เปลี่ยนอากาศมันยากเกินไป เปลี่ยนแอร์ใหม่ง่ายกว่าไหมเธอ...ซัมเมอร์นี้มาเลือกซื้อแอร์ใหม่ไปพร้อมกัน!

27 March 2562

ซัมเมอร์ปี 2019 กำลังจะมา จะเลือกแอร์ยี่ห้อไหนดีนะให้ตอบโจทย์กับอากาศอันแสนจะอบอ้าวของบ้านเรา?

วันนี้ ESTOPOLIS ของเราเลยจะมาบอกเคล็ดลับการเลือกซื้อไอเท็มที่จะช่วยต่อกรกับอุณหภูมิในหน้าร้อนของบ้านเราเย็นสบายและปลอดภัยจากฝุ่นที่เราเผชิญหน้ากันอยู่ทุกวันนี้ได้มากขึ้น!

#แอร์ยี่ห้อไหนดี 2019 นี้เลือกแอร์ใหม่ยังไงให้เย็น?

#เลือกแอร์ยี่ห้อไหนดี : 2019 นี้ต้องรู้จักขนาดห้องก่อน

สำหรับใครที่ไม่รู้ว่าจะเลือก ซื้อแอร์ยี่ห้อไหนดี ในปี 2019 นี้เราขอแนะนำให้คุณเริ่มจากการทำความรู้จักกับขนาดห้องขอคุณก่อน เพราะขนาดห้องจะสัมพันธ์กันกับขนาดของ BTU (บีทียู) แอร์ โดยค่า BTU เป็นหน่วยบอกความสามารถในกรถ่ายเทหรือดึงความร้อนออกจากห้อง และการทำความเย็นภายในห้องซึ่งคิดเป็นหน่วยต่อชั่วโมง (BTU/h) หากเลือก BTU ที่สูงหรือต่ำเกินไปก็มีผลทำให้คอมเพรสเซอร์นั้นทำงานหนักอาจทำให้แอร์นั้นมีอายุการใช้งานที่สั้นลงและสิ้นเปลืองพลังงานได้

สูตรการคำนวณ BTU และขนาดห้อง

ความกว้าง x ความยาว x 600 = ขนาด BTU ของแอร์

สมมติว่า ห้องกว้าง 4 เมตร ยาว 5 เมตร จะได้ 4 x 5 x 600 = 12,000 BTU

แต่ถ้าเป็นห้องเพดานสูงหรืออยู่ในทิศที่โดนแดดเป็นประจำ จะใช้เป็นสูตร ความกว้าง x ความยาว x 800 = ขนาด BTU ของแอร์

ESTOPOLIS แนะนำ :

คำนวณหาค่า BTU ง่ายๆ และแม่นยำมากขึ้นด้วยโปรแกรมจาก www.carrierthailand.com ได้เลยที่นี่แค่ >>> คลิก

#เลือกแอร์ยี่ห้อไหนดี : 2019 นี้ต้องรู้จักประเภทแอร์ที่เหมาะสม

รู้ขนาดของแอร์แล้ว คราวนี้เรามาดูกันดีกว่าว่าจุดประสงค์ของการเลือกซื้อแอร์ในครั้งนี้เพื่ออะไร จะติดตรงไหน ต้องการเลือกแบบแขวนผนัง ฝังฝ้า หรือแบบตั้งพื้นก็มีให้เลือกหลากหลาย ซึ่งก็ควรจะเลือกให้เหมาะสมกับพื้นที่ภายในห้องให้มากที่สุด

เช่น นางสาว A ไม่รู้ว่าจะเลือกซื้อแอร์ยี่ห้อไหนดี แต่รู้ว่าตัวเองอยู่อาศัยในคอนโด และต้องการแอร์ขนาด 12,000 BTU จากการคำนวณพื้นที่ ดังนั้นก็ต้องเลือกให้เข้ากับขนาดห้องที่เล็กในแบบคอนโด ด้วยการเลือกแอร์ใหม่ที่มีขขนาดกะทัดรัด ดีไซน์สวย ถ้าจะติดเข้ากับห้องนอนอาจจะต้องเลือกเป็นแอร์ Inverter ที่ช่วยประหยัดไฟ เดินเครื่องเงียบ และเน้นสร้างอุณหภูมิคงที่เหมาะกับการนอน

