รูปบทความ ไขข้อข้องใจกู้ไม่ผ่าน รับเงินดาวน์คืนได้ไหม

ESTOPOLIS | ไขข้อข้องใจกู้ไม่ผ่าน รับเงินดาวน์คืนได้ไหม

การซื้อขายคอนโด ทั้งหลายทั้งมวลนั้นโดยปกติแล้วจะทำการขายก่อนสร้างเสมอ ซึ่งผู้ซื้อจะต้องทำการจองหรือจ่ายเงินมัดจำไว้ และหลังจากนั้นโครงการจะร่างสัญญาการซื้อขาย และผ่อนดาวน์เป็นงวดๆ จนครบสัญญา แต่มีกรณีของบางคนที่เมื่อผ่อนเงินดาวน์ครบสัญญาแล้ว ธนาคารไม่ให้กู้ หรือเรียกว่ากู้ไม่ผ่าน ซึ่งมีคนตั้งข้อสงสัยมาถามกันเยอะว่า ในส่วนนี้โครงการสามารถยึดเงินที่ชำระไปแล้วได้หรือไม่ ?


     " ในส่วนของเงินจองนั้นทางโครงการมีสิทธิยึดเงินจองได้ตามสัญญา
      แต่เงินดาวน์ผู้ซื้อสามารถร้องขอคืนได้ในกรณีที่กู้ไม่ผ่านซึ่งมีโอกาสได้คืน "


จากประเด็นในกระทู้พันทิป ของคุณ OhnO395


สวัสดีครับ ผมมีเรื่องมาปรึกษาหน่อยครับ

พอดีได้จอง คอนโดไว้ตั้งแต่ปี 30 มิ.ย. 57 ครับได้ทำสัญญาเป็นจำนวนเงิน 35000 บาทและผ่อนดาวน์ 6400 บาทเป็นเวลา 24 เดือน จนครบไปเมื่อเดือน พ.ค. ปี 2559 หลังจากนั้น ก็โทรถามว่าให้ไปทำเรื่องหรือยังทางบริษัทแจ้งว่าโครงการยังไม่เสร็จขอยืดเป็นเดือน ต.ค.ปี 2559 ก็ยังไม่เสร็จจนเลื่อนมาช่วง ม.ค-ก.พ. 2560 บริษัทติดต่อมาให้ไปทำเรื่องกู้กับสถาบันการเงิน ผมก็เข้าไปเพื่อทำการยื่นเรื่อง

หลังจากนั้น 27-28/02/2560 ก็ได้รับคำตอบจากธนาคารว่าไม่ได้รับการอนุมัติ เนื่องจากผมมีเงินเหลือใช้จ่ายไม่ถึง 40% ประมาณนี้ ในสัญญามีระบุว่าถ้ากู้ไม่ผ่านจะคืนเงินให้ภายใน 30 วัน ถ้าเอกสารที่ยื่นเรื่องการเงินเป็นเรื่องจริง (ผมใส่ค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่ผมจ่ายให้ทางบริษัทดูแล้ว) ผมก็เข้าไปติดต่อทางบริษัทเพื่อทำเรื่องขอเงินคืนในวันที่ 04/03/2560 จากนั้น อีก 1 อาทิตย์บริษัทก็ได้ให้เข้าไปเซ็นเอกสารขอเงินคืนฉบับสมบูรณ์อีกครั้ง แล้วแจ้งว่าจะส่งไปให้ทางสำนักงานใหญ่

หลังจากรอแล้วรอเล่าก็ไม่มีการติดต่อมา ผมได้โทรไปสอบถามสำนักงานใหญ่โดยตรงได้คุยกันบอกว่าเอกสารทำเรื่องขอคืนได้รับแล้วและกำลังรอเซ็นอนุมัติจากผู้ใหญ่ (มีหลักฐาน) จากนั้นผมก็รอ โทรไปถามก็แล้ว เงียบ จนวันนี้ได้รับจดหมายจากฝ่ายนิติกรรมว่าผมผิดสัญญาไม่ได้ไปทำเรื่องโอนในวันที่ 30/06/2560 ที่ผ่าน และให้ผมมาทำเรื่องวันสุดท้ายวันที่ 07/07/2560 ไม่งั้นจะยึดเงินทั้งหมด ผมงงมากบริษัทไม่ประสานงานกันเลยทำอย่างนี้โกงกันเห็นๆ เบอร์ที่ให้มาแต่ละเบอร์ติดต่อไมไ่ด้เลย สำนักงานขายบางใหญ่เองเบอร์ก็ติดต่อไม่ได้เหมือนจะต้องเข้าไปหาตลอดเวลา

ขอสอบถามหน่อยครับ ผมควรแจ้งความก่อนเพื่อแก้ปัญหาในวันที่ 7 นี้อย่างไร ควรแจ้งว่าโกง หรือว่า เราไม่ได้ผิดสัญญาอย่างไรดีครับ หลังจากนี้ผมอยากจะแก้ปัญหากับบริษัทที่ไม่ซื่อสัตย์นี้อย่างไรดีครับ ฟ้อง สคบ เหรอครับ กรุณาแนะนำหน่อยครับ จริงๆ ผมเตรียมเรื่องส่งให้ สคบ. ออนไลน์แล้วแต่ไม่ได้ส่งเจอจดหมายฉบับนี้ก่อน


