รูปบทความ 1 แบบแปลน 5 คาแรคเตอร์ ในการสร้างพื้นที่ภายในคอนโดให้เหมาะกับตัวคุณ

1 แบบแปลน 5 คาแรคเตอร์ ในการสร้างพื้นที่ภายในคอนโดให้เหมาะกับตัวคุณ

ในอนาคตข้างหน้ากลุ่มคนรุ่นใหม่ New Generlation อย่างชาว Millennial จะเข้ามามีบทบาทสำคัญ ในการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมทุกด้านรวมถึงอสังหารทรัพย์ ด้วยรูปแบบของ Lifestyle ที่ชัดเจนและหลากหลายในการดำเนินชีวิต บวกกับเทคโนโลยีถูกพัฒนาขึ้นเพื่อรองรับการใช้งาน จึงทำให้กลุ่มคนรุ่นใหม่เหล่านี้กลายเป็นกำลังหลักที่พร้อมเปลี่ยนโฉมหน้าของโลกใบนี้


วันนี้ Esto จะพาไปทำความรู้จักกับ 5 คาแรคเตอร์ของกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ผ่านการออกแบบพื้นที่ภายในห้องพักคอนโดมิเนียม 1 แบบแปลน ที่สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ทั้งหมด 5 ฟังก์ชั่น เพื่อตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่นใหม่ทั้ง 5 แบบ ประกอบด้วย Pacifistic (รักสงบ), Creator (รักงานสร้างสรรค์), Party (ชอบเข้าสังคม), Master Chef (รักการทำอาหาร) และ Fashionista (เจ้าแม่แฟชั่น) ซึ่งคาแรคเตอร์ทั้งหมดจะเป็นตัวกำหนดทิศทางการใช้งานภายในพื้นที่


1 Bedroom 34.50 ตร.ม.


สำหรับ 1 แบบแปลนที่นำมาปรับเปลี่ยนการใช้งานให้เหมาะกับ 5 คาแรคเตอร์ อย่าง 1 Bedroom จากโครงการ Ideo Mobi Asoke ขนาด 34.50 ตร.ม. มีลักษณะรูปแบบสี่เหลี่ยมจัสตุรัสหน้ากว้าง ซึ่งข้อดีสามารถจัดสรรฟังก์ชันการใช้งานได้หลากหลาย


ฟังก์ชันหลักแบ่งได้ 6 ฟังก์ชั่น คือ 1.Living Area (ห้องนั่งเล่น), 2.Dining Area (พื้นที่รับประทานอาหาร), 3.Kitchen Area (ห้องครัว), 4.Bathroom (ห้องน้ำ), 5.Bedroom (ห้องนอน), 6.Balcony (ระเบียง) ฟังก์ชั่นทั้งหมดจะถูกแบ่งสัดส่วนการใช้งานเพื่อให้เหมาะกับรูปแบบทั้ง 5 คาแรคเตอร์




ใครรู้ตัวว่าอยู่สายนี้รายงานตัวด่วน สำหรับกลุ่ม Pacifitic (รักสงบชอบพักผ่อน) ที่ต้องการพื้นที่ส่วนตัวในการพักผ่อน หรือใช้เวลาอยู่ในห้องนอนนานกว่าการทำอย่างอื่น เวลาว่างไม่ชอบออกไปเที่ยวแต่จะหมกตัวเงียบๆ อยู่ในห้อง การเพิ่มฟังก์ชัน Bedroom (ห้องนอน) ให้กว้างขึ้นถือเป็นการสร้าง Space เพื่อเป็นการชาร์จแบตให้กับตัวเอง


