เครื่องชงกาแฟแคปซูลยี่ห้อไหนดี Xiaomi, Nespresso, Tefal, Krups หรือ Duchess
20 August 2563
เคยมีคำกล่าวว่าหากเริ่มต้นวันได้ดี จะทำให้วันนั้นเป็นวันที่ดีไปทั้งวัน และคงเป็นการเริ่มต้นวันที่ดีมาก ถ้าเราได้ดื่มกาแฟร้อน ๆ อร่อย ๆ สักแก้วตอนตื่นนอนก่อนออกไปทำงาน หรือไปเรียน โดยยุคนี้เราไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องบดกาแฟ หรือแม้แต่การใช้กาแฟซองก็กลายเป็นเรื่องเก่าไปเสียแล้ว เพราะโลกเราได้ให้กำเนิด “เครื่องชงกาแฟแคปซูล” ที่สามารถสร้างกาแฟสุดวิเศษยามเช้าได้เพียงแค่ใส่แคปซูลกาแฟ และกดปุ่มเท่านั้น...โดยในบทความนี้ Esto จะแนะนำเครื่องชงกาแฟแคปซูลแบรนด์ชื่อดัง ว่ารุ่นไหนคุ้มค่ากับราคา และมีประสิทธิภาพการทำงานที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของเรา
เครื่องชงกาแฟแคปซูล Xiaomi Scishare
เครื่องชงกาแฟแคปซูล Scishare จาก Xiaomi นั้น แบ่งออกเป็นสองรุ่น คือ ‘รุ่นธรรมดา’ และ ‘รุ่นที่สามารถต่อสัญญาณ Wi-Fi ได้’ เพื่อควบคุมการทำงานผ่านสมาร์ทโฟนได้ ด้วยแอปพลิเคชัน Mi Home ซึ่งสามารถควบคุมได้ละเอียดมาก ๆ ทั้งปริมาณน้ำที่ใช้ ไปจนถึงการควบคุมระดับอุณหภูมิที่แม่นยำ เครื่องชงกาแฟแคปซูล Scishare จาก Xiaomi ใช้แคปซูลไซต์เล็กเท่ากับ Nespresso โดยสามารถใช้ของยี่ห้อไหนแทนก็ได้ ราคาไม่แพง อยู่ที่ประมาณแคปซูลละ 15-20 บาท
- ส่วนเรื่องการทำควาสะอาดนั้นทำได้ง่ายมาก เพราะสามารถถอดออกมาล้างได้ และตัวเครื่องจะนำแคปซูลกาแฟใช้แล้วเก็บลงไปในช่องสำหรับทิ้งที่สามารถถอดออกมาทิ้งภายหลังได้ ทำให้เราสามารถชงกาแฟแคปซูลแก้วต่อไปได้ทันทีโดยไม่ต้องเสียเวลาเอาแคปซูลของแก้วก่อนหน้าออก เพราะเครื่องชงกาแฟแคปซูล Scishare จาก Xiaomi จัดการให้เรียบร้อยแล้ว
เครื่องชงกาแฟแคปซูล Nespresso Essenza Mini
สำหรับ Nespresso นั้น เจาะตลาดเครื่องชงกาแฟแคปซูลอยู่แล้ว ทำให้มีหลายรุ่นให้เลือกซื้อกัน โดยแต่ละรุ่นจะมีการใช้งานที่แตกต่างกันไปตามความต้องการ บางคนอยากสตีมนมเพื่อทำ Latte Art ด้วย ก็มีรุ่นที่สามารถทำได้ ส่วนรุ่นที่ Esto เลือกมาในบทความนี้คือ รุ่น Essenza Mini เพราะเป็นรุ่นที่สามารถใช้งานได้ง่ายที่สุด มีหลายสีสันให้เลือก และไม่ต้องทำความเข้าใจมากเพียงใส่แคปซูล กดปุ่ม แล้วรอรับกาแฟได้เลย
- เครื่องชงกาแฟแคปซูล Nespresso Essenza Mini มีขนาดที่เล็กและเบามาก สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวกและไม่กินพื้นที่ รวมถึงมีดีไซน์สวยงามสามารถใช้ตกแต่งโต๊ะทำงานหรือห้องครัวได้ด้วย มีระบบทำความร้อนเร็วที่สามารถต้มน้ำเดือดได้ในเวลาไม่กี่วินาที และยังมีฟังก์ชันประหยัดพลังงานเมื่อไม่มีการใช้งานเป็นเวลา 3 นาที รวมถึงสามารถปิดเครื่องอัตโนมัติเมื่อไม่มีการใช้งาน 9 นาที สามารถถอดออกมาล้างได้ง่าย ทำให้รักษาความสะอาดได้ไม่ยาก
เครื่องชงกาแฟแคปซูล Tefal KP600E66
