รูปบทความ แนะนำ 7 ทริค ปรับตัวอย่างไรกับการเดินทางในกรุงเทพฯ ที่แสนติดขัด

แนะนำ 7 ทริค ปรับตัวอย่างไรกับการเดินทางในกรุงเทพฯ ที่แสนติดขัด


“เฮ้อ..~ เบื่อจัง รถติดอีกแล้ว...”


ปัญหาการจราจรในกรุงเทพฯ ทุกวันนี้ กลายเป็นประเด็น “Talk of the Town” ของทุกคนไปในปริยาย วันปกติก็รถติดทุกวันอยู่แล้ว ยิ่งช่วงหน้าฝนแบบนี้ไม่ต้องพูดถึงเลย


ปัญหาการจราจรติดขัดแบบนี้ เป็นเรื่องที่หนีไม่พ้นแน่นอน แต่เราสามารถที่จะหลีกเลี่ยง และปรับตัวเข้ากับสถานการณ์แบบนี้ได้ ซึ่งวันนี้ทางเราก็ได้นำ “7 ทริค ปรับตัวอย่างไรกับการเดินทางในกรุงเทพฯ ที่แสนติดขัด” มาแนะนำให้ได้นำไปลองปรับใช้กันแล้วแต่สถานการณ์ และความต้องการ จะมีทริคอะไรที่น่าสนใจบ้างนั้น ตามไปดูกันได้เลย


วางแผนการเดินทางและจราจรด้วย Application



วิธีนี้เหมาะสำหรับคนที่ต้องขับรถส่วนตัวไปทำงาน ทั้งในตัวเมือง ชานเมือง และเขตปริมณฑลที่ระบบขนส่งสาธารณะเข้าไปไม่ถึง


ซึ่งปัจจุบันเป็นยุคไทยแลนด์ 4.0 ไม่มีอะไรสะดวกสบายไปกว่าเจ้าสมาร์ทโฟนสารพัดประโยชน์นี่แล้ว! เราสามารถเอาตัวรอดได้ด้วยเทคโนโลยีบนมือถือสมาร์ทโฟนง่ายๆ โดยไม่ต้องเสี่ยงขับรถแบบพึ่งดวงพึ่งลาง เรียกได้ว่า ‘เป็นนักพยากรณ์การจราจร’ เลย



เจ้าแอพฯ เอาตัวรอดในการเดินทางในกรุงเทพฯ มีเยอะแยะมาก ไม่ว่าจะเป็นแอพพลิเคชั่นยอดฮิตอย่าง “Google Map” ที่เราสามารถศึกษาเส้นทางดูว่าถนนเส้นใดมีจราจรติดขัดน้อยที่สุด ใช้เวลานานแค่ไหน หรือมีทางลัดทางใดบ้าง เพื่อที่เราจะได้วางแผนเส้นทางให้ถึงที่หมายได้เร็วที่สุดได้ และที่ทางเราอยากจะขอแนะนำอีกแอพฯ คือ “จส.100” แอพฯ ที่สามารถเช็คได้ว่าเส้นทางที่เราจะผ่านนั้น มีอุบัติเหตุที่ทำให้จราจรติดขัดกว่าเดิมหรือไม่ เพื่อจะได้หลีกเลี่ยงใช้เส้นทางอื่นได้ทันท่วงที


ทริคสำคัญ

ใครที่ยังไม่ชินเส้นทาง แนะให้ลองศึกษาดูคร่าวๆ ก่อนขับรถ จะได้ไม่เลี้ยวเข้าผิดซอย เดี๋ยวจะกลายเป็นกลับรถไกลกว่าเดิม


ใช้รถไฟฟ้า BTS และรถไฟใต้ดิน MRT แทนการใช้รถส่วนตัว



วิธีนี้เหมาะสำหรับคนที่ทำงานในตัวเมือง เพราะการจราจรในแถบนั้นติดขัดมากๆ

แม้จะมีค่าโดยสารที่แพงกว่าระบบขนส่งสาธารณะอื่นๆ แต่ก็ถือว่าคุ้มค่ากับระยะเวลาที่ใช้ในการเดินทาง และไม่ต้องทนกับปัญหาการติดจราจรติดขัดบนท้องถนน คงไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่จะเอารถส่วนตัวมาสักเท่าไหร่ ไหนจะเสียค่าจอดรถในตัวอาคารเพิ่มอีก การเดินทางโดยรถไฟฟ้าและรถไฟใต้ดินจึงเป็นทางเลือกที่นักธุรกิจ และเหล่ามนุษย์เงินเดือนเลือกใช้กัน


ทริคสำคัญ

สำหรับคนที่ขึ้นรถ BTS และ MRT เป็นประจำ แนะนำให้สมัครบัตรเติมเงินและเติมจำนวนเงินในบัตรให้พร้อม เพื่อที่จะได้ไม่ต้องต่อคิวเข้าแถวนานในช่วงเช้าและช่วงเย็น ส่วนใครที่นั่งรถไฟฟ้า BTS ไประยะไกลๆ อาจจะเลือกเติมแบบเที่ยว ซึ่งจะได้ค่าโดยสารที่ประหยัดกว่าแบบเติมเงิน ถือเป็นทริคที่ช่วยประหยัดเวลาในการเดินทางได้มากทีเดียว