ลักษณะการแบ่งสัดส่วนของห้องนอน จากแบบแปลนเดิมมีการแบ่งพื้นที่บางส่วนสำหรับห้องครัวที่อยู่ด้านหน้า เราเลยเลือกปรับแปลนใหม่โดยการขยายพื้นที่ห้องนอนให้กลายเป็นแนวยาวเต็มพื้นที่ เพื่อให้ได้ขนาดที่กว้างขึ้น สามารถวางเตียงนอนแบบ King Size (6ฟุต) โดยเว้นทางเดินตรงกลางประมาณ 0.80 cm. และข้างเตียง 2 ฝั่ง เฉลี่ยฝั่งละ 1.00 m. ทำให้มีพื้นที่มากพอสำหรับจัดวางเฟอร์นิเจอร์ในส่วนของมุมทำงาน หรือพื้นที่แต่งตัวได้อย่างสะดวกสบาย พร้อมกับเสริม Option อย่างโซฟาเบด โดยเลือกวางติดกับหน้าต่าง นอกจากใช้สำหรับพักผ่อนได้แล้ว ยัง Take View ด้านนอกได้




สำหรับเฟอร์นิเจอร์ภายในห้องเน้นไปที่เตียงนอนเป็นหลัก เพราะการเลือกเตียงนอนที่มีขนาดเหมาะสมจะช่วยให้ห้องโปร่ง ไม่อึดอัด และยังทำให้เหลือพื้นที่สำหรับจัดวางเฟอร์นิเจอร์ชิ้นอื่นๆ เพื่อเพิ่มประโยชน์ใช้สอย


Furniture Option




สาย Creator (รักงานสร้างสรรค์) มากองรวมกันตรงนี้ กับกลุ่มคนที่ชอบงานสร้างสรรค์เป็นชีวิตจิตใจ ชอบคิดค้นไอเดียใหม่ๆเสมอ คนกลุ่มนี้เป็นตัวแทนของชาว Millennial อย่างแท้จริง ด้วย Lifestyle ที่ใช้ชีวิตอิสระ รักการเรียนรู้และมี Passion ที่ชัดเจน โดยการที่จะสร้างสรรค์ผลให้ให้ออกมาดี สิ่งที่ขาดไม่ได้คือพื้นที่เสริมอย่าง Work Space (พื้นที่ทำงาน)


พื้นที่สร้างสรรค์ผลงานอย่าง Work Space (พื้นที่ทำงาน) นอกจากจะช่วยให้คิดไอเดียได้ไหลลื่นแล้ว การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ดียังเป็นการลดอาการปวดเมื่อยและเสริมบุคลิคภาพตามหลักสรีรศาสตร์ได้อีกด้วย สำหรับแบบแปลนเดิมโต๊ะทำงานถูกจัดไว้เป็นมุมเล็กๆภายในห้องนอน ซึ่งอาจไม่เพียงพอต่อการใช้งาน เราเลยเลือกแบ่งพื้นที่ห้องนอนจาก 100% หั่นออกเป็นห้องนอน 50% ห้องทำงานอีก 50% และเลือกดีไซน์ Partition กระจกใสกั้นระหว่าง 2 พื้นที่เพื่อแบ่งแยกขอบเขตการใช้งาน สร้างความเป็นส่วนตัว โดยเน้นจัดวางเฟอร์นิเจอร์บริเวณ Work Space ด้วยโต๊ะทำงานเข้ามุม ทำให้มีพื้นที่สำหรับการวางอุปกรณ์ เช่น คอมพิวเตอร์, หนังสือ, และอื่นๆ




การเลือกใช้เฟอร์เนิเจอร์ในส่วนนี้ สามารถเลือกจัดได้ค่อนข้างลงตัว เพราะมีน้อยชื้นบวกกับขนาดไม่ใหญ่จนเกินไป ส่วนมากนิยมใช้เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวแบบโปร่ง เพราะจะช่วยให้ง่ายต่อการเปลี่ยนฟังก์ชันการใช้งาน


Furniture Option




การปาร์ตี้น่าจะเป็นกิจกรรมอีกรูปแบบหนึ่งที่อยู่ในสายเลือดของชาว Millennial รุ่นใหม่ อย่างกลุ่ม Party (สนุกสนานชอบเข้าสังคม) ซึ่งเน้นการใช้ชีวิตแบบ Work Life Balance เป็นการสร้างสมดุลให้กับชีวิตของตัวเอง ดังนั้นพื้นที่ที่คนกลุ่มนี้ต้องการมากที่สุดคือส่วนกลางอย่าง Living Area (ห้องนั่งเล่น) ที่มีขนาดใหญ่


