ทำความรู้จักประเภทของหนี้ มีแบบไหนบ้าง และต้องจัดการอย่างไร

หนี้ เรื่องใกล้ตัวที่น่ากลัวกว่าที่คิด หลายๆคนที่เริ่มทำงาน เริ่มก่อร่างสร้างตัวก็มักจะต้องตัดสินใจก่อหนี้ก่อสินกันบ้าง เว้นแต่ว่าจะเกิดมาอยู่บนกองเงินกองทองอยู่แล้ว บางครั้งการที่เราต้องการตำลงทุนอะไรสักอย่าง หรือต้องมีภาระ ค่าใช้จ่าย หรือสิ่งของที่จำเป็นต้องใช้ต่างๆ สิ่งเหล่านี้ก็อาจจะมาพร้อมกันกับสิ่งที่เรียกว่า “หนี้” นั่นเอง

การไม่มีหนี้เป็นลาภอันประเสริฐ

ก่อนอื่นเราต้องมาทำความเข้าใจเรื่องเกี่ยวกับหนี้กันก่อน ว่าการมีหนี้นั้นไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ใครๆ ก็เคยเป็นหนี้กันทั้งนั้น เพียงแต่สาเหตุของการเป็นหนี้ที่แตกต่างกันไปก็เท่านั้นเอง หากเป็นหนี้ของคนหาเช้ากินค่ำ อาจจะเกิดจากการที่เงินไม่พอใช้ หรือมีภาระที่จะต้องใช้จ่ายมากเกินรายได้ที่หามา ส่วนถ้าเป็นคนรวย เจ้าของกิจการ ก็เป็นหนี้ได้เช่นกัน แต่อาจตะเกิดจากการกู้ธนาคารเพื่อนำไปลงทุนหรือต่อยอดธุรกิจ ดังนั้นเราจะมาทำความรู้จักกับเจ้า “หนี้” กันว่าแบ่งเป็นหนี้แบบไหนได้บ้าง

สำหรับในบทความนี้เราจะมาแบ่งประเภทของหนี้สินกันง่ายๆ เข้าใจไม่ยาก ไม่ต้องลำบากจำว่าเป็นหนี้สินแบบหมุนเวียน ไม่หมุนเวียน สำหรับบุคคลธะรรมดาหรือว่ากิจการ โดยแบ่งง่ายๆ ดังนี้

ประเภทของหนี้ดี

หนี้ที่ดี คือหนี้ที่ก่อมาจากความจำเป็น และเหตุผลของการสร้างหนี้ก้อนนั้น ซึ่งมีปัจจัยในด้านของคุณภาพชีวิต ความเป็นอยู่ที่ดี หรือความมั่นคงของชีวิตที่มากขึ้น เป็นหนี้ที่มีประโยชน์มากกว่ามีโทษ และเราก็ยินดีที่จะจ่ายมันมากกว่า เช่น การกู้สินเชื่อเพื่อซื้อบ้านหรือคอนโด เป็นการก่อหนี้เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับตนเองและครอบครัว หรือหนี้เพื่อการศึกษา เช่นการกู้ยืมเงินจากธนาคารเพื่อเป็นทุนในการศึกษาต่อ เรียนต่อ ก็เป็นการก่อหนี้ที่นำมาใช้ในการลงทุนกับตัวเอง เพราะเมื่อเราเรียนจบมาแล้ว แน่นอนว่าเราก็ย่อมอยากทำงานที่เจริญก้าวหน้าขึ้น และสร้างรายได้ให้ตนเองและครอบครัวมากขึ้นแน่นอน

ประเภทของหนี้จน

มาถึงหนี้อย่างที่สอง คือหนี้จน หรือหนี้ที่มีแล้วไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ใดๆ ยกเว้นแต่ประโยชน์ทางใจบ้างในช่วงแรกๆที่ได้มา นั่นก็คือหนี้ที่เกิดจากการจับจ่ายใช้สอยที่ฟุ่มเฟือย ไม่จำเป็น ที่บอกว่าฟุ่มเฟือยก็เพราะว่าหนี้พวกนี้ส่วนใหญ่เกิดการที่เราอยากได้ของที่เกินความจำเป็นและมากเกินที่จะใช้เงินที่มีอยู่จ่ายได้ เช่น พวกหนี้ที่เกิดจากการช้อปปิ้งทั้งหลาย ซื้อเสื้อผ้า กระเป๋า โดยเฉพาะกับคุณผู้หญิง รวมถึงการใช้เงินกับการกิน เที่ยว ไปต่างประเทศ หรือปาร์ตี้สังสรรค์ต่างๆที่ใช้แล้วหมดไป ต้องมานั่งตามจ่ายหนี้ที่เรียกเก็บทีหลัง นั่นแหละคือหนี้จน

แล้วถ้าหากเกิดหนี้แล้วล่ะ เราควรทำอย่างไรกับมันดี?

