรวม (The Three little pigs) ราคา 440 บาท ไส้กรอกชิ้นใหญ่รสชาติดี ที่ได้ลองแล้วจะติดใจ



ส่วนเครื่องดื่มก็ถือว่าหลากหลาย มีทั้งชา กาแฟ โกโก้ และเครื่องดื่มค็อกเทลที่แปลกแหวกแนวตามแต่ละ Chapter เช่น “น้ำตานางเงือก(Mermaid Tear) ค็อกเทลสีเหลืองแสนอร่อย และ “Mocking Tea” ชาเขียวผสมกลิ่นไซรัปน้ำดอกไม้ พร้อมผลไม้ตามฤดูกาลหั่นชั้นเล็กๆ โรยด้านบน


แค่เห็นเมนูทั้งเครื่องดื่ม และอาหารคาว-หวานก็รู้สึกตื่นเต้นแล้ว ไหนจะมีเมนูใหม่ๆ ตามแต่ละ Chapter ให้ได้ลองทานกันด้วย ใครที่อยากสัมผัสบรรยากาศในโลกเทพนิยายแฟนตาซี พร้อมลิ้มรสเมนูอาหารสุดแฟนตาซี ที่อร่อยสมราคา พร้อมถ่ายรูปอวดเพื่อนเก๋ๆ ต้องแวะมาที่ร้านนี้กันให้ได้


พิกัด : อยู่ชั้น G ในโครงการ The Maze ทองหล่อ ซอยทองหล่อ 4 ถนนสุขุมวิท 55 กรุงเทพมหานคร

เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน เวลา 11.00-01.00

ราคา : 100-500 บาท

เบอร์โทร : 083-386-6992

Facebook : https://www.facebook.com/mockingtales/



SHUGAA



คาเฟ่แบบหวานๆ ย่านสุขุมวิท 61 ที่จะทำให้หัวใจพองโตด้วยความบรรยากาศสดใสน่ารักภายในร้าน โดยที่ร้านนี้จะตกแต่งด้วยสีพาสเทลหวานๆ มีบาร์ขนมหวานขนาดใหญ่ที่ทำจากหินอ่อนสีขาวสะอาดเห็นแล้วสบายตา จุดเด่นของร้านนี้คือ ขนมหน้าตาน่ารักมากจนเลือกไม่ถูกเลย นอกจากนี้บริเวณชั้น 2 ยังเป็นพื้นที่สำหรับจัดกิจกรรมทำเวิร์คช็อปและคลาสสอนทำฟองดองท์ DIY ที่ทางร้านจัดขึ้นโดยเฉพาะด้วย ใครที่ชอบร้านตกแต่งสไตล์พาสเทลหวานๆ พร้อมขนมหน้าตาน่ารักต้องไม่พลาด



ที่ร้านมีทั้งเมนูคาวและหวาน แต่จะเน้นไปทางขนมหวานซะมากกว่า โดยจะมีทั้งแบบ Plated Dessert ที่ตกแต่งขนมแบบจานต่อจานอย่างประณีต และมีขนมเค้กน่ารักๆ เป็นชิ้นเล็กๆ ให้ได้ทานกันด้วย โดยเมนูแนะนำของทางร้านจะเป็น “Shugaa” (255 บาท) ขนมที่ใช้ชื่อของร้านบ่งบอกความเป็นซิกเนเจอร์โดยเฉพาะ เป็นขนมสไตล์ญี่ปุ่น ประกอบไปด้วยเค้กชาเขียวนุ่มๆ และตกแต่งด้วยเกาลัด โมจิ มูส ไอศกรีม คุกกี้บด และส่วนประกอบอื่นๆ อย่างละนิดละหน่อย แต่กินรวมกันแล้วอร่อยสุดๆ



ส่วนเครื่องดื่มจะมีตั้งแต่ชา กาแฟ ช็อกโกแลต เช่น “S'More” (155 บาท) เครื่องดื่มช็อกโกแลตปั่น โรยหน้าด้วยเอิร์ลเกรย์ครัมเบิ้ล กับมาชเมลโล่หนุบหนับที่มีการเผาผิวด้านนอกนิดๆ แล้วราดหน้าด้วยช็อกโกแลตซอสด้านบนอีกที ส่วนใครชอบน้ำผลไม้ที่นี่ก็มีเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็น “Autumn bliss” (145 บาท) ชากลิ่นน้ำผึ้งโฮมเมดผสมกับน้ำพีชพร้อมเนื้อพีชแท้ๆ หรือใครชอบน้ำดื่มเพื่อสุขภาพที่นี่ก็มี “Shugria” (145 บาท) น้ำกระเจี๊ยบผสมน้ำมะนาวและองุ่น สร้างความสดชื่น


ใครที่อยากทานขนมหน้าตามุ้งมิ้งน่ารักๆ จิบเครื่องดื่มสดชื่นๆ พร้อมบรรยากาศแบบหวานๆ สไตล์พาสเทล ต้องแวะมาลองที่ร้านนี้กันให้ได้


พิกัด : The Residence@61 สุขุมวิท 61 เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร

เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน เวลา 10.00-19.00

ราคา : 100-300 บาท

เบอร์โทร : 02-381-5940

Facebook : https://www.facebook.com/ShugaaDessertBar




Peace Oriental Teahouse



คาเฟ่สุดเนี๊ยบสไตล์ญี่ปุ่นย่านเอกมัย ที่ให้บรรยากาศเงียบสงบ อบอุ่น ตามสไตล์ญี่ปุ่น ภายในตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สีสว่างสไตล์มินิมอล จุดเด่นของที่นี่คือ โดดเด่นด้วยชาทางตะวันตกจากประเทศจีน ญี่ปุ่น และไต้หวัน ที่คัดสรรมาอย่างดี เน้นเฉพาะใบชาคุณภาพดี และเสิร์ฟในแบบต้นตำรับเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นชาร้อนที่ขายยกกา หรือชาเขียวมัทฉะที่ตีในถ้วยด้วยแปรงชงชาไม้ไผ่ ใครที่ชอบดื่มชาหลากชนิด ที่จัดเสิร์ฟมาในรูปแบบต่างๆ ต้องมาที่ร้านนี้กันให้ได้สักครั้ง



เริ่มด้วยเมนูเครื่องดื่มแบบร้อนอย่าง “Gyokuro” ในราคา 450 บาท ต่อเซ็ต ที่สำหรับคนรักชาญี่ปุ่นไม่ควรพลาด เพราะถือว่าเป็นใบชาเขียวญี่ปุ่นที่ดีที่สุด มีรสอูมามิ หรือรสชาติแห่งความกลมกล่อม ถือเป็นชาที่มีความลุ่มลึกในรสชาติ เมื่อดื่มเข้าไปจะรู้สึกถึงกลิ่นที่ซ้อนกันอยู่ของชาตามธรรมชาติที่หาทานได้ยาก



ส่วนใครอยากทานแบบชาเขียวนม ทางร้านก็มี “Pastel Matcha” (140 บาท) ชาเขียวมัทฉะเย็น ที่เสิร์ฟมาในชามกระเบื้องทรงกลมไซส์ใหญ่ ไม่มีน้ำแข็งเพื่อให้ได้รสชาแบบเต็มๆ ซึ่งตัวชาของที่นี่จะเข้มข้น หอมหวาน และรสชาติดีมาก



เมนูขนมหวานของที่นี่ก็อร่อยไม่แพ้กัน โดยทางร้านจะใช้ชาเขียวเป็นหลัก เมนูของหวานที่แนะนำของทางร้านคือ “Matcha Extremist” (285 บาท) ไอศกรีมชาเขียวรสชาติเข้มข้นกลมกล่อม ที่หุ้มด้วยเปลือกที่ทำจากถ่านชาโคลบางกรอบ กินคู่กับข้าวเหนียวดำ ที่ชูรสชาติชาเขียวได้เป็นอย่างดี และอีกเมนูนึงอย่าง “Koicha Cream” (285 บาท) ไอศกรีมรสนมที่วางอยู่บนชาเขียวมัทฉะตีข้นด้านล่าง พร้อมข้าวเหนียวดำ ที่พอกินเข้ากันแล้วรสชาติอร่อยลงตัวมาก


ถือว่าเป็นร้านคาเฟ่ที่เหมาะสำหรับคนรักชาจริงๆ เพราะมีเมนูชาหลากหลายชนิดให้ได้เลือกดื่มกัน ไม่ว่าจะเป็นร้อน เย็น ปั่น แบบชาเพียวๆ หรือแบบชานมหอมๆ เมนูของหวานก็อร่อยกลมกล่อมได้รสชาจริงๆ ใครอยากลองความอร่อยของชาคุณภาพดีที่เข้มข้นถึงรสต้องมาที่ร้านนี้กันให้ได้


พิกัด : 70/5 สุขุมวิท 63 (ระหว่างเอกมัยซอย 2 กับ 4) คลองตันเหนือ วัฒนา กรุงเทพมหานคร

เวลาเปิด-ปิด : จันทร์-ศุกร์ เวลา 7.00-21.00 , เสาร์-อาทิตย์ เวลา 10.00-21.00

ราคา : 100-500 บาท

เบอร์โทร : 097-267-2626

Facebook : http://www.facebook.com/peace.t.house



MANGKUD CAFÉ



ร้านคาเฟ่สไตล์อาร์ต แกลเลอรี่ แห่งเดียวบนถนนราชพฤกษ์ มีจุดเด่นเรื่องการนำเสนอด้วยอาหารไทย และขนมไทยโบราณสูตรต้นตำรับในรูปแบบสมัยใหม่ ภายในร้านตกแต่งสไตล์อบอุ่น มีการจัดวางโชว์สิ่งของเครื่องใช้สมัยก่อน และตกแต่งด้วยรูปภาพงานศิลปะ ให้บรรยากาศอบอุ่น สบายๆ โดยจะใช้โทนสีขาวดำ แล้วสร้างจุดเด่นด้วยสีโทนสีน้ำเงินซึ่งเป็นสีของดอกอัญชันเป็นหลัก ส่วนชั้น 2 จะเป็นอาร์ต แกลเลอรี่ และสตูดิโอ รองรับกิจกรรมด้านศิลปะทุกแขนง



