รูปบทความ จ้าง Interior ต้องจ่ายแพงมั้ย? หาคำตอบได้จากปาก Interior ตัวจริง

จ้าง Interior ต้องจ่ายแพงมั้ย? หาคำตอบจากปาก Interior ตัวจริงมากประสบการณ์

จ้าง Interior ในการแต่งคอนโดราคาจะแพงมากมั้ยนะ? 


คำถามนี้น่าจะเป็นคำถามกวนใจใครหลายคนที่อยากตกแต่งห้องให้เหมือนใหม่ แต่ก็กังวลใจเกี่ยวกับราคาค่าจ้าง Interior หรือนักตกแต่งภายในมืออาชีพว่าจะต้องจ้างแพงแค่ไหน ถึงจะได้ห้องสวยเหมือนห้องตัวอย่าง ESTO เองคงจะตอบคำถามนี้ไม่ได้ วันนี้เราเลยจะไปไขคำตอบนี้ให้ด้วยการสอบถามจาก Interior ตัวจริงอย่าง 'Kirin Design & Living' บริษัทรับตกแต่งภายในที่เราเคยทำความรู้จักกับเขามาแล้วใน บทความ รู้จัก 'KIRIN' มัณฑนากรชื่อดังจาก Pantip กับชีวิตเจ้าของบริษัท Interior สไตล์ฟรีแลนซ์ 

แต่ในบทความนี้ คุณคิริน จะมาช่วยไขคำตอบว่า การจ้างงานจาก Interior มีความจำเป็นแค่ไหนสำหรับการแต่งห้อง แล้วในเรื่องงบประมาณล่ะ...มีความสำคัญที่ทำให้ห้องสวยมากขึ้นหรือน้อยลงหรือไม่ ตามไปหาคำตอบพร้อมๆ กันเลยดีกว่า


งบประมาณกับความสวยเป็นเรื่องของ 'ความสัมพันธ์'

จริงๆ แล้วเรื่องการแต่งห้องให้สวยหรือไม่สวยมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับเงินแค่อย่างเดียว แต่มันขึ้นอยู่กับสไตล์ที่ลูกค้าเลือกว่า เราชอบแต่งห้องแบบไหน


สมมติบอกว่า เราอยากได้คอนโดขนาด 25 ตารางเมตร ห้องแบบไทป์ไม่ใหญ่ แต่บอกว่าอยากได้แบบ Luxury เลยครับ มีหินอ่อนเยอะๆ มีสเตนเลสทองเยอะๆ แต่งบประมาณมีอยู่แค่สองแสนบาท มันก็อาจจะไม่สัมพันธ์กัน หินอ่อนแค่นิดเดียวก็ปาเข้าไปแสนกว่าบาทแล้ว บางทีมันก็ไม่ไปด้วยกัน



ในแง่ของความสัมพันธ์ของงบประมาณคือ ผมคิดว่ามันต้องดูควบคู่กับรูปแบบที่เรากำลังจะทำด้วยว่าทั้งสองนี้มัน Balance กันอยู่ ถ้างบน้อยแต่เราชอบ ใช้ของไม่ต้องแพงมันก็สวยได้


งบประมาณอาจทำให้อะไร 'ง่าย' ขึ้น แต่ไม่ได้ทำให้ 'สวย' ขึ้น

ในเรื่องของงบที่ใช้ในการตกแต่ง ถ้ามีเยอะคือมันก็ดีในแง่ที่ว่ามันช่วยทำให้อะไรมันง่ายขึ้น เวลาเรามีงบประมาณเยอะ ตัวเลือกเราก็เยอะอะไรก็ง่าย ก็ไปเลือกโซฟาสวยๆ เลือกเก้าอี้สวยๆ แต่มันไม่ได้แปลว่ามันจะทำให้ห้องสวย ถูกมั้ยครับ เพราะว่าห้องสวยขึ้นมันขึ้นอยู่กับไอเดียของเรา อยู่ที่สมองของเราแล้ว