เลือกขึ้นรถเมล์จากต้นสาย



วิธีนี้เหมาะสำหรับคนที่ไม่เน้นเร็ว แต่เน้นประหยัดตามฉบับมนุษย์เงินเดือน


สำหรับรถเมล์ถือเป็นระบบขนส่งสาธารณะที่คนนิยมใช้พอๆ กันกับรถไฟฟ้า BTS และ รถไฟใต้ดิน MRT เนื่องจากรถจุได้หลายคน และมีขนาดใหญ่ แม้จะใช้ระยะเวลาในการเดินทางช้ากว่าเมื่อเทียบกับรถตู้ก็ตาม แต่ก็สามารถนั่งได้ไม่เปลี่ยว และไม่อึดอัด สำหรับเทคนิคการขึ้นรถที่ต้นสายจะทำให้มีที่นั่งเหลือให้เราได้เลือกมากกว่า เช่น รถเมล์ตามอนุสาวรีย์ หรือตามหมอชิตบางสาย


ทริคสำคัญ

บางครั้งอาจจะมีผู้โดยสารขึ้นรถเป็นจำนวนมาก สำหรับคนที่ไม่รีบมาก แนะให้รอรถคันหลังๆ เพราะคนจะน้อยกว่า หรือถ้าหากมีรถเมล์ที่สิ้นสุดระยะทางสั้นกว่าปกติ หรือวิ่งเข้าอู่เลย แต่สามารถไปถึงจุดหมายที่เราต้องการได้ แนะนำให้ขึ้นคันนั้น เพราะคนจะน้อยกว่ารถที่วิ่งสิ้นสุดระยะตามปกติ


หารค่ารถแท็กซี่กับเพื่อนร่วมงาน



วิธีนี้เหมาะสำหรับคนที่มีเพื่อนร่วมงานกลับบ้านทางเดียวกัน เน้นเร็ว และประหยัด


เป็นการประหยัดทั้งพลังงานและเงินในกระเป๋าจากการแชร์ค่าโดยสาร แทนการจ่ายค่ารถแท็กซี่คนเดียว เช่น บางคนอาจจะทำงานอยู่ในซอยที่ค่อนข้างลึก หากฝนตกอาจจะไม่สะดวกนั่งมอเตอร์ไซด์รับจ้างออกมาปากซอย อาจจะใช้วิธีการแชร์ค่ารถแท็กซี่ออกมาหน้าปากซอยกับเพื่อนร่วมงาน หรือบางคนอาจจะหารค่ารถแท็กซี่กลับบ้านกับเพื่อนร่วมงานที่นั่งไปในเส้นทางเดียวกัน เพื่อล่นระยะเวลาในการเดินทางแทนการนั่งรถเมล์ 


ทริคสำคัญ

หากไม่อยากนั่งไปไกลเสียค่าโดยสารเยอะ อาจจะนั่งรถแท็กซี่มาลงตามจุดป้ายรถเมล์ที่เลยสี่แยกไฟแดง หรือแยกที่มีจราจรติดขัดมาแล้ว เพื่อล่นระยะเวลาในการเดินทาง และสามารถขึ้นรถเมล์ต่อได้โดยไม่รอรถติดนาน


กลับพร้อมคนอื่นด้วยรถคันเดียว



วิธีนี้อาจจะต้องใช้ความสนิทสักหน่อย อาจเป็นเพื่อนร่วมงาน แฟน หรือครอบครัว

ถ้าเป็นเพื่อนร่วมงานอาจจะต้องคุยกันให้ดีก่อน ไปรบกวนเขาฝ่ายเดียวก็คงจะดูไม่งาม อาจจะลองเสนอช่วยหารค่าน้ำมันให้ และติดรถเพื่อนร่วมงานไปลงตามจุดที่วิ่งผ่าน หรือถ้าใครมีแฟนหรือครอบครัวกลับบ้านผ่านทางเดียวกัน อาจจะเรียกให้มารับไปพร้อมกันเลยก็ได้ ถือเป็นการประหยัดค่าเดินทาง ประหยัดเวลา ไม่ต้องกลัวปัญหาจากการกลับรถแท็กซี่คนเดียว


ทริคสำคัญ

หากแฟนหรือคนในครอบครัวไม่ได้ผ่านทางเดียวกับที่เราทำงาน อาจจะลองหาทางที่สะดวกทั้งสองฝ่าย นัดกันคนละครึ่งทางไปเจอกันก็ได้ แต่ต้องเป็นสถานที่ที่สามารถจอดรถสะดวก ไม่จอดในที่ห้ามจอด และไม่ทำให้การจราจรติดขัด


จ้างมอเตอร์ไซด์รับจ้าง หรือ ใช้บริการ Grab Bike



วิธีนี้เหมาะสำหรับคนที่มีธุระเร่งด่วน หรือต้องการใช้ระยะเวลาอย่างไวที่สุดเพื่อให้ถึงจุดหมายปลายทาง

