เปิดวาร์ป 3 ร้านอาหารไทย ที่ลูกควรพาพ่อไปนั่งชิลล์รับ #วันพ่อ
3 December 2561
"ใครหนอรักเราเท่าชีวี คุณพ่อ คุณแม่" เพลงน่ารักๆ ที่เราฟังกันมาตั้งแต่เด็ก จนถึงทุกวันนี้ก็ยังติดหู แถมฟังกี่ครั้งก็รู้สึกดี ชวนให้คิดถึงคนที่รออยู่ที่บ้าน...หลังจากผ่านวันแม่มาไม่กี่เดือนก็ใกล้ถึงช่วงเวลาของวันพ่อกันบ้าง Estopolis เลยอยากแนะนำร้านอาหารไทย บรรยากาศชิลล์ๆ ให้คุณลูกจูงมือคุณพ่อไปสร้างความทรงจำพิเศษๆ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปด้วยกันเลย
1. ERR Urban Rustic Thai ร้านอาหารไทยต้นฉบับ ฝั่งพระนคร
เออ...เราขอรื้อฟื้นความทรงจำแรกด้วย ร้านเออ ERR Urban Rustic Thai ร้านอาหารไทยแท้ในบรรยากาศ 70s - 80s ที่หอมหวลไปด้วยกลิ่นอายความเป็นไทยย้อนยุค ตั้งแต่การตกแต่งร้าน, ตกแต่งจาน ไปจนถึงเมนูอาหารที่คุณพ่อได้ชิมแล้วจะต้องมีความสุข
โดยจุดเด่นของร้านนี้จะอยู่ที่ความอบอุ่นแบบบ้านๆ เหมือนมีคุณย่ามายืนทำกับข้าวให้ลูกหลานที่บ้านทาน แม้แต่ตัวร้านยังให้ความรู้สึกเป็นบ้านสมัยก่อน หากเดินเข้าไปจะเจอตู้โชว์, ชั้นเก็บของ, โต๊ะเก้าอี้ที่จัดวางไว้อย่างดี แล้วค่อยใส่ความ Modern Retro ลงไปผสมเล็กน้อย เท่านี้ก็ลงตัว!!
สำหรับเมนูอาหารก็ต้องบอกเลยว่า คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เพราะมีตั้งแต่เมนูคลาสสิกขวัญใจคนไทยอย่าง กระเพราเนื้อไข่ดาวราดข้าว (380 บาท) เสิร์ฟร้อนๆ บนจานไม้เก๋ๆ หรือจะเป็นแกงเขียวหวานไก่บ้านและเครื่องใน (320 บาท) ใส่หม้อเคลือบโบราณดูน่าทาน
หรือถ้ามาหลายคนจะสั่งเป็นกับข้าวทานด้วยกันก็มีหลากหลายเมนูให้ชิม ทั้งต้ม ผัด แกง ยำ ทอด สั่งได้ตามใจเช่น ต้มยำขาหมูผักกาดดอง (195 บาท) ซดแล้วชื่นใจ, แกงแดงไก่ใส่ฟักเขียว (350 บาท) พร้อมชูรสชาติด้วยยำไข่ดาวอินทรีย์ (145 บาท) เปรี้ยวปนหวาน ทานได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ แล้วอย่าพลาดกับเมนู Recommand หนังไก่ทอดน้ำปลา (150 บาท) ที่ถอดออกมากันทั้งตัว จิ้มด้วยซอสศรีราชาทำเองจากทางร้าน รับรองว่าเคี้ยวเพลิน กรุบๆ กรอบๆ
ทานเสร็จก็อย่าเพิ่งรีบลุกไปไหน พักจิบเครื่องดื่มเย็นๆ ให้ร่างกายสดชื่นกันเสียหน่อย เพราะร้าน ERR (เออ) ก็มีเมนูน้ำสุดครีเอทให้ทาน เริ่มด้วย Kmere Rouge คอกเทลสีสวยที่เกิดจากการมิกซ์กันของน้ำมะเขือเทศ, รัม, น้ำมะนาว และซอสพริกโฮมเมด!! หรือถ้าใครอยากลองอะไรสนุกๆ ก็ขอแนะนำเป็น GMtini ( 220บาท) ที่มีป็อปคอร์นมาให้ทานเล่น
และอีกตัวหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะถ้าเราอยากรู้ว่าอะไรอยู่ในไหต้องลองสั่ง U (450 บาท) เมนูที่เหล่าคุณพ่อน่าจะรู้จักกันดี
ส่วนการเดินทางไปร้าน เออ ERR Urban Rustic Thai ก็ไปง่าย อยู่บนถนนมหาราช ใกล้ๆ กับมิวเซียมสยาม
- วันเวลาเปิด-ปิด : วันอังคาร - อาทิตย์ เวลา 11.00-16.00 น. และ 17.00 - 21.00 น.
