รูปบทความ 2 + 1 จัดแปลนและเลือกเฟอร์นิเจอร์ให้เหมาะ กับการ Work from Home ช่วยให้ผ่อนคลายในห้องทำงานส่วนตัว

2 + 1 จัดแปลนและเลือกเฟอร์นิเจอร์ให้เหมาะ กับการ Work from Home ช่วยให้ผ่อนคลายในห้องทำงานส่วนตัว


ด้วยสถานการณ์โรคระบาด COVID-19 ในปัจจุบันที่เริ่มจะรุนแรงขึ้น ทำให้ตอนนี้หลายบริษัทหลายองค์กร เริ่มทะยอยให้พนักงานกลับไปอยู่บ้านแล้ว Work from Home กันแทน เมื่อทำงานอยู่บ้าน บรรยากาศในการทำงาน ก็ถือเป็นเรื่องสำคัญ การออกแบบห้องทำงานให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน จึงเป็นอีกหนึ่งโจทย์หลัก ที่จะช่วยให้เราสามารถทำงานอยู่ที่บ้านได้อย่างสบายกาย สบายใจ วันนี้ Esto เลยมีทริกการจัดแบบแปลน พร้อมกับเทกนิกการเลือกเฟอร์นิเจอร์ให้เหมาะกับ Home Office ของเรามาฝากกัน




จัดแปลนห้องทำงาน ให้เหมาะกับแบบบ้าน


มาเริ่มกันที่เทกนิกการจัดแบบแปลนกันก่อนเลย เพราะห้องทำงานหากจัดวาง Lay-out plan ไม่ดี จะก่อให้เกิดปัญหากระทบหลายส่วนด้วยกัน ทั้งรูปแบบรวมถึงฟังก์ชันการใช้งาน และพื้นที่ใกล้เคียงกัน เช่น หากจัดวางแบบแปลนห้องทำงานรวมภายในห้องนอน ต้องมีการคำนวณสัดส่วนของพื้นที่ทำงานให้อยู่เพียง 1 หรือ 0.5 ส่วนเท่านั้น 


ในกรณีที่บ้านมีขนาดเล็ก การจัดพื้นที่ห้องทำงานต้องมีการจัดวางให้เหมาะสม ซึ่งพื้นที่ที่เหมาะสมของห้องทำงาน ต้องมีบรรยากาศโดยรอบที่เงียบสงบ ดังนั้นการเลือกจัดห้องทำงานในห้องนอน จึงเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมสูงมากกว่าพื้นที่อื่น ๆ 


โดยรูปแบบการจัดคือให้เลือกมุมใดมุมหนึ่งของห้อง ซึ่งอาจเป็นมุมติดหน้าต่าง และมุมที่เยื้องกับปลายเตียงนอน และทำการ Buit-in โต๊ะ หรือเลือกใช้โต๊ะที่มีขนาดพอดีกับพื้นแทรกเข้าไป แน่นอนว่าการเว้นระยะทางสัญจรก็สำคัญ ควรให้มีขนาดทางเดินตรงการเฉลี่ย 0.80-1.20 เมตร ก็จะช่วยให้พื้นที่ภายในไม่อึดอัดจนเกินไป




เลือกเฟอร์นิเจอร์ให้เหมาะกับแบบแปลนห้องทำงาน


หลังจากเราพอจะรู้รูปแบบของการจัดวางแบบแปลนให้เหมาะกับพื้นที่ไปแล้ว สิ่งต่อมาที่ต้องทำความเข้าใจให้มากขึ้น คือการเลือกเฟอร์นิเจอร์ให้เหมาะกับแบบแปลนห้องทำงาน ซึ่งการเลือกเฟอร์นิเจอร์นี้เองจะเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้เราสามารถทำงานได้สะดวกมากขึ้น ภายในห้องทำงานของเราเอง


สำหรับการเลือกเฟอร์นิเจอร์ให้เหมาะกับแบบแปลนห้องทำงาน สิ่งแรกที่ต้องคิดถึงเป็นอันดับแรกคือพื้นที่ หากบ้านหลักเล็กและมีห้องจำกัด การแบ่งพื้นที่ส่วนใดส่วนหนึ่งเพื่อเพิ่มเติมฟังก์ชันพื้นที่ทำงานเข้าไป ต้องระมัดระวังในเรื่องของขนาด ดังนั้นเฟอร์นิเจอร์ที่เลือกควรเป็นแบบ Built-in ติดกับผนัง ซึ่งจะช่วยให้ลงตัวมากขึ้น 


ซึ่งในกรณีบ้านหลังใหญ่ที่มีพื้นที่และจำนวนห้องมากหน่อย อาจเลือกใช้ห้องหนึ่งห้องเปลี่ยนให้กลายเป็นห้องทำงาน โดยสามารถเลือกเฟอร์นิเจอร์ประเภทลอยตัวได้หลายชิ้นด้วยกัน ประกอบด้วยโต๊ะทำงาน เก้าอี้ทำงาน ชั้นวางหนังสือ หากมีพื้นที่เหลืออาจเลือกใส่ option มุมอ่านหนังสือเข้าไปด้วยโดยเลือกโซฟาแบบขนาดพอเหมาะ




เฟอร์นิเจอร์มีอยู่หลายแบบด้วยกัน


อย่างที่ทราบกันดีว่าทุกวันนี้มีเฟอร์นิเจอร์ให้เลือกหลายประเภทด้วยกัน และแต่ละประเภทเองก็มีคุณสมบัติข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นการเลือกประเภทของเฟอร์นิเจอร์ให้เหมาะกับแบบแปลนภายในห้องทำงานจึงมีความสำคัญ


