ไม่บานปลาย! 5 ขั้นตอนแต่งคอนโดในสไตล์ที่ใช่ ด้วยงบจำกัด
14 February 2563
เชื่อว่าทุกคนอยากได้ห้องพักในฝัน และเชื่ออีกว่าใครหลายคนอาจกำลังกุมขมับในการหาไอเดียตกแต่งห้องภายในคอนโดของตัวเองอยู่ ซึ่งปัญหาเหล่านั้นอาจมาพร้อมกับเรื่องของงบประมาณรายจ่าย เนื่องจากการตกแต่งห้องหนึ่งห้องมีค่าใช้จ่ายจิปาถะมากมาย หากไม่คำนวณงบประมาณให้ดี เดือนนั้นทั้งเดือนอาจต้องนั่งกินมาม่าก็ได้
ด้วยความห่วงใย Esto เลยมีเทคนิคดีๆจากประสบการณ์ของ Interior Designer มาฝากเพื่อนๆแฟนเพจทุกคน เกี่ยวกับ “5 ขั้นตอนแต่งคอนโดในสไตล์ที่ใช่ ด้วยงบจำกัด ” จะมีเทคนิคอะไรน่าสนใจบ้าง ตามพวกเราเข้ามาได้เลย
1. วัดขนาดพื้นที่ต่างๆ
ขอยกอีกตัวอย่าง เช่น A ต้องการเทพื้นปูนสำเร็จ ที่ห้องนอนสร้างใหม่ A จึงนำเครื่องวัดไปวัด (ตลับเมตร) ได้พื้นที่ 3.5 x 4.5 เมตร แต่ A ยังไม่รู้ว่าเป็นกี่ตารางเมตร จึงได้คำนวณดังนี้ X = 3.5 x 4.5 ได้เท่ากับ 15.75 ตารางเมตร
เมื่อ A รู้ตารางเมตรของพื้นที่ห้องนอนแล้ว ก็สามารถนำตัวเลขที่ได้จากการคำนวณ (15.75) ไปสั่งปูนมาเทพื้นห้องนอนได้ ในกรณีนี้ไม่รวมความหนา ของพื้นที่เท ซึ่งความหนาจะขึ้นอยู่กับ เจ้าของบ้านโดยปกติแล้วจะอยู่ที่ 7-8 เซนติเมตร
การแยกคำนวณสัดส่วนของพื้นที่
- กว้าง 1.0 เมตร
- ยาว 2.0 เมตร (ตารางเมตร เท่ากับ กว้าง x ยาว)
- X = A x B ซึ่ง X แทนด้วย ตารางเมตร
- A แทนด้วย ความกว้าง
- B แทนด้วย ความยาว (ผลลัพธ์ที่ได้ X = 1.0 x 2.0 จะได้ 2 ตารางเมตร)
2. เลือก Mood and Tone
หลังจากเราคำนวณหาค่าตารางเมตรของพื้นที่ห้องเสร็จเรียบร้อย มาต่อกันที่การหา Mood & Tone เพื่อกำหนดทิศทางของห้องในเป็นแบบที่เราต้องการ ซึ่งขั้นตอนนี้เป็นอีกขั้นตอนหนึ่งที่สำคัญที่สุดก็ว่าได้ เพราะหาไม่กำหนด Mood & Tone ให้ชัดเจน อาจทำให้ขั้นตอนต่อไปเกิดปัญหาตามมาได้
สำหรับขั้นตอนการหา Mood & Tone มีอยู่ 2 ขั้นตอน
- ศึกษาข้อมูล : การศึกษาข้อมูลนั้นในสมัยก่อนดีไซน์เนอร์ หรือผู้ที่ต้องการหาไอเดียของ Mood & Tone คลังข้อมูลจะอยู่ในหนังสือหรือนิตยสารปกออกแบบต่างๆ แต่ในปัจจุบันสามารถหาได้แค่เพียงปลายนิ้วสัมผัสบนอินเทอร์เน็ต ซึ่งเว็บไซต์ที่รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับงานออกแบบนั้นมีหลากหลาย แต่ที่ได้รับความนิยมที่สุดคือ www.pinterest.com
- นำมาประยุกต์ : หลังจากเรารวบรวมข้อมูลแล้ว ขั้นตอนต่อมาคือการนำมาประยุกต์ใช้ให้เหมาะกับพื้นที่ภายในคอนโดของเรา ซึ่งในขั้นตอนนี้สำหรับเพื่อนๆที่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับงานออกแบบ แนะนำให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ หรือดีไซน์เนอร์ เพื่อ ‘สร้างภาพจำลอง 3 มิติ’ ของ Mood & Tone ที่เราเลือกมาว่าจะใช้ได้กับห้องของเราหรือไม่
3. เริ่มทาสี
มาถึงอีกหนึ่งขั้นตอนที่มีความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะหากพลาดไปครั้งเดียวอาจต้องตามแก้จนเวียนหัวก็ได้ ซึ่งการทาสีภายในห้องคือขั้นตอนต่อมาที่ได้จากการหา Mood & Tone เพื่อจะกำหนดทิศทางของห้องให้ออกมาในสไตล์ที่เป็นตัวเอง ซึ่งการทาสีนั้นนอกจากจ้างช่างแล้ว เรายังสามารถทาเองได้ ด้วย 5 ขั้นตอนนี้
ทำความสะอาดผนัง
สำหรับการตกแต่งห้องการทาสีบริเวณผนังเป็นอีกสิ่งหนึ่ง ที่จะทำให้บรรยากาศภายในเปลี่ยนไป แน่นอนว่าก่อนเริ่มทาผนังเราควรเตรียมพื้นผิวให้สะอาดก่อน โดยการเซาะพื้นผิวที่แตกร้าวออกให้พื้นผิวเรียบเนียนสม่ำเสมอ ก่อนเช็ดทำความสะอาด