เมนูอาหารของที่นี่จะเน้นไปทางอาหารไทยแบบโบราณ ที่ตกแต่งใหม่ในรูปแบบโมเดิร์นสมัยใหม่ สร้างสรรค์ผลงานบนจานเพื่อบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ เหมือนงานศิลปะ เมนูอาหารโบราณสูตรเด็ดของทางร้านได้แก่ “ปลาแห้งแตงโม” (150 บาท) ที่นำแตงโมหั่นทรงสี่เหลี่ยมมาวางพาดกันเป็นซุ้มประตูแบบญี่ปุ่น จุดเด่นของเมนูนี้คือ ปลาแห้งรสเค็มที่ทำจากปลาช่อนทะเลแห้ง เมื่อทานคู่กับแตงโมที่หวานฉ่ำ จะทำให้ชูรสชาติของทั้งสองอย่างได้เป็นอย่างดี ได้ความอร่อยสดชื่นที่ลงตัว



ถัดมาเป็นเมนู “แกงเขียวหวานหมูย่างลำไย” (185 บาท) ที่ถือว่าเป็นสูตรโบราณที่ใช้ลำไยเป็นส่วนประกอบของเครื่องแกง หาทานได้ยากเช่นกัน จุดเด่นของทางร้านคือ รสชาติเครื่องแกงที่เข้มข้น จัดจ้าน กินคู่กับหมูย่าง และลำไยหวานๆ เข้ากันได้เป็นอย่างดี และเมนูทานเล่นอย่าง “ห่มรักในสวน” (100 บาท) ที่เป็นซิกเนเจอร์ของทางร้าน เป็นยำเส้นหมี่ ผัก และดอกไม้นานาชนิดที่จะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล ห่อด้วยแป้งญวน ราดด้วยน้ำยำสูตรพิเศษของทางร้านรสชาติเผ็ดกำลังดี จัดจานสวยงามสุดๆ



ทานของคาวกันแล้ว มาต่อกันที่ขนมหวานแบบไทยๆ กันบ้าง ที่ร้านมีให้เลือกหลากหลายชนิดมาก ไม่ว่าจะเป็น “ขนมสำปันนี” (120 บาท) ขนมไทยที่หาทานได้ยาก เป็นขนมที่ทำจากแป้งมันคั่วกับกะทิ ซึ่งของที่นี่จะมีความหนึบ และไม่ร่วน หรือ “ขนมพระพาย” (130 บาท) ขนมไทยโบราณหาทานยากอีกเมนูหนึ่ง เป็นขนมที่ทำจากแป้งข้าวเหนียว ไส้ข้างในเป็นถั่วบดปั้นอบเทียน มีน้ำกะทิให้ราดเพิ่มความมัน ซึ่งน้ำกะทิของที่นี่จะหอมเข้มข้น หอมกลิ่นเทียนอบและมะลิ รสไม่หวานมาก กลมกล่อมกำลังดี


ใครที่ชอบคาเฟ่ร้านอาหารและขนมแบบไทยๆ ลิ้มรสชาติอาหารไทยโบราณ และขนมไทยที่หาทานได้ยาก ที่ตกแต่งมาแบบสมัยใหม่ มีสีสันสวยงาม ต้องมาลองที่ร้านนี้กันให้ได้


พิกัด : 94/87 ราชพฤกษ์ 34 เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร

เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน เวลา 11.00-20.00 (หยุดทุกวันจันทร์)

ราคา : 100-500 บาท

เบอร์โทร : 081-843-1598 , 02-432-0968

Facebook : https://www.facebook.com/rak.mangkudcafe/


และนี่คือ 5 คาเฟ่สุดชิค ในเมืองกรุง ที่เราคัดสรรมาให้เพื่อนๆ ได้รู้จักกัน ซึ่งแต่ละร้านล้วนมีเสน่ห์ และจุดเด่นที่ถือว่าเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่คุณต้องลองไปให้ได้สักครั้ง ใครที่อยากสัมผัสบรรยากาศแปลกใหม่ ลิ้มรสรสชาติความอร่อยของอาหารและเครื่องดื่มสุดพิเศษ ต้องแวะไปลองกันให้ได้


บทความที่เกี่ยวข้อง

แนะนำลาดพร้าว ทำเลดีๆ ที่ไม่ได้มีแค่ของกิน

แนะนำ 5 ย่านคอนโดราคาประหยัด ที่ตอบโจทย์มนุษย์เงินเดือน

3 ย่านคาเฟ่ดีต่อใจ ใกล้คอนโด บนทำเลตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนทำงาน

รวม 5 คาเฟ่ดังแถว BTS อารีย์ ที่ไม่ได้มีดีแค่พื้นที่นั่งอ่านหนังสือ

5 คาเฟ่เอาใจคนรักสุขภาพ ใกล้รถไฟฟ้า อร่อยได้..Healthyด้วย

เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร...?

Related Stories

Esto Talks

See All >

Living out loud

Living out loud : VANA RESIDENCE พระราม 9 - ศรีนครินทร์