ความจริงแล้วเฟอร์นิเจอร์มีอยู่หลายประเภทแยกย่อยออกไป แต่หลัก ๆ แล้วสามารถแบ่งออกได้ 3 ประเภท ประกอบด้วย 

  • เฟอร์นิเจอร์ลอยตัว (Movable Furniture) : เป็นประเภทของเฟอร์นิเจอร์ที่ถูกเลือกใช้งานมากที่สุด และมีรูปแบบ, ขนาด, ดีไซน์ หลากหลายด้วยเช่นกัน ไม่เพียงเท่านั้นยังเคลื่อนย้ายได้สะดวกและมีราคาไม่แพง
  • เฟอร์นิเจอร์ติดผนัง (Built-in Furniture) : นิยมใช้ภายในที่อยู่อาศัยทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ เพราะเฟอร์นิเจอร์ประเภทนี้จะเป็นการติดตั้งเข้ากับพื้นและผนังกำแพง โดยยึดติดกับโครงสร้างทำให้ไม่สามารถขยับเขยื้อนได้
  • เฟอร์นิเจอร์แบบประยุกต์ (Muti Furniture) : ถือเป็นประเภทของเฟอร์นิเจอร์ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน และจะมีลักษณะคล้ายกับเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว แต่ต่างตรงที่เฟอร์นิเจอร์ประเภทนี้ มีทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่อย่างผนังกำแพงที่สามารถเคลื่อนที่ได้นั่นเอง




การเลือกวางตำแหน่งภายในมีความสำคัญ


เมื่อเปิดประตูห้องเข้ามาต้องไม่มีสิ่งกีดขวางทางเดิน โดยเลือกจัดวางเฟอร์นิเจอร์ อย่างโต๊ะทำงาน หรือชั้นวางอุปกรณ์ให้อยู่ชิดมุมใดมุมหนึ่งของหนังกำแพง นอกจากนั้นการจัดวางโต๊ะทำงานให้หันหน้าไปทางประตู แต่ไม่ควรอยู่ตรงกับประตูทางเข้าเพราะจะทำให้เกิดความรู้สึกพะวงอยู่ตลอดเวลา


ส่วนทางด้านหลังของโต๊ะทำงานไม่ควรเปิดโล่งด้วยบานกระจกใส แต่ควรเลือกเป็นผนังทึบและเว้นช่องแสงอย่างพอดี จะช่วยให้เกิดความรู้สึกปลอดภัย และแสงสว่างจากช่องแสงที่ลอดเข้ามาจะช่วยให้บรรยากาศในห้องไม่อึดอัด และไม่สว่างจ้าจนเกินไป


ไม่เพียงเท่านั้นโต๊ะทำงานเป็นส่วนสำคัญมากที่สุด ดังนั้นนอกจากการจัดวางตำแหน่งให้ได้ระยะที่เหมาะสมแล้ว โต๊ะทำงานที่เลือกใช้ควรมีความโปร่งและมีขาโต๊ะที่มั่นคง โดยมีการออกแบบตามหลักสรีระศาสตร์ เพื่อช่วยรองรับร่างกายให้ไม่เกิดปัญหาต่อสุขภาพตามมาภายในอนาคต




ออกแบบช่องแสงให้เหมาะสม พร้อมกับเลือกใช้ดวงไฟ


สำหรับการออกแบบแสงสว่างภายในห้องทำงาน ต้องเน้นความสอดคล้องกับแบบแปลน โดยการเลือกจัดวางโต๊ะทำงานให้มีความสัมพันธ์กับแสงสว่างจากช่องแสงธรรมชาติอย่างเหมาะสม โดยเลือกหันโต๊ะทำงานในทิศเหนือและทิศตะวันออกเป็นหลัก เพราะเป็นทิศที่มีค่าแสงอ่อนกว่าทิศอื่น


นอกจากนั้นการเลือกติดตั้งดวงไฟเป็นอีกส่วนที่สำคัญ การติดตั้งดวงไฟบริเวณฝ้าเพดานต้องเน้นการกระจายให้ทั่วห้อง เพื่อให้ค่าแสงสว่างเฉลี่ยออกมาไม่เข้มจนเกินไป จนทำให้เกิดการเมื่อยล้าในการทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ ที่มีค่าแสงสว่างอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นการเลือกกระจายดวงไฟบนฝ้าเพดานให้ทั่วห้อง โดยการติดตั้งให้มีระยะห่าง 1 เมตร โดยประมาณ


อีกทั้งยังสามารถเลือกโคมไฟตั้งไว้บนโต๊ะทำงานได้ หรือที่เรียกเทกนิกว่า การส่องสว่างเฉพาะจุด โดยการวางโคมไฟตั้งโต๊ะไว้ที่มุมใดมุมหนึ่งของโต๊ะทำงาน เพื่อให้แสงสว่างจากโคมไฟเป็นแสงสว่างส่องเน้นความชัดเจน




จากไอเดียที่ Esto แชร์ไปเกี่ยวการจัดแบบแปลน และเลือกเฟอร์นิเจอร์ให้เหมาะสมนั้น หวังว่าจะเป็นประโยชน์ที่ให้กับใครหลาย ๆ คน ที่กำลัง Work from Home กันในช่วงนี้ สามารถนำไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ภายในพื้นที่อาศัยของตัวเองได้ ในสภาวะที่เราต้องเผชิญกับอันตรายรอบตัวเช่นนี้


เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร...?

Related Stories

Esto Talks

See All >

Living out loud

Living out loud : VANA RESIDENCE พระราม 9 - ศรีนครินทร์