รูปบทความ เปรียบเทียบเครื่องฟอกอากาศ Sharp ราคาถูก 6 รุ่น ในงบหลักพัน!

เปรียบเทียบเครื่องฟอกอากาศ Sharp 6 รุ่น ราคาถูกในงบหลักพัน!


Stay Home ทั้งที่ ต้องสูดอากาศบริสุทธิ์
ปลอดเชื้อไวรัส เครื่องฟอกอากาศ Sharp ช่วยคุณได้


เครื่องฟอกอากาศ Sharp เป็นเบอร์หนึ่ง ที่ขึ้นชื่อในเรื่องเทคโนโลยี Sharp Plasmacluster

ที่มา: th.sharp


อย่างที่ทราบกันดี ว่าเครื่องฟอกอากาศ Sharp เป็นเบอร์หนึ่ง ที่ขึ้นชื่อในเรื่องเทคโนโลยี Sharp Plasmacluster เป็นอย่างมาก ใครที่เป็นภูมิแพ้ หายใจไม่สะดวก เลี้ยงสัตว์ในบ้าน ถ้าติดตั้งเครื่องฟอกอากาศ Sharp ไว้ที่บ้านสักเครื่อง อาการต่าง ๆ ก็เรียกได้ว่าดีขึ้นจนสังเกตได้ หายใจกันแบบสะดวกเต็มปอดมากขึ้น แถมยังมีความสามารถในการฆ่าเชื้อไวรัส เชื้อรา กลิ่นอับต่าง ๆ ที่ติดตามพื้นผิวต่าง ๆ ภายในห้องได้อีกด้วย และแน่นอนว่ารุ่นของเครื่องฟอกอากาศ Sharp ก็มีให้เลือกเยอะเสียจนลายตา...วันนี้ Esto เลยขอหยิบยกรุ่นราคาถูกในงบหลักพัน 6 รุ่น มานำเสนอให้ได้ลองเลือกตัดสินใจกัน ไซซ์ไหนฟังก์ชันใดจะตรงใจเรามากที่สุด ติดตามกันจากบทความนี้ได้เลย




รีวิวเครื่องฟอกอากาศ Sharp ‘IG-EX20B’


เครื่องฟอกอากาศ Sharp IG-EX20B

เริ่มต้นรีวิวเครื่องฟอกอากาศ Sharp ตัวแรก กันด้วยรุ่นพกพา ที่เพิ่งออกมาใหม่ล่าสุดสด ๆ ร้อน ๆ กับเครื่องฟอกอากาศ Sharp รุ่น IG-EX20B บอกเลยตัวนี้ใช้บนโต๊ะทำงานที่ออฟฟิศเรียกได้ว่าเหมาะมาก ๆ จากที่ Sharp เคยออกเครื่องฟอกอากาศขนาดเล็กพกพาสำหรับรถยนต์มาแล้ว มาคราวนี้ถึงตาของรุ่นจิ๋วที่ใช้พกพาไปยังสถานที่ต่าง ๆ ได้บ้าง



  • ไม่ว่าจะเป็นรงแรมหรือที่พักต่างที่ หากใครกังวลว่าจะเกิดอาการแพ้ฝุ่นจนนอนไม่หลับ พกเครื่องฟอกอากาศ Sharp ติดตัวไปท่องเที่ยวด้วยรับรองอุ่นใจ เพราะใช้งานง่าย เพียงเสียบ USB เท่านั้น
  • หรือใครที่นั่งทำงานในออฟฟิศ บนโต๊ะมีทั้งเอกสารข้าวของมากมาย แน่นอนอยู่แล้วว่าเป็นที่สะสมของฝุ่น ถ้าเสียบเจ้าเครื่องฟอกอากาศ Sharp รุ่น IG-EX20b-W ไปด้วยระหว่างทำงานก็รับรองว่าฝุ่นจะไม่ได้เข้าใกล้ตัวคุณอย่างแน่นอน
  • บนรถก็สามารถเสียบเครื่องฟอกอากาศ Sharp รุ่น IG-EX20b-W ได้ด้วยเช่นกัน


มี Sharp Plasmacluster กำจัดอนุภาคในอากาศได้รวดเร็ว ให้ประสิทธิภาพในการขจัดเชื้อรา แบคทีเรีย และสารก่อโรคภูมิแพ้ที่ล่องลอยในอากาศ ฆ่าเชื้อไวรัสได้ ได้แก่ เชื้อไข้หวัดนก H5N1 และเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ได้ ทั้งยังช่วยสลายกลิ่นไม่พึงประสงค์ กลิ่นอับชื้นที่ติดอยู่ตามเบาะนั่งได้อีกด้วย ราคาเปิดตัวก็อาจจะมาแรงสักเล็กน้อย ถ้าเทียบกับการใช้งานในระยะเพียงแค่ 1.6 ตารางเมตร และอายุการใช้งานสูงสุดที่ 17,500 ชั่วโมง แต่ในแง่ของการพกพาไปใช้งานได้ด้วยทุกที่ บอกเลยว่าตัวนี้ชนะขาดลอย ใครที่เป็นภูมิแพ้ อยากให้อากาศบริสุทธิ์อยู่ติดตัวเราไปทุกที่ บอกเลยว่าต้องจัด