- เบอร์ติดต่อ : 02 622 2292
- เว็บไซต์ : errbkk
2. บ้านผัดไทย Baan Phadthai ร้านอาหารไทยสตรีทฟู้ดส์ ย่านฝั่งธนฯ
อิ่มต่อไม่รอแล้วนะ เพราะเราจะขอย้ายจากฝั่งพระนครไปยังฝั่งธนฯ กันบ้างที่ร้าน บ้านผัดไท Baan Phadthai ที่ไม่ได้มีดีแค่ผัดไทอย่างเดียว
แต่การตกแต่งและบรรยากาศภายในร้านยังดูเป็นมิตร ที่ให้ความเรียบง่ายแบบบ้านไทยสมัยเก่า ขณะเดียวก็ดูสวยงาม เป็นเอกลักษณ์ด้วยเฟอร์นิเจอร์และประตูไม้บานเฟี้ยมที่ตัดกับตัวร้านสีฟ้าสดใส
ไหนๆ แล้วก็ขอเปิดโต๊ะให้สมกับชื่อร้านสักหน่อย ด้วยเมนูผัดไทหลากเครื่องที่มีให้เลือกทั้งไก่ย่าง (190 บาท), หมูย่าง (190 บาท) และกุ้งแม่น้ำย่าง (250 บาท) แต่พลาดไม่ได้เลยก็ต้องผัดไทปู (280 บาท) เสิร์ฟมาพร้อมกระดอง พอเปิดออกมาจะกับเนื้อปูผัดเข้ากับเส้นผัดไทหอมๆ ได้รสมันปูเข้มข้น โดยจุดเด่นของเมนูเหล่านี้จะอยู่ที่น้ำซอสจากวัถตุดิบกว่า 18 ชนิด ซึ่งเป็นสูตรลับเฉพาะของทางร้าน
หรือถ้าคุณพ่อเกิดติดใจรสชาติของหมูย่าง ทางร้านก็มีขายในราคาจานละ 210 บาท ลองสั่งมาทานคู่กับเมี่ยงคะน้า (150 บาท) ที่ใช้ใบคะน้าสดกรอบปลอดสารพิษ ยิ่งเข้ากันดี ได้ทั้งรสหวาน เค็ม เผ็ด เปรี้ยวในคำเดียว
ทานคาวไม่ทานหวานก็ดูจะไม่ครบสูตร งั้นให้คุณพ่อชื่นใจต่อเลยด้วยทับทิมกรอบ (130 บาท) สูตรจากทางร้านที่ใช้น้ำกะทิหอมมันไม่เลี่ยน เวลาทานใส่น้ำแข็งจะได้รสชาติที่ไม่หวานจนเกินไป ดีต่อสุขภาพคุณพ่อแน่นอน
ว่าแล้วก็อยากพาคุณพ่อไปนั่งทานผัดไททุกวัน เพราะร้านตั้งอยู่ไม่ไกลจาก BTS สะพานตากสินมากนัก การเดินทางจึงสะดวก อยู่ในซอยเดียวกับตลาดบางรัก ย่านเจริญกรุง ที่ขึ้นชื่อเรื่องศิลปะแนว Street Art ให้เราชวนคุณพ่อไปเดินถ่ายรูปเล่นกัน รับรองว่า...วันพ่อปีนี้จะต้องพิเศษกว่าทุกปี:)
วันเวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 11.00 - 22.00 น.