การเลือกใช้มอเตอร์ไซด์รับจ้าง หรือ Grab Bike ถือเป็นทางเลือกที่รวดเร็วที่สุด แต่อาจจะไม่สะดวกในช่วงหน้าฝนนัก ฉะนั้นจึงควรเตรียมชุดกันฝนให้พร้อม สวมหมวกกันน็อคทุกครั้งเพื่อความปลอดภัย และควรสอบถามค่าโดยสารก่อนขึ้นรถทุกครั้ง เพื่อความเข้าใจที่ตรงกัน


ทริคสำคัญ

เพราะเป็นการขับรถบนถนนใหญ่ หากทางคนขับไม่มีหมวกกันน็อคให้ แนะนำให้หลีกเลี่ยงและปฏิเสธการโดยสารไป เนื่องจากหากโดนตำรวจเรียกขึ้นมา อาจจะเป็นปัญหาเอาได้ ปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่า


ค่อยกลับเลยเวลาเลิกงานไปแล้วสัก 1-2 ชม.



วิธีจึงนี้เหมาะสำหรับคนที่ไม่เร่งรีบมาก ค่อยกลับหลังจากผ่านชั่วโมงเร่งด่วนไปแล้วก็ได้ หรือคนที่ต้องอยู่ทำ OT


อย่างที่พวกเราทราบกันดีว่า ช่วงเวลาเลิกงานช่วง 5 โมงเย็นถึง 1 ทุ่ม การจราจรบนท้องถนนจะค่อนข้างติดขัด เพราะเหล่ามนุษย์เงินเดือนต่างเลิกงานและรีบพากันกลับบ้านให้ไวที่สุด ฉะนั้นหากไม่รีบอะไรมาก เราอาจจะหลีกเลี่ยงปัญหาการจราจรเหล่านั้นโดยการเดินเล่นในห้าง หรือฟิตหุ่นในฟิตเนสรอเวลา หรือใครทำงาน OT กลับบ้านช้า ก็ให้มองโลกในแง่ดีไปว่า “ฉันไม่ต้องไปไปยืนโหนรถเมล์ทนรถติด” เพราะการกลับหลังจากเลย 1 ทุ่มเป็นต้นไป การจราจรจะค่อยๆ เริ่มเคลื่อนตัวดีขึ้นแล้ว คนจะเริ่มเบาบางลง ไม่ต้องทนยืนเบียดเสียดกับคนอื่น


ทริคสำคัญ

ก่อนกลับอาจจะต้องดูสภาพอากาศด้วย หากฝนเพิ่งหยุดตกไม่นาน บางทีเลย 1 ทุ่มไปแล้วการจราจรอาจจะยังติดขัดอยู่ หรือกลับช้ามากๆ อาจจะกลับไม่ทันฝนเอาได้ ฉะนั้นหมั่นเช็คสภาพอากาศก่อนเลือกใช้วิธีนี้กัน


สุดท้ายนี้ จะเลือกใช้ทริคอันไหนก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และความเหมาะสม บางทีฝนใกล้ตกจะมัวมารอรถเมล์นานๆ กลับแบบประหยัดก็ไม่ได้ หรือจะให้นั่งมอเตอร์ไซด์รับจ้างผ่านสายฝนหนักๆ ก็คงไม่ไหว อันตรายกว่ารถโดยสารทั่วไปเสียอีก ยิ่งหน้าฝนแบบนี้ยิ่งต้องศึกษาเรื่องสภาพอากาศกันด้วยล่ะ สภาพจิตใจก็เป็นสิ่งสำคัญ ลองคิดซะว่าการนั่งรถบนการจราจรติดขัดเป็นเรื่องปกติ ปล่อยใจให้ชิน และหาอะไรขึ้นมาทำผ่อนคลายจิตใจ อาจจะฟังเพลง ดูหนัง ระหว่างรอรถติดหรือจะย้ายตัวเองไปใกล้ที่ทำงานมากขึ้น ลองเข้าไปดูที่นี่เลย ค้นหาคอนโดให้เช่า


บทความที่เกี่ยวข้อง

เดินหน้า ท้ารถติด พิชิตไฟแดง! ด้วย 3 แอปพลิเคชัน ที่จะทำให้การเดินทางในกรุงเทพเป็นเรื่องง่าย

อยู่คอนโดติดรถไฟฟ้า เดินทางสะดวกเหมือนกับคำโฆษณาบอกจริงหรือ?

สำรวจรถไฟฟ้าตามหาย่านคนน้อย เดินทางสบาย ตื่นสายก็ยังชิล

100 กว่าปีรถเมล์ ย้อนดูอดีตที่ส่งผลสู่ปัจจุบันของประวัติค่าเดินทางชาวกรุง

พาส่องค่าใช้จ่ายการเดินทางในไทยและเทศ การรวมบัตรจะเป็นไปได้ไหม?


เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร...?

Related Stories

Esto Talks

See All >

Living out loud

Living out loud : VANA RESIDENCE พระราม 9 - ศรีนครินทร์