อย่างที่ Kirin Design & living เราชอบได้งานที่ไม่ใช้งบเยอะ แต่เราก็ออกแบบมาให้สวยได้ โดยที่เราไม่ได้ไปโยนเงินซื้อของแบบสุรุ่ยสุร่าย เรารู้ว่าเราไม่จำเป็นต้องลงกับตรงไหน หรือจำเป็นต้องเพิ่มรายละเอียดการตกแต่งยังไง ห้องถึงจะมีคาแร็กเตอร์ที่ชัดเจน 


แต่งเอง VS จ้าง Interior

ในเรื่องของการลงทุนจ้าง Interior อย่างในเคสพวกลงทุนคอนโดปล่อยเช่า เราจะบอกว่าคุ้มหรือไม่คุ้ม มันก็จะต้องมี Budget ที่แลกกันอยู่ เพราะนอกจากค่าของ ค่าจ้างแล้ว จริงๆ มันอยู่ที่มูลค่าของคอนโดที่จะทำด้วย อย่างคอนโด 25 ตร.ม.เท่ากัน ที่แรกอยู่สุขุมวิท39 เป็น Prime area แถวๆ EmQuartier เลย ขายตารางเมตรละสองแสนกับอีกที่อาจจะเป็นคอนโดแถวชานเมืองขนาด 25 ตร.ม. เท่ากัน แต่สองที่นี้ค่าเช่าห้องมันไม่เท่ากัน

ถ้าอยู่แถวชานเมืองแบบนนทบุรี ค่าเช่าห้องต่อเดือนอาจจะได้แค่ 4500-5000 บาท หรือมากหน่อยก็ประมาณ 8000 บาท แต่ถามว่าห้อง 25 ตร.ม.อยู่ที่สุขุมวิท 39 นี่ยค่าเช่าห้องไม่มีทาถูก ตกจ่ายกันเดือนละสองหมื่นบาท

นี่แหละเป็นจุดที่ต้องมองแล้วว่า ถ้าจะปล่อยห้องในราคาสองหมื่น มันคุ้มที่จะจ้าง interior มาตกแต่งมากกว่ามั้ย เพื่อที่จะให้เขามาทำให้ห้องสวยแตกต่างจากคนอื่น มันก็เป็นการแข่งขันอีกแบบในแง่การลงทุนเหมือนกันนะ เพราะถ้าลูกค้าเข้าห้องมาแล้วรู้สึกว่า โอ้โห ทุกอย่างสวย ลงตัวหมด มีเครื่องไม้เครื่องมือให้ใช้ มีหมอนสวยงามหมด แน่นอนว่าปล่อยในราคาที่สูงได้ แต่มันก็ต้องแลกกันมากับการที่มาจ้างดีไซด์เนอร์ทำ ถึงจะในราคานี้ได้


ถ้าลงทุนคอนโดในโซนแพง ยังไงก็ควรจ้าง Interior

ยิ่งในโซนที่แพง การแข่งขันก็สูง ถามว่าคนที่จะมีเงินมาอยู่ในโซนนั้นได้ก็ต้องเป็นคนอีกระดับ แน่นอนว่าเขาต้องเลือก ถ้ามีตัวเลือกที่เป็นห้องธรรมดา แต่งด้วยอะไรก็ไม่รู้ ไม่เข้ากันเลย กับอีกห้องนึงนี้แบบเข้าเซ็ตกันหมด จานนี้แบบขอบทอง ช้อนส้อมเป็นทองมาให้เลย มีโคมไฟให้ทุกตำแหน่งที่เราจะต้องมีฟังก์ชัน ทุกอย่างมันครบพร้อมสมบูรณ์สำหรับเขาแล้วเขาจะเลือกห้องแรกมั้ย 

บางที่เรทค่าเช่าต่างกันแบบต่ำสุดอยู่ที่ 22,000 บาท สูงสุดอยู่ที่ 28,000 บาท ถามว่า คนมีระดับเขามีเงินจ่ายในเรทราคาสูงสุดมั้ย จริงๆ เขามีเงินจ่าย เพราะฉะนั้น เขาแค่รอคนที่จะมาทำให้เขาพอใจ แล้วการที่จะทำให้คนระดับนี้พอใจได้ มันก็คือการที่เราจะต้องทำให้มันครบ พร้อม สมบูรณ์ สวย ฟังก์ชันดี ถึงบอกว่าสำหรับถ้าเป็น Area ในเมืองแล้วห้องของคุณมีโอกาสปล่อยได้แพง การจ้าง Interior มาทำก็ถือว่าคุ้มนะ ถ้าแลกกับการต้องไปแข่งกับอีกตั้ง 200-300 ห้องที่เหลือที่อยู่ในตึกเดียวกันเราว่ามันเป็นเรื่องที่ต้องลงทุนจริงๆ 