รีวิวเครื่องฟอกอากาศ Sharp ‘FP-F30TA’


เครื่องฟอกอากาศ Sharp FP-F30TA

ถัดมาที่รุ่นจิ๋วราคาน่ารักที่สุดในวันนี้ กับเครื่องฟอกอากาศ Sharp รุ่น FP-F30TA เครื่องนี้ถือว่าจิ๋วแต่แจ๋ว ด้วยราคาที่เรียกได้ว่าจับต้องได้สำหรับน้อง ๆ นักศึกษางบน้อย แต่ความสามารถเรียกได้ว่าไม่ด้อยไปกว่าเครื่องใหญ่ เพราะแน่นอนว่าเครื่องนี้แม้จะราคาถูก แต่ก็ยังมากับเทคโนโลยี Sharp Plasmacluster ซึ่งเป็นซิกเนอเจอร์ของเครื่องฟอกอากาศ Sharp ดังนั้นจึงยังคงความสามารถเบื้องต้นในการกำจัดเชื้อต่าง ๆ ได้เหมือนกัน เหมาะกับห้องขนาดเล็กอย่างหอพักและห้องนอนขนาด 21 ตารางเมตร ข้อเสียคือไม่มีแผ่นกรองขจัดกลิ่นคาร์บอน (แต่มีแผ่นกรองฝุ่น HEPA นะ) ทางด้านของเซ็นเซอร์ตรวจจับและสัญญาณเตือนต่าง ๆ ก็จะไม่ได้มีมาให้ ดังนั้นรุ่นนี้จะเหมาะกับการใช้งานทั่วไปในการกำจัดฝุ่นและเชื้อโรคต่าง ๆ เท่านั้น





รีวิวเครื่องฟอกอากาศ Sharp ‘FP-GM30B’


เครื่องฟอกอากาศ Sharp FP-GM30B

มาถึงรุ่นที่ 3 สำหรับเครื่องฟอกอากาศ Sharp รุ่น FP-GM30B เจ้าเครื่องนี้จะเพิ่มราคาขึ้นมาอีกสักหน่อย แต่ได้ฟังก์ชันที่น่าสนใจเพิ่มขึ้นมาพอสมควร หน้าตาเจ้าตัวนี้จะเหมือนกันกับรุ่นก่อนหน้า มาในโทนสีดำเข้ม ขนาดการใช้งานก็อยู่ที่ 21 ตารางเมตรเท่า ๆ กัน ความสามารถรวม ๆ จะเหมือนกันกับเครื่องฟอกอากาศ Sharp รุ่น FP-F30TA ทุกประการ แต่เครื่องฟอกอากาศ Sharp รุ่น FP-GM30B จะมีความสามารถในการดักจับยุง และมีสัญญาณแจ้งเตือนฝุ่นละออง 3 ระดับ เพิ่มเข้ามา ส่วนทางด้านของเทคโนโลยีในการกำจัดเชื้อโรคและแบคทีเรียต่าง ๆ ตามพื้นผิวอย่าง Sharp Plasmacluster ก็ยังคงมีมาให้อีกเช่นเคย ใครที่เอือมระอากับเสียงยุงที่บินอยู่ข้างหูทุกคืน ตัวนี้จะต้องกลายเป็นลูกรักที่คุณได้เปิดใช้งานในทุก ๆ คืนอย่างแน่นอน 





รีวิวเครื่องฟอกอากาศ Sharp ‘FP-J30TA’


เครื่องฟอกอากาศ Sharp FP-J30TA

ต่อกันที่เครื่องฟอกอากาศ Sharp รุ่น FP-J30TA รุ่นนี้ก็ถือเป็นรุ่นใหม่อีกรุ่น ที่มีดีไซน์น่ารัก มาในสีสันสดใส มีให้เลือกทั้งสีฟ้าและสีชมพู ส่วนใครชอบความเรียบง่ายแบบเบสิค สีดำก็ยังมีให้อยู่ ตัวนี้ราคาจะเพิ่มขึ้นมาจากเครื่องฟอกอากาศ Sharp รุ่น FP-F30TA ประมาณ 400 บาท แต่จะได้ขนาดการใช้งานเพิ่มขึ้นมา 2 ตารางเมตร, เพิ่มแผ่นคาร์บอนขจัดกลิ่น, เพิ่มเซ็นเซอร์ตรวจจับกลิ่นและฝุ่น และเพิ่มระบบ Off Time มาให้ และยังคงไว้ซึ่งระบบ Sharp Plasmacluster ดังนั้นสำหรับราคา 400 บาทที่เพิ่มขึ้นมา ก็เรียกว่าคุ้มค่าและสมเหตุสมผล ใครที่อยากได้ฟังก์ชันที่ครบครันมากขึ้น เพิ่มเงินอีกสักเล็กน้อย แล้วมาจัดเครื่องฟอกอากาศ Sharp รุ่น FP-J30TA ไปเลยรับรองไม่ผิดหวัง