สิ่งที่เราควรทำควรเริ่มพิจารณาตนเองก่อน แล้วค่อยๆจัดการกับหนี้ที่มีอยู่อย่างเป็นลำดับขั้นตอน

1.ทำบัญชีการใช้จ่าย ว่าเราเป็นหนี้อะไรบ้าง

ข้อแรกคืออย่างเพิ่งกระวนกระวายกลุ้มใจกับภาระหนี้ที่มีอยู่มากจนเกินไป ค่อยๆ จดบันทึก หรือทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายดูว่าตอนนี้เรามีหนี้อะไรบ้าง เป็นหนี้ที่เป็นสินเชื่อบุคคล หนี้บัตรเครดิต หนี้ที่ต้องผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ค่ามือถือ หรือค่าใช้จ่ายต่างๆที่เราต้องจ่ายเป็นประจำ ก็ให้จดไว้ให้หมด

2.แยกประเภทหนี้

หลังจากที่เราจดบันทึกจำนวนหนี้ทั้งหมดของเราแล้ว ทีนี้ก็มาเริ่มแยกประเภทของหนี้ดังกล่าวกัน โดยเริ่มจากการแนกว่ายๆแบบที่บอกไปข้างบน ว่าหนี้ก้อนไหนเป็นหนี้ที่ดี หนี้ก้อนไหนเป็นหนี้จน โดยแนกออกมาเป็นก้อนต่อก้อนเลย

3.สำรวจรายละเอียดหนี้แต่ละก้อน

เมื่อเราแบ่งประเภทของหนี้ที่มีอยู่ได้แล้ว ก็บองมากูรายละเอียดของหนี้แต่ละก้อนว่ามีจำนวนหนี้คงค้างที่ต้องชำระเท่าไหร่ และหนี้ก้อนไหนมีอัตราดอกเบี้ยอย่างไรบ้าง โดยถ้าเป็นหนี้ก้อนใหญ่ก็อาจตะต้องเอาสัญญามาดูว่ามีรายละเอียดอย่างไร ดอกเบี้ยคงที่ หรือลดต้นลดดอก และปริมาณดอกเบี้ยที่เราต้องจ่ายในแต่ละเดือนคิดเป็นจำนวนเท่าไหร่ จะได้มาวางแผนในการชำระหนี้ต่อไป

4.เลือกหนี้ที่สำคัญและจำเป็นต้องชำระก่อน

เมื่อเราทราบถึงหนี้ที่จำเป็น และไม่จำเป็นโดยเรียงลำดับจากการทำตามข้อข้างบน จากนั้นเราก็มาดูว่าหนี้ก้อนไหนที่มีดอกเบี้ยแพง ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นหนี้ที่เกิดจากการใช้บัตรเครดิต หรือสินเชื่อบุคคล ก็ให้รีบจัดการเตรียมเงินเพื่อมาปิดหนี้ก่อนนี้ให้เร็วที่สุดก่อน ส่วนหนี้ที่เป็นหนี้ดี เช่น สินเชื่อกู้ซื้อบ้านหรือคอนโด ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ต้องสนใจเลย ถ้าหากเรามีเงินก้อนที่จะสามารถผ่อนชำระเพิ่มได้จากค่างวดปกติ หรือเอาไปโปเป็นครั้งๆได้ก็ควรจะทำเช่นกัน

จบแล้วกับการทำความรู้จัก “หนี้” และการแบ่งประเภทของหนี้เพื่อหาวิธีการจัดการกับมัน หวังว่าคงพอจะได้วิธีการใจการจัดระเบียบและค่อยๆจัดการกับหนี้ของตัวเองกันได้ไม่มากก็น้อย สำหรับในบทความหน้าจะทำวิธีการบริหารภาระหนี้สินของตัวเองในอีกรูปแบบหนึ่ง นอกจากการจดบันทึกและค่อยๆจัดการปิดยอด หวังว่าท่านผู้อ่านคงจะรอติดตามกันต่อไป แล้วเราจะค่อยๆปลดหนี้ สร้างสถานะทางการเงินที่ดีไปพร้อมๆกัน