รูปบทความ Millennial บวก Startup เท่ากับ Co-Working Space

Millennial บวก Startup เท่ากับ Co-Working Space ที่นับวันยิ่งมาแรงขึ้นเรื่อยๆ


จากการเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 50% จากปี 2560 ของ Co-Working Space ส่งผลให้ในปี 2561 ที่ผ่านมา ตลาดของสำนักงานให้เช่าหรือ Co-Working Space กินพื้นที่ของสัดส่วนตลาดสำนักงานให้เช่าแบบดั้งเดิมไปถึง 2.6% และในปี 2562 นี้ก็คาดว่าน่าจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง


Co-Working Office หรือพื้นที่เช่าสำนักงานระยะสั้น กลายมาเป็นที่นิยมได้อย่างไร?


หากจะตั้งคำถามถึงความนิยมของ Co-Working ก็คงต้องย้อนกลับไปดูกลุ่มคนที่กำลัง Working หรือเป็นตลาดแรงงานหลักของเราในปัจจุบันก่อน ซึ่งวัยที่กำลังเริ่มเข้าสู่ตลาดแรงงานในปัจจุบันจะอยู่ในช่วงอายุประมาณ 23 ปีเป็นต้นไป ซึ่งช่วงอายุ 23 ปีในปัจจุบัน จัดอยู่ในกลุ่มของ Millennial หรือกลุ่มช่วงวัยของคนที่เกิดในปี ค.ศ. 1980-1996 โดยในประเทศไทยมีจำนวนของกลุ่มคนในช่วงปีเกิดนี้มากถึง 20.6 ล้านคน หรือเกือบ 1 ใน 3 ของจำนวนประชากรทั้งหมด


แล้วคนกลุ่ม Millennial นี้ เกี่ยวของกับ Co-Working อย่างไร?


คนกลุ่มมิลเลนเนียล (Millennials) คือ กลุ่มคนที่เกิดระหว่างปี พ.ศ. 2523 ถึง พ.ศ. 2539 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่บ้านเมืองสงบสุขและเติบโตมาในยุคของการเปลี่ยนแปลงอย่างมากของสภาพแวดล้อมทางสังคม เศรษฐกิจและการเมือง เทคโนโลยีมีความก้าวหน้า เกิดมาพร้อมกับอินเทอร์เน็ต, โซเชียลเน็ตเวิร์ค และอุปกรณ์ไอทีต่างๆ ที่ทันสมัย เป็นวัยตั้งแต่เริ่มเข้าทำงานเป็นพนักงานระดับล่างจนถึงหัวหน้า งานหรือผู้บริหารระดับกลาง มีลักษณะนิสัยชอบแสดงออก มีความเป็นตัวของตัวเองสูง ไม่ชอบอยู่ในกรอบและไม่ชอบเงื่อนไข คนกลุ่มนี้มีบุคลิกลักษณะทำตามสมัยนิยมและกล้าในการแสดงออกกล้าที่จะคิด ค่อนข้างต้องการความยืดหยุ่นในการทำงาน และเชื่อว่าความสามารถนั้น วัดจากผลผลิตมากกว่าชั่วโมงการทำงาน


ปัจจัยเรื่องความยืดหยุ่นและเทคโนโลยี เกิดเป็น Co-Working office เอาใจกลุ่ม Millennial


ในเมื่อคนกลุ่มมิลเลนเนียนเชื่อว่า ความสามารถนั้น วัดจากผลผลิตมากกว่าชั่วโมงงาน และการทำงาน ก็ไม่จำเป็นต้องจำเจตอกบัตรเข้าออฟทุก 8 โมงเช้าเสมอไป ดังนั้น ‘งานอิสระ’ หรือฟรีแลนซ์ จึงเป็นงานที่ดูจะเข้าเค้า และตอบโจทย์ความยืดหยุ่นสำหรับคนกลุ่มมิลเลนเนียนมากที่สุด


แล้วงานแบบไหนที่ตอบโจทย์คนกลุ่มมิลเลนเนียนด้านเทคโนโลยี?


เทคโนโลยี อินเทอร์เน็ต และโซเชียลเน็ตเวิร์ก ก้าวเข้ามาเป็นปัจจัยสำคัญในชีวิตประจำวันของเราอย่างปฏิเสธไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Smartphone ที่เราแทบไม่เคยกดปิดเครื่องกันเลย เว้นแต่จะเกิดเหตุขัดข้อง ต้องการเปลี่ยนซิม หรือมีเหตุสุดวิสัยให้จำเป็นต้องปิด เราเปิดใช้ Smartphone สแตนบายออนไลน์อยู่กับเราตลอดเวลา ใช้เป็นทั้งเครื่องมือในการโทรติดต่อสื่อสาร, นาฬิกาบอกเวลา, นาฬิกาปลุก, กล้องถ่ายรูป, สมุดจดบันทึก ฯลฯ นอกจากนี้เราก็ยังใช้อินเทอร์เน็ตผ่าน Smartphone ในการค้นหาข้อมูล ข่าวสาร องค์ความรู้ต่างๆ และยังใช้งานโซเชียลเน็ตเวิร์กอย่าง Facebook, Instagram, Twitter, Line ในการเชื่อมต่อกับสังคมผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งโซเชียลเน็ตเวิร์กในปัจจุบันค่อนข้างเข้ามามีอิทธิพลกับคนในสังคมเป็นอย่างมาก ถ้าหากนำเอาเทคโนโลยีเหล่านี้เข้ามาเป็นตัวช่วยในการทำธุรกิจได้ ก็จะสามารถดำเนินธุรกิจให้เติบโตได้อย่างรวดเร็ว โดยใช้ต้นทุนในการตั้งต้นที่น้อย ซึ่งแนวทางนี้ เป็นวิถีของธุรกิจที่เรียกว่า ‘Startup’


ฟรีแลนซ์ และ สตาร์ตอัป เกี่ยวข้องอย่างไรกับ Co-Working Office?


Co-Working Office เป็นรูปแบบของพื้นที่ให้บริการเช่าสถานที่ทำงานระยะสั้น สามารถเช่าได้ตั้งแต่รายชั่วโมงไปจนถึงรายเดือน เหมาะกับทั้งกลุ่มคนทำงานฟรีแลนซ์และบริษัทสตาร์ตอัป ซึ่งผู้ทำงานสามารถเลือกเวลาในการทำงานของตัวเองได้ เลือกสถานที่ทำงานที่ใกล้ สะดวก และตอบโจทย์สำหรับตัวเองได้ ได้ทำงานภายใต้บรรยากาศสร้างสรรค์ สามารถพูดคุยแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน เรียกว่าเป็นบรรยากาศการทำงานในฝันของชาวมิลเลนเนียน รวมไปถึงตอบโจทย์สำหรับกลุ่มสตาร์ตอัปที่มีบัดเจตจำกัดในการเริ่มต้นธุรกิจอีกด้วย


Co-Working Office ตอบโจทย์ที่สุดสำหรับวัยทำงานยุคใหม่ จึงเป็นที่มาของการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง





ที่มา :    ปัจจัยแห่งความสำเร็จของธุรกิจ Startup The Critical Factors to Success of Startup Business

            พฤติกรรมความต้องการและเหตุผลในการเปลี่ยนงานของบุคลากรไอซีที กลุ่มมิลเลนเนียลและแนวทางการปรับตัวขององค์กร ในบริษัทแห่งหนึ่ง


เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร...?

Related Stories

Esto Talks

See All >

Living out loud

Living out loud : VANA RESIDENCE พระราม 9 - ศรีนครินทร์