เป็นอีกแบรนด์ที่ไม่เคยพลาดเรื่องอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ Tefal นั้น มีเครื่องชงกาแฟแคปซูลให้เลือกหลายรุ่น โดยรุ่นที่เลือกมานำเสนอคือรุ่น KP600E66 ที่พิเศษตรงดีไซน์ที่สวยหรู แปลกตา แต่ยังคงความใช้งานง่าย ให้สามารถใช้งานได้อย่างรวดเร็ว
- เครื่องชงกาแฟแคปซูล Tefal KP600E66 สามารถทำเครื่องดื่มได้ทั้งแบบร้อนและเย็น ฐานรองปรับได้ 4 ระดับสำหรับรองรับถ้วยกาแฟขนาดต่าง ๆ ตัวเครื่องมีฝาปิดเปิดที่สามารถเปิดได้เพียงแค่สัมผัส การมีฝาปิดเปิดสามารถลดฝุ่นที่อาจเข้าไปในตัวเครื่องและลดพื้นที่ในการจัดเก็บเมื่อไม่ใช้งาน
เครื่องชงกาแฟแคปซูล Krups Piccolo XS KP1A0
เป็นแบรนด์ที่ไม่ค่อยคุ้นหูคนไทยนัก แต่ Krups เป็นแบรนด์ที่เจาะตลาดเครื่องชงกาแฟแคปซูลมากพอสมควร และยังมีการร่วมมือกับแบรนด์อื่นเพื่อสร้างเครื่องชงกาแฟแคปซูลแบบพิเศษออกมาหลายรุ่น โดยรุ่นที่เราเลือกมารีวิวกันคือรุ่น Piccolo XS KP1A0
- เครื่องชงกาแฟแคปซูล Krups Piccolo XS KP1A0 มีราคาถูกที่สุดในบรรดาที่เราหยิบมารีวิวกันวันนี้ แต่เรื่องประสิทธิภาพไม่แพ้แบรนด์อื่นเลย เพราะ Piccolo XS KP1A0 มีแรงดันถึง 15 บาร์ ทำให้เทียบเท่าเครื่องชงกาแฟขนาดใหญ่ได้เลย สามารถทำเครื่องดื่มจากแคปซูลได้ถึง 13 รสชาติทั้งกาแฟดำ กาแฟนม และ เครื่องดื่มอื่น ๆ ได้ง่าย ๆ เพียงแค่กดปุ่มเลือกโหมดสำหรับทำเครื่องดื่มร้อนหรือเครื่องดื่มเย็นได้ง่ายภายในเครื่องเดียว
เครื่องชงกาแฟแคปซูล Duchess CM6102R
Duchess เป็นเครื่องชงกาแฟแคปซูลที่มีดีไซน์คล้ายกับเครื่องทำกาแฟสมัยก่อน ดูคลาสสิก หรูหราแบบโบราณ แต่การใช้งานนั้นเปี่ยมด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ และยังมีแคปซูลกาแฟจาก Duchess ให้เลือกมากถึง 40 รสชาติ รวมถึงมีกาแฟจากประเทศให้เลือกด้วย
- เครื่องชงกาแฟแคปซูล Duchess CM6102R มีโหมดปิดอัตโนมัติ โดยตัวเครื่องจะเปลี่ยนเป็นโหมดปิดโดยอัตโนมัติ หลังจากที่ไม่ได้ใช้งาน 9 นาที สามารถถอดแยกเพื่อล้างทำความสะอาดได้ และสามารถประกอบใหม่ได้ง่ายไม่ยุ่งยาก การใช้งานง่ายเพียงแค่ใส่แคปซูลและกดปุ่ม สามารถรอรับกาแฟหอมอร่อย ที่คัดสรรมาอย่างดีจากแบรนด์ Duchess ได้เลย
- คลิก เช็คราคา Duchess CM6102R ที่ OfficeMate
และนี่ก็เป็นเครื่องชงกาแฟแคปซูลจาก 5 แบรนด์ที่ Esto หยิบมารีวิวสั้น ๆ ให้ผู้อ่านได้ทำความรู้จักกันในวันนี้ โดยทั้ง 5 รุ่นจะมีเอกลักษณ์โดดเด่นแตกต่างกันออกไป แต่สิ่งที่เหมือนกันคือคุณภาพในความง่ายเพียงแค่กดปุ่ม เพราะบางคนจะคิดว่าเครื่องชงกาแฟแคปซูลแบบนี้คงไม่สามารถทำกาแฟได้อร่อยเท่ากับการทำมือหรือซื้อจากร้านกาแฟ แต่หากได้ลองทานกาแฟแคปซูลสักครั้งแล้ว จะแยกไม่ออกเลยว่าแก้วไหนเป็นกาแฟชงมือ แก้วไหนเป็นกาแฟแคปซูล
*ส่วนลด ณ วันที่ 20/8/2563 ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้