รูปบทความ รีวิว Mi Box S ดีไหม | Mi Box S มีข้อดี-ข้อเสียอะไรบ้าง

รีวิว Mi Box S ดีไหม | Mi Box S มีข้อดี-ข้อเสียอะไรบ้าง

ก่อนหน้านี้ Estopolis ได้รีวิว Mi TV Stick กล่องทีวีรุ่นเล็กไปที่มีการใช้งานหลากหลาย และได้นำเสนอการเปรียบเทียบ Mi TV Stick กับ Mi Box S ซึ่งจะมีความแตกต่างกันพอสมควร สำหรับบทความนี้ Estopolis จะมารีวิว Mi Box S ที่ต้องบอกก่อนเลยว่ามีประสิทภาพสูงมาก ใช้ระบบ Android ในการขับเคลื่อน และรองรับคุณภาพของภาพที่ระดับ 4K เลยทีเดียว 


ส่วนเรื่องการรับชมคอนเทนท์นั้นเรียกได้ว่าไม่มีปัญหาอะไรเลย สามารถรับชมได้อย่างลื่นไหล ต่อเนื่อง รับรองว่าจะต้องถูกใจคอซีรีส์แน่นอน แต่มีข้อแม้ว่าสัญญาณอินเทอร์เน็ตจะต้องอยู่อย่างต่อเนื่องเช่นกัน ซึ่งเพื่อนๆ สามารถอ่านรีวิว Mi Box S ได้ที่บทความนี้เลยค่ะ



รีวิว Mi Box S รูปลักษณ์ภายนอก


รีวิว Mi Box S ด้านรูปลักษณ์ภายนอก


ก่อนจะไปดูรีวิว Mi Box S ส่วนอื่น ขอเริ่มตั้งแต่แกะกล่องกันเลยดีกว่า ในกล่องเราจะได้รับตัวเครื่อง Mi Box S สาย HDMI อะแดปเตอร์สำหรับเสียบปลั๊กเป็นแหล่งพลังงานให้ตัวกล่อง และรีโมทคอนโทรล โดยรวมแล้วลักษณะคล้ายกับกล่องสัญญาณทีวีดิจิตอลทั่วไป


เริ่มต้นใช้งานตัวเครื่องด้วยการต่อตัวเครื่อง Mi Box S เข้ากับพอร์ต HDMI และต่อสายอะแดปเตอร์เข้าตัวกล่องให้เรียบร้อย โดยตัวกล่องสัญญาณจะไม่มีแบตเตอรี่ในตัวจำเป็นต้องต่อไว้ตลอดเวลาเพื่อการใช้งานอย่างต่อเนื่อง เมื่อต่อทั้งสองส่วนเรียบร้อยก็สามารถเริ่มใช้งานได้ทันที


ตัวกล่องจะมีลักษณะเรียบง่ายและไม่มีปุ่มควบคุมการทำงานใดๆ รวมไปถึงไม่มีลวดลายใดๆ เช่นกัน การควบคุมการทำงานทั้งหมดจะไปอยู่บนจอผ่านรีโมทคอนโทรล โดย Mi Box S จำเป็นต้องต่อสัญญาณไวไฟตลอดเวลาที่ใช้งานเช่นกัน


รีวิว Mi Box S ดูหนัง ดูซีรีส์


รีวิว Mi Box S เรื่องคุณภาพ


คนที่กำลังอ่านรีวิว Mi Box S อยู่นี้ หากเคยได้อ่านรีวิวของตัว Mi TV Stick จะเห็นว่ารุ่นเล็กจะรองรับความละเอียดของภาพอยู่ที่ Full HD เท่านั้น แต่ว่าเจ้า Mi Box S นั้นสามารถรองรับความละเอียดได้สูงสุดถึง 4K เลยทีเดียว แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับทีวีของเราด้วยว่าสามารถรองรับระบบ 4K ได้หรือไม่ ถ้าทีวีของเราไม่สามารถรองรับระบบ 4K ได้ แม้จะใช้ Mi Box S ก็จะได้ความละเอียดสูงสุดที่ทีวีรองรับอยู่ดี


ต่อมาที่เราจะรีวิว Mi Box S กันคือเรื่องการรับชมคอนเทนท์ที่เรียกได้ว่าไม่มีปัญหาอะไรเลย สามารถรับชมได้อย่างลื่นไหล ต่อเนื่อง รับรองว่าจะต้องถูกใจคอซีรีส์แน่นอน แต่มีข้อแม้ว่าสัญญาณอินเทอร์เน็ตจะต้องอยู่อย่างต่อเนื่องเช่นกัน


รีวิว Mi Box S ด้านประสิทธิภาพตัวเครื่อง


อย่างที่เราเคยเขียนไปในรีวิว Mi TV Stick หรือบทความเปรียบเทียบ Mi TV Stick กับ Mi Box S ที่ตัวรุ่นเล็ก หรือ Mi TV Stick นั้นไม่สามารถใส่ตัวประมวลผลชั้นสูงเท่า Mi Box S ได้ ทำให้การประมวลผลทีละมากๆ ยังทำได้ไม่ดีเท่า ทั้งนี้เนื่องจาก Ram ที่ใส่มามีความจุเล็กกว่านั่นเอง