#เลือกแอร์ยี่ห้อไหนดี : 2019 นี้ต้องรู้จักค่า EER

หลายคนชอบถามว่าจะเลือกแอร์ยี่ห้อไหนดีที่จะช่วยประหยัดไฟ นี่เลย! เราต้องรู้จักกับค่า EER (Energy Effi ciency Ratio) ซึ่งเป็นค่าวัดประสิทธิภาพของเครื่องปรับอากาศในการใช้พลังงาน ถ้าค่า EER ยิ่งสูงแสดงว่าแอร์ที่เราซื้อมากินไฟน้อย โดยในปัจจุบันค่า EER จะอยู่ที่ 11 ดังนั้นแอร์รุ่นไหนมีค่า EER สูงกว่า 11ขึ้นไป ก็จัดเป็นแอร์ที่ผ่านเกณฑ์ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน (ฉลากเบอร์ 5) จำไว้ว่า “ค่า EER ยิ่งสูง ยิ่งกินไฟน้อย นั่นเอง"

นอกจากค่า EER แล้ว ยังมีค่า SEER (Seasonal Energy Efficiency Ratio) ซึ่งเป็นค่าที่ใช้วัดประสิทธิภาพในการใช้พลังงานตามฤดูกาลของเครื่องปรับอากาศ โดยนำค่าการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศมาพิจารณาด้วย ทำให้ได้ค่าที่ใกล้เคียงสภาพการใช้งานตามความเป็นจริง) ยิ่งค่า SEER สูงแสดงว่ายิ่งประหยัดไฟมากขึ้น ดังนั้นเวลาจะเลือกซื้ออร์ยี่ห้อไหนก็อย่าลืมดู 2 ค่านี้ไว้รับรองว่าจะได้แอร์ตัวใหม่ที่ช่วยประหยัดไฟอย่างแน่นอน

#เลือกแอร์ยี่ห้อไหนดี : 2019 นี้ต้องรู้จักโหมดการทำงานอย่างละเอียด

ก่อนจะถามว่า เลือกแอร์ยี่ห้อไหนดีถึงจะประหยัดไฟหรือเย็นฉ่ำ เราควรจะรู้จักกับระบบกาารทำงานหรือวิธีการปรับแอร์อย่างถูกตองกันเสียก่อน เพราะบางทีที่แอร์ตัวเดิมของคุณทำงานไม่มีประสิทธิภาพอาจจะเกิดจากการเลือกโหมดการทำงานผิดก็ได้ (ศึกษาวิธีการปรับแอร์ให้ตรงความต้องการได้ที่ ปรับแอร์ให้เย็นอย่างถูกวิธี อีกหนึ่งช่องทางในการประหยัดค่าไฟในหน้าร้อน)

#เลือกแอร์ยี่ห้อไหนดี : 2019 นี้ต้องรู้จักนวัตกรรมใหม่ๆ

นอกจากเรื่องของความเย็นแล้ว 'นวัตกรรม' ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เราตัดสินใจเลือกแอร์ยี่ห้อไหนดีที่จะช่วยทำให้อากาศภายในห้องดีขึ้น

ยกตัวอย่างเช่น การแก้ปัญหาเรื่องของฝุ่นควันที่เป็นปัญหาใหญ่ของประเทศไทยในขณะนี้ที่มีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน (หรือ PM 2.5) ซึ่งทำให้คนไทยเสี่ยงต่อการเป็นโรคทางเดินหายใจเรื้อรัง โรคปอดอุดตัน โรคหัวใจขาดเลือด หรือมะเร็งปอด ด้วยนวัตกรรมปรับอากาศให้ใสสะอาดมากขึ้นด้วยเครื่องปรับอากาศแบบใหม่

อย่าง ‘nanoe™’ เทคโนโลยีที่คิดค้นขึ้นมาเพื่อให้แอร์สามารถทำความสะอาดให้กับอากาศได้ ก็ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่ไม่รู้ว่าจะซื้อแอร์ยี่ห้อไหนดี ก็อาจจะเลือกซื้อจากฟังก์ชันเสริมที่ช่วยยกระดับชีวิตของคุณให้ดีมากขึ้นได้ด้วยเช่นกัน

สุดท้าย การจะเลือกแอร์ยี่ห้อไหนดีในปี 2019 นี้ต้องขอบอกว่า แต่ละยี่ห้อมีข้อดีเหมือนกันหมด เพียงแต่อาจจะต้องหาข้อแตกต่างของฟังก์ชันเสริมต่างๆ ทั้งระบบการทำงานที่เน้นความเงียบ, ความทนทาน, ความสะอาดของอากาศ เป็นต้น หรือเช็กค่า SEER/EER ช่วยประหยัดไฟ หรืออาจจะรวมไปถึงค่า R32 ซึ่งเป็นสารทำความเย็นที่ส่งผลต่อโลกร้อนน้อยกว่าสารทำความเย็นตัวอื่นถึง 3 เท่า ฯลฯ