นำเทปกาวติดโดยรอบ
จากนั้นให้นำเทปกาวติดบริเวณที่ไม่อยากให้สีไปโดน เช่น คิ้วบัวผนัง และขอบหน้าต่าง เป็นต้นฯ นอกจากนั้นแล้วให้นำผ้าใบมารองบริเวณพื้นเพื่อกันสีกระเด็นตกลงมาโดนที่พื้น
ทาสีรองพื้น
การทาสีรองพื้นเป็นตัวแปรที่สำคัญมาก และไม่สามารถขาดได้เลยในการทาสีแต่ละครั้ง เพราะหากเราลงรองพื้นไม่ดี สีที่เราทาทับไปจะเกิดความด่าง หรืออย่างเลวร้ายที่สุดคือค่าของสีผิดเพี้ยน จนต้องทำความสะอาดแล้วเริ่มทาสีกันใหม่
ทาสีทับ
หลังจากทาสีรองพื้นทับ 2 ครั้ง เมื่อสีรองพื้นแห้งเรียบร้อย ให้เริ่มนำสีที่เราเตรียมมาทาทับลงไป โดยเทคนิคการทาสีให้เสร็จเร็วและสีสม่ำเสมอคือการใช้ลูกกลิ้งทาสี เริ่มจากขอบและเลื่อนเป็นรูป W โดยไม่ต้องยกลูกกลิ้ง โดยทาให้ทั่วผนัง
เก็บรายละเอียด
เมื่อทาสีทุกอย่างเสร็จสิ้นให้นำเทปกาวออก ซึ่งบริเวณที่เราแปะเทปกาวจะเป็นคนละสีกับที่เราทาสีบริเวณผนัง ดังนั้นให้ใช้แปรงขนาดเล็กไล่เก็บบริเวณขอบจนสีเกลี่ยเท่ากันทั้งหมด
เคล็บ (ไม่) ลับ
สีทาภายในที่เลือกใช้ต้องเป็นสีที่ได้คุณภาพและปลอดสารพิษ ซึ่งสีที่เหมาะสมได้แก่สีอะครีลิค ซึ่งมีค่าเนื้อสีละเอียดและเกาะแน่นกับผนังมากที่สุด
4. หาไอเดียเฟอร์นิเจอร์
เมื่อเรากำหนด Mood & Tone และทาสีภายในห้องจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อมาคือการหาเฟอร์นิเจอร์เพื่อให้สร้างให้ห้องในฝันของเราเป็นจริง ซึ่งรูปแบบของเฟอร์นิเจอร์ต้องมีสัดส่วนที่เหมาะกับขนาดภายในห้องเราด้วย โดยเฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะกับ คอนโด แบ่งได้ 3 รูปแบบ
เฟอร์นิเจอร์ลอยตัว
สำหรับเฟอร์นิเจอร์ประเภทนี้ เป็นทางเลือกหลักในการหาเฟอร์นิเจอร์ซักหนึ่งชุดเข้ามาใช้งานภายในคอนโด เพราะนอกจากราคาไม่แพง มีรูปแบบดีไซน์ให้เลือกหลากหลายแล้ว ยังมีขนาดกะทัดรัด เหมาะกับการใช้งานได้อย่างลงตัว
เฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน
ถ้าเฟอร์นิเจอร์แบบลอยตัวอาจขวางทางสัญจรในบางครั้ง ที่ขนาดห้องภายในคอนโดมีพื้นที่ใช้สอยน้อย เฟอร์นิเจอร์บิวท์อินเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่เหมาะกับการใช้งาน เพราะช่วยให้ประหยัดพื้นที่และสวยงามมากขึ้น แต่ติดอยู่ที่มีราคาแพง
เฟอร์นิเจอร์มัลติฟังก์ชัน
รูปแบบของเฟอร์นิเจอร์ชนิดนี้จะมีลักษณะคล้ายกับเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว แต่จะมีความต่างอยู่ที่ในเฟอร์นิเจอร์หนึ่งชิ้นสามารถใช้งานได้มากกว่าหนึ่ง option เช่น โซฟาสามารถเปลี่ยนเป็นเตียงนอนได้
5. ตกแต่งห้องด้วยตัวเองง่ายๆ
กระบวนการสุดท้ายคือการแต่งห้อง หลังจากที่เราทำตอน 4 ขั้นตอนด้านบนจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว คือการเริ่มลงมือตกแต่งห้องเพื่อเติมเต็มไอเดียของเราให้สมบูรณ์บูรณ์ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วการแต่งห้องไม่ได้มีอะไรยุ่งยากอย่างที่ใครหลายคนคิดเอาไว้
นั่นก็คือการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ และข้าวของเครื่องใช้ทุกอย่างให้เป็นสัดส่วน อยู่ในมุมหรือพื้นที่ของตัวเอง นอกจากเป็นการจัดระเบียบแล้ว ยังทำให้ไม่ให้ขวางทางสัญจรและทำให้เชื่อมต่อกับพื้นที่ภายในได้สะดวก อีกทั้งยังช่วยให้ห้องภายในเกิดการไหลเวียนของอากาศได้ดียิ่งขึ้น
หวังว่า 5 ขั้นตอนการแต่งคอนโด ที่พวกเรา Esto และ Interior Designer นำมาฝากและแนะนำในวันนี้ จะช่วยให้เพื่อนๆได้ประโยนชน์ในการนำมาปรับใช้ตกแต่งให้เข้ากับพื้นที่ภายในคอนโดของตัวเอง