รีวิวเครื่องฟอกอากาศ Sharp ‘FP-JM30B’


เครื่องฟอกอากาศ Sharp FP-JM30B

รุ่นดักจับยุงอีกรุ่นที่น่าซื้อ คือเครื่องฟอกอากาศ Sharp รุ่น FP-JM30B ตัวนี้ราคาเพิ่มขึ้นมาจากรุ่น FP-GM30B ประมาณเกือบ 2,000 บาทเลยทีเดียว จะได้ขนาดการใช้งานเพิ่มขึ้นมา 2 ตารางเมตร, เพิ่มแผ่นคาร์บอนขจัดกลิ่น, เพิ่มเซ็นเซอร์ตรวจจับกลิ่นและฝุ่นมาให้ มาพร้อม Sharp Plasmacluster ถ้าใครที่อยากได้ทั้งความสามารถในการดักจับยุง, กำจัดฝุ่น และขจัดกลิ่นแบบครบวงจร รุ่นนี้ก็ถือว่าคุ้มค่าที่จะซื้อ แต่หากใครที่เน้นใช้งานไปในเรื่องของการดักจับยุงและการกำจัดฝุ่นโดยเฉพาะเท่านั้น เลือกซื้อเป็นเครื่องฟอกอากาศ Sharp รุ่น FP-GM30B ก็น่าจะเป็นทางเลือกที่คุ้มค่ากว่า





รีวิวเครื่องฟอกอากาศ Sharp ‘FP-F40TA’


เครื่องฟอกอากาศ Sharp FP-F40TA

ปิดท้ายกับการเปรียบเทียบเครื่องฟอกอากาศ Sharp กันด้วยเครื่องฟอกอากาศ Sharp รุ่น FP-F40TA เครื่องนี้มาในราคาที่แรงที่สุด อยู่ที่ราว 7,000 บาท แต่สามารถใช้งานในห้องคอนโดขนาด 30 ตารางเมตรได้อย่างทั่วถึง อีกทั้งยังมาพร้อมโหมดนอนหลับ ที่ให้ระดับการทำงานของเครื่องที่เบา ไม่รบกวนการพักผ่อนของเราอย่างแน่นอน และกินไฟต่ำที่สุดจากทั้งหมด 6 รุ่นที่เรานำเสนอมาอีกด้วย ดังนั้นการเปิดใช้งานในระยะยาวก็ถือว่าประหยัดไฟและคุ้มค่ากว่าพอสมควร เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเปิดใช้งานเป็นประจำทุกวัน หรือเกือบตลอดทั้งวัน ตัวนี้มาพร้อมเซ็นเซอร์ตรวจจับฝุ่นละออง, สัญญาณเตือนระดับฝุ่นละออง 3 ระดับ, แผ่นกรองคาร์บอนขจัดกลิ่น, มาพร้อม Off Time และเทคโนโลยี Sharp Plasmacluster ใครที่เน้นประหยัดไฟในระยะยาว ลงทุนเครื่องนี้ไปเลยทีเดียวรับรองว่าคุ้มค่า 





จบไปแล้วสำหรับการเปรียบเทียบเครื่องฟอกอากาศ Sharp ทั้ง 6 รุ่น หวังว่าทุกคนจะมีตัวเลือกที่ชอบ ที่ช่วยให้การตัดสินใจซื้อนั้นง่ายขึ้น อย่างไรก็ตาม ปัจจัยหลัก ๆ ที่เราควรคำนึงถึงคืองบประมาณ และความต้องการใช้งานอย่างแท้จริง เพราะหากเราซื้อเครื่องที่มีราคาแพงไป แต่ไม่ได้ใช้งานในทุก ๆ ฟังชัน ก็ถือว่าเสียเปล่า และแน่นอนว่าการประหยัดมากเกินไป จนไม่ได้เครื่องที่ตอบโจทย์การใช้งาน ก็ถือเป็นการลงทุนที่เสียเปล่าไปอีกเช่นกัน ดังนั้น ก่อนจะเลือกซื้อควรคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ ให้รอบด้าน หวังว่าสุขภาพของทุกคนจะดีขึ้นในระยะยาว และมีความสุขกับการใช้ชีวิตท่ามกลางมลพิษรอบตัวได้มากขึ้นไม่มากก็น้อย


เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร...?

Related Stories

Esto Talks

See All >

Living out loud

Living out loud : VANA RESIDENCE พระราม 9 - ศรีนครินทร์