จากประเด็นข้างต้น

    แน่นอนว่าทางโครงการมีสิทธิในการริบเงินมัดจำ แต่ส่วนของเงินดาวน์นั้นถูกรวมอยู่ใน "สัญญาซื้อขาย" และถ้าพูดกันตามตรงเมื่อทำการกู้ไม่ผ่านเท่ากับไม่มีการส่งมอบสัญญาซื้อขาย สัญญาซื้อขายจึงเป็นโมฆะ ซึ่งผู้ซื้อมีสิทธิที่จะได้เงินดาวน์ในส่วนนั้นคืน แต่อาจจะไม่ได้ทั้งหมด อาจต้องจ่ายค่าเสียเวลาหรือค่าดำเนินการให้กับทางโครงการ และหากในกรณีที่สัญญาระบุไว้ว่า "ห้ามยกกรณีกู้ไม่ผ่านมาเป็นข้อฟ้องร้อง(ซึ่งโดยส่วนมากสัญญาจะระบุไว้)" ในส่วนนี้โอกาสที่จะได้เงินดาวน์คืนนั้นอาจมีน้อย แต่ก็สามารถให้ศาลเรียกมาไกล่เกลี่ยได้เช่นกัน

    เพราะฉนั้นก่อนทำการซื้อขายกับทางโครงการควรตรวจสอบให้ละเอียดถึงแม้ว่าทางโครงการนั้นจะมีการโปรโมทหรือจัดโปรโมชั่นว่า "กู้ไม่ผ่านสามารถรับเงินดาวน์คืน" ซึ่งในบางครั้งคำเหล่านี้เป็นการชวนเชื่อที่ทางโครงการคิดขึ้นเพื่อกระตุ้นความต้องการซื้อของลูกค้า ต้องดูสัญญาให้ละเอียดก่อนทำการซื้อขาย ไม่ใช่เพียงแค่ฟังคำที่ทางโครงการรับปากมาว่าจะคืนให้เท่านั้น แต่ควรให้ทางโครงการระบุสัญญาตามที่ได้ตกลงกับเราเอาไว้เผื่อมีข้อผิดพลาด หลักฐานทั้งหมดจะเป็นตัวช่วยอย่างดีในชั้นศาล

    และในกรณีที่ไม่ได้ระบุไว้ในสัญญาว่าสามารถเรียกเงินดาวน์คืนได้จากโครงการเมื่อกู้ไม่ผ่าน นั้นแม้จะสามารถทำเรื่องกับศาลเพื่อให้ศาลเรียกมาไกล่เกลี่ยได้นั้น ทางโครงการก็มีสิทธิที่จะไม่มาไกล่เกลี่ยเหมือนกัน และโอกาสที่จะได้เงินคืนจะน้อยลง

ข้อควรระวังจากเงื่อนไขในการจองซื้อ

    สัญญาจะระบุไว้(จากภาพ) ว่าหาก "ผู้จองซื้อ" มีภาระหนี้สินหรือก่อภาระหนี้สินเพิ่มเติมนอกเหนือจากที่ได้ให้คำร้องหรือระบุในสัญญาแล้วนั้นทางโครงการมีสิทธิที่จะยึดเงิน จอง และเงินดาวน์ที่ได้ชำระไปแล้วทั้งหมดไว้โดยที่ ผู้จองซื้อ จะไม่สามารถเรียกร้องใดๆ จากทางโครงการได้

    แต่หากผู้จองซื้อมั่นใจว่า ตนไม่ได้สร้างภาระหนี้สินเพิ่มเติมจากที่ระบุไว้ในสัญญาการซื้อ แต่ทางโครงการทำเป็นไม่รู้เห็นกับส่วนนี้ และใช้เป็นข้อพิพาท ผู้จองซื้อมีสิทธิที่จะเรียกร้องเพื่อขอความเป็นธรรม จึงเป็นหน้าที่ของคนกลางอย่าง "สำนักอัยการพิเศษฝ่ายคุ้มครองผู้บริโภค" และ "สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค" ที่มีหน้าที่ติดต่อ ให้คำปรึกษา รับคำร้อง จากผู้บริโภคที่ประสบปัญหาได้รับความไม่เป็นธรรมจากผู้ประกอบการ ซึ่งทั้งสองหน่วยงานนี้สามารถเรียกมาไกล่เกลี่ยเพื่อหาข้อยุติที่มีความเท่าเทียม แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับหลักฐาน และองค์ประกอบทั้งหมดที่มี


สรุป

หนทางที่ดีที่สุด คือ การเก็บรวบรวมหลักฐานไว้ด้วยความไม่ประมาท คิดก่อนทำการใดๆ ใช้สติทบทวนก่อนเสมอ เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาด วันนี้ Estopolis ก็ขอให้ทาง เจ้าของกระทู้ (OhnO395) และผู้ประสบปัญหาที่มีกรณีคล้ายกันกับเจ้าของกระทู้ ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ให้ได้รับความเป็นธรรม และหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านทุกท่านไม่มากก็น้อย


ติดต่อ สำนักอัยการพิเศษฝ่ายคุ้มครองผู้บริโภค http://www.ocp.ago.go.th

ติดต่อ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค(สคบ) http://www.ocpb.go.th


ขอบคุณข้อมูลจาก :

คุณ OhnO395 สมาชิกเว็บไซต์ PANTIP.COM

สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคุ้มครองผู้บริโภค

สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค(สคบ)


บทความที่เกี่ยวข้อง

กู้คอนโดไม่ผ่านสามารถฟ้องเอาเงินดาวน์คืนได้แม้สัญญาจะเขียนไว้

เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร...?

Related Stories

Esto Talks

See All >

Living out loud

Living out loud : VANA RESIDENCE พระราม 9 - ศรีนครินทร์