บอกเทคนิค 'ของชิ้นใหญ่ซื้อถูก ของชิ้นเล็กซื้อแพง'

อันนี้เป็นเทคนิคส่วนตัว คือเราเป็นคนที่ชอบลงเงินกับของที่สร้างคาแร็กเตอร์ให้ห้องได้ โดยที่เราก็จะพยายาม Balance ให้ลูกค้าได้ในแบบที่ตัวเองชอบด้วย


วิธีการง่ายๆ ของผมเลยที่ใช้บ่อยๆ คือ ของชิ้นใหญ่ที่มีปริมาณเยอะๆ อย่างโซฟามันตัวใหญ่ เราเลือกได้หมดแหละตั้งแต่ตัวละสองหมื่นถึงสองแสน แต่ผมจะไม่ลงทุนกับโซฟาตัวละสองแสนผมจะขอเป็นแบบเรียบๆ นิ่งๆ ให้มันดูแล้วแบบโอเคที่จะเป็นตัวเด่น ปกติคนเราจะชอบคิดว่า ในเมื่อเป็นตัวเด่นเราก็ควรจะลงทุนกับมันเยอะๆ สิ แต่สำหรับ KIRIN เราจะลงเงินกับของชิ้นเล็กๆ ที่เป็นตัวประกอบ แต่ทำให้มีคาแร็กเตอร์ เช่น โต๊ะข้าง โคมไฟ ฯลฯ  ถูกสุดเราซื้อได้ตั้งแต่ 3000 บาท จนไปถึง 12,000 บาท มันก็คุ้ม

 แต่จะคุ้มกว่าซื้อโซฟายังไง...เรามาลองสมมติว่า ผมโอเคกับตัวละ 12,000 บาท เพราะคิดว่าเหมาะกับสไตล์นี้แล้ว ผมจะลงทุนไม่เอาตัวสามพันไปเอาตัวหมื่นสองเลย ส่วนต่างตรงนี้มันก็แค่ประมาณ 9000 บาท เสีย 9000 บาทตรงนี้แต่มันได้คาแร็กเตอร์ที่ชัดเจนมากกลับมา 

แล้วผมก็ไปเสียเพิ่มกับโคมไฟตัวละสองหมื่นเพิ่มก็ได้ หรือจะแบ่งเงินไปซื้อโต๊ะข้างสวยๆ ซื้อที่เป็นชิ้นเล็กๆ ทั้งหลายมาวางประกอบกันให้เกิดคาแร็กเตอร์ที่ชัดขึ้นไปอีก ดีกว่าเราไปเสียค่าส่วนต่างกับโซฟาตัวละ 2 แสน แต่ได้โซฟามาแค่ตัวเดียวในรูปแบบคาแร็กเตอร์ที่เหมือนกัน แถมยังใช้งานได้ไม่เท่ากัน เสียเงินมากกว่าเป็นเท่าตัวไปอีก


อ่านบทความนี้จบแล้วก็หวังว่า จะได้ทั้งคำตอบของคำถามเกี่ยวกับการจ้าง Interior ว่าคุ้มค่าแค่ไหน รวมถึงได้เคล็ดลับๆ ฉบับนักตกแต่งภายในกันไป แต่ถ้าใครรู้จักว่า ยังไม่จุใจ อยากจะเสพไอเดียและความรู้ด้านการตกแต่งภายในเพิ่มเติม ก็สามารถอ่านบทความเนื้อหาสาระดีๆ ต่อได้เลยที่...

เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร...?

Related Stories

Esto Talks

See All >

Living out loud

Living out loud : VANA RESIDENCE พระราม 9 - ศรีนครินทร์