ก่อนโดนระงับ! 5 เรื่องต้องรู้ เปลี่ยนบัตร ATM เป็นชิปการ์ด
9 January 2563
ใครถือบัตรเดรบิต บัตร ATM อยู่ควรรู้ เพราะหลังจากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.), สมาคมธนาคารไทย และสถาบันการเงินได้ทำการผลักดันให้เปลี่ยนบัตรแถบแม่เหล็กแบบเดิม ๆ ไปเป็นชิปการ์ด เพื่อช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการทำธุรกรรมต่าง ๆ ผ่านบัตร ATM และเดบิต เนื่องจากเทคโนโลยีชิปการ์ดเป็นเทคโนโลยีที่สามารถช่วยป้องกันการถูกโจรกรรมข้อมูลไปทำบัตรปลอม (skimming) ได้นั่นเอง
- อย่าลืมไปเปลี่ยนบัตรภายในวันที่ 15 มกราคม 2563 ก่อนบัตรที่ถืออยู่จะใช้งานไม่ได้ !!
- สามารถเปลี่ยนได้ที่ธนาคารที่เราใช้บริการ ทุกสาขา
จะรู้ได้อย่างไร? ว่าบัตรเดรบิต / ATM ที่ถืออยู่นั้น เป็นบัตรแบบไหน
เราสามารถสังเกตได้ง่าย ๆ จากด้านหน้าบัตร เพราะถ้าหากมีชิปสี่เหลี่ยมขนาดเล็กนี้ติดอยู่ แสดงว่าบัตรของเราเป็นแบบชิปการ์ดแล้ว ไม่จำเป็นต้องไปเปลี่ยนใหม่ แต่ถ้าใครยังเป็นบัตรแบบแถบแม่เหล็กอยู่ล่ะก็ ควรไปดำเนินการเปลี่ยนบัตร เพื่อความปลอดภัย
เปลี่ยนบัตรเดรบิต / ATM ได้ที่ไหน แล้วต้องเตรียมอะไรบ้าง?
สำหรับผู้ที่ถือบัตรเดรบิต / ATM แบบแถบแม่เหล็กได้ที่ธนาคารที่ใช้บริการทุกสาขา โดยไม่จำเป็นต้องเป็นสาขาที่ออกบัตร เพียงแค่เรานำบัตรประชาชน, บัตรใบเดิม และสมุดบัญชีธนาคารไปยื่นเท่านั้น
เปลี่ยนบัตรเดรบิต / ATM ต้องเสียค่าธรรมเนียมหรือไม่
ทั้งนี้ ธนาคารจะยกเว้นค่าธรรมเนียมการออกบัตรทดแทนสำหรับการเปลี่ยนบัตร ATM / บัตรเดบิตจากบัตรแถบแม่เหล็กเป็นบัตรแบบชิปการ์ดให้ ในกรณีที่เปลี่ยนเป็นบัตรประเภทเดิม แต่หากใครต้องการเปลี่ยนประเภทบัตรด้วย เช่น จากบัตรเดรบิตธรรมดา เป็นบัตรเดรบิตที่มีประกันคุ้มครองร่วมด้วย อาจจะต้องเสียค่าธรรมเนียมการออกบัตรใหม่ ซึ่งจะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละธนาคาร
- อย่างไรก็ตาม เราสามารถสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมการเปลี่ยนบัตรนี้ได้โดยตรง กับทางธนาคารที่ท่านใช้บริการอยู่
เปรียบเทียบอัตราค่าธรรมเนียม บัตรATM/บัตรเดบิต
ต้องเปลี่ยนบัตร ATM/บัตรเดบิต เป็นชิปการ์ดภายในวันไหน?
ภายใน "วันที่ 15 มกราคม 2563" ก่อนที่บัตรแถบแม่เหล็กจะไม่สามารถใช้งานได้ ทั้งที่ตู้ ATM และตามเครื่องรูดบัตรในร้านค้าต่าง ๆ ซึ่งใครที่ต้องการถอนเงินสด หรือโอนเงินผ่านตู้ ATM จะยังสามารถใช้บริการกดเงินสดผ่าน mobile application แทนการใช้บัตรได้อยู่
อ้างอิง : ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)