ซึ่งตัว Mi Box S นั้นเรียกว่าไม่มีปัญหาในการรับชมคอนเทนท์เลย สามารถเรียกใช้งานได้อย่างลื่นไหลตลอดเวลา ยิ่งเชื่อมต่อกับสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่เร็ว แรง ยิ่งแทบไม่ต้องรอโหลดเลย


มาดูที่รีวิวรีโมทของเครื่อง Mi Box S กันบ้าง สำหรับตัวรีโมทจะไม่ได้มีปุ่มอะไรมากมาย การใช้งานหลักๆ คือการเลื่อนหาคอนเทนท์ที่ต้องการ เปิดปิดตัวกล่องสัญญาณ เพิ่มลดเสียง และใช้สำหรับเล่นเกมเท่านั้น แต่ที่พิเศษคือจะมีปุ่ม Google Assistant อยู่ด้วย โดยเราสามารถสั่งงานด้วยเสียงผ่านระบบนี้ได้ ทำให้การค้นหาคอนเทนท์สะดวกขึ้นไปอีก เซนเซอร์จับเสียงจะอยู่ในตัวรีโมท เราสามารถยกรีโมทขึ้นมาแทนไมโครโฟนแล้วสั่งการได้เลย


รีวิว Mi Box S ด้านการเล่นเกม


รีวิว Mi Box S ด้านการเล่นเกม


เมื่อรีวิว Mi Box S คุณภาพหนังไปแล้ว ตอนนี้เรามารีวิว Mi Box S ด้านการเล่นเกมกันบ้างดีกว่าค่ะ ส่วนใหญ่เกมใน Google Paly Store ที่ Mi Box S รองรับจะเป็นเกมเล็กๆ เล่นง่าย ไม่มีความซับซ้อนของกราฟิกและเอไอ ทำให้กินสเปคต่ำ เมื่อเล่นผ่าน Mi Box S ทำให้ไม่มีการกระตุกหรือสะดุดใดๆ ให้เห็น เรียกว่าสามารถเล่นเกมได้ลื่นพอๆ กับดูหนังเลยทีเดียว ทั้งนี้เกมทั้งหมดเราสามารถเล่นผ่านรีโมทคอนโทรลได้ แต่ใครที่ชื่นชอบการเล่นเกมบน Joystick ก็สามารถนำมาเชื่อมต่อกับตัวกล่องเพื่อใช้เป็นอุปกรณ์เล่นเกมได้เช่นกัน แต่มีข้อจำกัดว่าต้องเป็นจอยแบบ Bluetooth เท่านั้น


รีวิว Mi Box S เชื่อมต่อ Wi-Fi


รีวิว Mi Box S ด้านประสิทธิภาพการเชื่อมต่อ


สำหรับตัว Mi Box S นั้นใช้การเชื่อมต่อ Wi-Fi เป็นหลักและเป็นหัวใจของการทำงานทั้งหมดบนตัวเครื่อง ตราบใดที่ยังมีสัญญาณ Wi-Fi อยู่เรียกว่า Mi Box S จะสามารถทำงานได้ตลอดไป และตัวเครื่องมีระบบการจับสัญญาณ Wi-Fi ที่แม่นยำทำให้หมดปัญหาเรื่องการกระตุก การเน็ตหลุดแม้ว่าสัญญาณยังเปิดอยู่ไปได้เลย


ส่วนการเชื่อมต่อ Bluetooth ตัว Mi Box S นอกจากจะสามารถเชื่อมต่อกับ Joystick ได้อย่างที่ได้กล่าวไปแล้ว ยังสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมหลายๆอย่าง เช่น คีย์บอร์ด Bluetooth ที่จะมาช่วยให้เราพิมพ์ค้นหารายการคอนเทนท์ที่ต้องการดูได้สะดวกขึ้น จากปกติที่ต้องใช้รีโมทในการเลื่อนไปทีละตัวอักษร การพิมพ์ค้นหาในทีเดียวจะประหยัดเวลากว่ามาก


และนี่คือรีวิว Mi Box S หากให้เปรียบเทียบกับตัว Mi TV Stick แล้ว ตัวรุ่นพี่จะเหมาะสำหรับคอหนัง คอซีรีส์แบบสมบูรณ์เพราะตอบรับความต้องการทุกอย่างแบบไม่มีสะดุด ใช้งานได้ต่อเนื่อง ลื่นไหล และสะดวกสบาย แต่ถ้าใครที่ชื่นชอบการดูหนัง แต่ไม่ได้มีเวลาว่างมากนัก เพียงแค่ต้องการเอาไว้ใช้รับชมเป็นครั้งคราวเท่านั้น ก็สามารถเลือกซื้อแบบ Stick ไปรับชมได้ โดยราคาของทั้งสองรุ่นจะต่างกันที่ราวหนึ่งพันบาท แต่ประสิทธิภาพนั้นมีความต่างกันเล็กน้อย


จากรีวิว Mi Box S จะได้ภาษีดีกว่าตรง Ram ที่เยอะกว่า รองรับ 4K และสามารถต่ออุปกรณ์เสริมอย่างคีย์บอร์ดได้ ส่วน Mi TV Stick จะได้เปรียบเรื่องความกะทัดรัด และมีราคาที่ถูกกว่า



บทความที่เกี่ยวข้อง

เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร...?

Related Stories

Esto Talks

See All >

Living out loud

Living out loud : VANA RESIDENCE พระราม 9 - ศรีนครินทร์