รูปแบบแปลนเดิมให้ความสำคัญกับพื้นที่ Living Area (พื้นที่นั่งเล่น) พอสมควร เราเลยเลือกปรับและเพิ่มเติมเฟอร์นิเจอร์เข้าไป โดยแบ่งการจัดวางออกเป็น 2 ส่วน คือ พื้นที่ภายใน เลือกใช้โซฟาเข้ามุมชุดใหญ่ และเว้นระยะทางเดินตรงกลางประมาณ 0.60-0.80 cm. ระหว่างโซฟาและชั้นวางทีวี เพื่อความสะดวกในการสัญจร ส่วนต่อมาอย่างพื้นที่ภายนอกบริเวณ Balcony (ระเบียง) เลือกวางโต๊ะรับประทานอาหารแบบ 2 ที่นั่ง เป็นการขยายพื้นที่ไม่ให้จำกัดอยู่แค่ภายใน เมื่อเปิดประตูบานเลื่อนออกบริเวณพื้นที่ทั้งภายนอกและภายในจะเชื่อมต่อกันโดยอัตโนมัติ สามารถรองรับผู้ใช้งานได้มากถึง 5-10 คนเลยทีเดียว




ปัจจัยการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ภายใน Living Area (ห้องนั่งเล่น) สิ่งที่ต้องคิดไว้เสมอ ยิ่งผู้ใช้งานมากเท่าไหร่ การเลือกเฟอร์นิเจอร์และการจัดวางต้องได้สัดส่วนมากเท่านั้น โดยการเลือกวางต้องสอดคล้องกับพื้นที่เพื่อให้เหลือระยะทางเดินได้สะดวก


Furniture Option




อีกหนึ่ง Lifestyle ที่ได้รับความสนใจอย่าง Master Chef (รักการทำอาหาร) เรียกได้ว่ากลุ่มของคนที่รักการทำอาหารได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นอาชีพและงานอดิเรกของชาว Millennial ในยุคปัจจุบันเป็นที่เรียบร้อย การเพิ่มส่วนของ Kitchen (ห้องครัว) ให้มีขนาดกว้างขึ้นถือเป็นทางเลือกที่ดีที่จะทำให้คนกลุ่มนี้ได้ใช้ชีวิตอยู่กับสิ่งที่ตัวเองรัก


จากแบบแปลนเดิม Kitchen (ห้องครัว) มีเนื้อที่น้อยที่สุดเฉลี่ยประมาณ 6 ตร.ม. อยู่ระหว่างประตูทางเข้าห้องนอนและห้องน้ำ เราเลยเลือกปรับแปลนใหม่ โดยนำผนังห้องนอนบางส่วนออก แล้วลดระยะห้องนอนให้อยู่ในขนาดที่เหมาะสม จนทำให้ได้เนื้อที่ของห้องครัวในลักษณะแนวยาวตอนลึกครอบคลุมจนถึงบริเวณ Dining Area (พื้นที่รับประทานอาหาร) ของห้องนั่งเล่น ส่วนการเลือกจัดวางชุดครัว เน้นวางเฟอร์นิเจอร์แนวยาวติดผนังในรูปแบบ L-Shape พร้อมกับเสริมด้วยเก้าอี้และ Counter Bar บริเวณตรงกลางเพื่อเป็น Option เสริมในการประกอบอาหาร โดยเว้นระยะ 0.60 cm. ทั้งด้านซ้ายและขวาให้เหลือพื้นที่สัญจรไป-มา ได้พอเหมาะ



ความกว้างระหว่างเฟอร์นิเจอร์ถือเป็นเรื่องสำคัญในห้องครัว เนื่องจากมีอุปกรณ์การใช้งานค่อนข้างมาก หากเลือกจัดวางไม่ได้สัดส่วนหรือผิดระยะ อาจส่งผลในเรื่องของความปลอดภัย และความสะดวกในการใช้งาน