เบอร์ติดต่อ : 063-370-0220
เว็บไซต์ : Baan Phadthai
3. Plaagut Southern Thai Recipe ร้านอาหารไทยพื้นบ้าน ใจกลางเมือง
ถ้าจะชวนคุณพ่อไปทานอาหารไทยรสชาติจัดจ้าน แต่ไม่พูดถึงอาหารใต้เลยก็คงไม่ใช่ เพราะด้วยรสชาติเครื่องแกงที่ถึงพริกถึงขิง พร้อมกลิ่นขมิ้น ข่า ตะไคร้ที่เป็นเอกลักษณ์นี่เอง ที่ทำให้หลายคนหลงรักอาหารใต้ ซึ่งร้านปลากัด Plaagut Southern Thai Recipe เองก็ถ่ายทอดความรู้สึกนั้นออกมาได้ดี
หากใครทำงานอยู่แถวสาทรก็ลองเดินเข้าไปในสาทรซอย 10 ดู จะเจอกับบรรยากาศเย็นสบายเหมาะจะพาพ่อมาเดินชิลล์ๆ แล้วตรงเข้าร้านอาหารไทยสไตล์ Homemade ที่เหมือนยกครัวเมืองคอนมาวางไว้ใจกลางกรุง
พร้อมตกแต่งด้วยสีเอิร์ธโทนดูโมเดิร์น เรียบง่าย สบายตา ซึ่งร้านได้ดัดแปลงมาจากบ้านสองชั้น เวลาเดินเข้าไปจึงให้ความรู้สึกอบอุ่นและเป็นกันเอง
ด้วยพริกแกงที่ส่งตรงมาจากท้องถิ่น สีสันที่ได้จึงจัดจ้านน่าทาน และพร้อมเปิดประสาทรับรสกันด้วยเมนูใต้แท้ๆ อย่าง คั่วกลิ้งหมู ที่ให้ดีต้องเคี้ยวจนเครื่องแกงเข้าเนื้อแต่ไม่ถึงกับแห้ง ยิ่งทานกับข้าวสวยร้อนๆ ยิ่งอร่อย หรือจะลองจิ้มกับข้าวเหนียวก็เข้ากันไปอีกแบบ ถัดมาเป็น ขนมจีนน้ำยาปู รสชาติกลมกล่อม แต่ต้องไม่ลืมทิ้งลายความเผ็ดร้อนไว้ที่ปลายลิ้น
แกงส้มใต้ปลากะพงยอดมะพร้าว หนึ่งเมนูใต้ขวัญใจใครหลายคน ซึ่งจะต่างจากแกงส้มทั่วไปด้วยกลิ่นของเครื่องแกงที่ใส่ขมิ้น พร้อมให้รสชาติความเผ็ดร้อนในตัว หากใครกลัวว่าจะเผ็ดเกินไปจนทนไม่ไหวก็สามารถบอกทางร้านให้ปรับระดับได้เลย (แต่จะปรับได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น เพื่อคงไว้ซึ่งรสชาติตำรับอาหารใต้)
เอาใจคนไม่ทานเผ็ดด้วยเมนูรสชาติกลางๆ ทานง่ายอย่าง ปลากระพงทอดน้ำปลา ราดด้วยน้ำยำมะม่วง กับ น้ำพริกกุ้งเสียบ ที่เสิร์ฟคู่ผักสดหลากชนิด เพืื่อสุขภาพที่ดีของคุณพ่อ
สำหรับการเดินทางมาร้าน ปลากัด Plaagut Southern Thai Recipe สามารถลง BTS สถานีสุรศักดิ์ แล้วเดินเข้าซอยสาทร 10 มาเล็กน้อยเท่านั้น
วันเวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 11.00 - 14.30 น.และ 17.30 - 22.00 น.
เบอร์ติดต่อ : 02 077 6144
เว็บไซต์ : Plaagut Southern Thai Recipe
ครบไปแล้วเรียบร้อยกับ 3 ร้านอาหารไทยที่ Estopolis อยากแนะนำให้คุณพ่อและคุณลูกได้รู้จัก ส่วนใครที่มีร้านอาหารสุดประทับใจอยากจะพาครอบครัวไปทานในวันพ่อนี้ ก็อย่าลืมแชร์หรือบอกต่อกันบ้าง เผื่อวันไหนมีโอกาสดีๆ เราจะได้ลองไปชิมกัน