Furniture Option




ปฏิเสธไม่ได้ว่าสาย Fashionista (เจ้าแม่แฟชั่น) ส่วนมากจะอยู่ใน DNA ของสาวๆโดยธรรมชาติ ซึ่งพวกเธอจะ Appreciate เมื่อเห็นเสื้อผ้า, เครื่องสำอาง และเครื่องประดับต่างๆ ที่ถูกจัดอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ดังนั้นห้องพักที่สามารถตอบโจทย์ได้ดีที่สุดคือการเพิ่มฟังก์ชั่นการใช้งานบริเวณ Walk-in Colset (ห้องแต่งตัว) เข้าไป


ถ้ามองจากแบบแปลนเดิมจะไม่มีพื้นที่ของ Walk-in Colset (ห้องแต่งตัว) มีเพียงตู้เสื้อผ้าถูกจัดไว้ที่มุมภายในห้องนอน สำหรับสาย Fashionista ตู้เสื้อผ้าแค่ชิ้นเดียวคงไม่พอ เราเลยปรับแปลนใหม่โดยการแบ่งครึ่งพื้นที่ออกเป็น 50-50 จากพื้นที่ห้องนอนทั้งหมด 100% โดยเลือกใช้ Partition กระจกใสแบ่งพื้นที่ทั้ง 2 เอาไว้ เมื่อได้พื้นที่ 50% ที่เหลือแล้ว ให้นำเฟอร์นิเจอร์ตู้เสื้อผ้ามาจัดวางตามแนวผนัง จะเลือกจัดแบบ U-Shap, I-Shap หรือ L-Shap ตามแบบแปลนที่เราจัดก็ได้ ซึ่งการจัดในรูปแบบ L-Shape จะช่วยให้ภายในเป็นระเบียบ ไม่อึดอัด นอกจากนั้นยังสามารถเพิ่มเฟอร์นิเจอร์เซ็ตโต๊ะเครื่องแป้ง หรือเคาน์เตอร์เก็บเครื่องประดับบริเวณตรงกลางโดยเว้นระยะทางเดินมาตรฐานประมาณ 0.60-0.80 cm. เพื่อความสะดวกต่อการสัญจร



สำหรับการเลือกจัดฟังก์ชั่น Walk-in Closet เหมือนกับพื้นที่ Work Space โดยแบ่งพื้นที่ของห้องนอน 50% เพื่อประโยชน์ใช้สอย โดยทั่วไปการเลือกเฟอร์นิเจอร์สำหรับ Walk-in Closet นิยม Built-in Furniture เพราะสามารถเลือกแบบที่ต้องการได้รวมถึงมีราคาประหยัด


Furniture Option

ตู้เสื้อผ้าบานเปิด Vazenta / ขนาด : 200x60x200 cm. / ราคา 20,510 บาท

โต๊ะเครื่องแป้ง Koloze / ขนาด : 90x45x173 cm. / ราคา 5,320 บาท

เก้าอี้สตูล Bently / ขนาด : 42x42x45 cm. / ราคา 1,090 บาท




การเลือกออกแบบห้องพักในสไตล์ที่เป็นตัวเองสามารถทำได้ไม่ยาก เพียงแค่ต้องรู้ก่อนว่าเราชอบอะไร และจะเลือกใช้งานอะไรภายในห้องพักของเรา เมื่อรู้หลักเหล่านั้นแล้วให้ลองหาไอเดียรวมถึงเฟอร์นิเจอร์ที่ชอบ เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ให้เหมาะต่อการใช้งาน ในส่วรเฟอร์นิเจอร์ในแต่ละฟังก์ชั่นที่หยิบมา Spac เป็นการเทียบเคียงรุ่นและดีไซน์จากแบบ Mood & Tone ของแบรนด์ Koncept Furniture


และสำครับใครที่ไม่รู้จะไปหาไอเดียตกแต่งห้องที่ไหน ลองแวะเข้ามาอ่านบทความเกี่ยวกับไอเดียและเทคนิคการตกแต่งบ้าน, ห้องพักภายในคอนโด หรือเรื่องที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ ได้ที่เว็บไซต์ Estopolis ของเราได้เลย


เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร...?

Related Stories

Esto Talks

See All >

Living out loud

Living out loud : VANA RESIDENCE พระราม 9 - ศรีนครินทร์