รูปบทความ ทำความรู้จักคอนโดแบบ Leasehold กับ Freehold ว่าแตกต่างกันอย่างไร

ทำความรู้จักโครงการคอนโดแบบ Leasehold กับ Freehold แตกต่างกันอย่างไร

คอนโดแบบ Leasehold กับ Freehold คืออะไร แล้วมันแตกต่างกันอย่างไรนะ?


สำหรับหลายๆคนที่มีความคิดจะซื้อคอนโดสักห้อง ทั้งเพื่ออยู่อาศัยเองหรือเพื่อการลงทุน หรือเป็นคนที่มีความสนใจในด้านอสังหาริมทรัพย์ หรือมีความรู้เรื่องกองทุนอสังหาริมทรัพย์ ก็อาจจะเคยได้ยินคำศัพท์ 2 คำคือ Freehold กับ Leasehold โดยเฉพาะกับโครงการอสังหาริมทรัพย์ใหญ่ๆหรือโครงการคอนโดมิเนียม บางคนอาจจะไม่รู้ว่าสองอย่างนี้คือะไร ต่างกันอย่างไร หรือบางคนอาจจะเคยได้ยินแล้ว แต่ยังไม่รู้วิธีการว่าเราจะทราบได้อย่างไรล่ะ ว่าโครงการที่เราสนใจเป็นแบบ Leasehold หรือ Freehold


เริ่มแรกเรามาทำความรู้จักกับคอนโดมิเนียม Freehold และ Leasehold ทั้ง 2 แบบนี้กันก่อน


1. คอนโดมิเนียมแบบ Leasehold

คอนโดมิเนียมแบบ Leasehold ก็คือโครงการคอนโดที่สร้างบนที่ดินที่เช่ามา คือเจ้าของโครงการไม่ได้มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินนั้นๆ โดยส่วนใหญ่ก็จะมีสัญญาเช่าในระยะยาว เช่น 30 ปี ถ้าหากเราซื้อคอนโดแบบLeasehold นี้เราก็จะได้รับเป็นหนังสือสัญญาเช่าระยะยาวระหว่างผู้ซื้อกับเจ้าของโครงการ จะไม่ได้เป็นการโอนกรรมสิทธิ์ให้เรา แต่จะได้เป็นกรรมสิทธิ์ในการอาศัย เมื่อครบกำหนดสัญญาการเช่ากรรมสิทธิ์ในอาคารก็จะตกเป็นของเจ้าของที่ดิน โครงการแบบนี้ส่วนใหญ่จะเป็นโครงการที่อยู่ในที่ดินทำเลทอง เช่นโครงการที่ก่อสร้างบนที่ดินทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เป็นต้น 


2. คอนโดมิเนียมแบบ Freehold

โครงการคอนโดมิเนียมแบบ Freehold ก็คือคอนโดที่เจ้าของโครงการ หรือบริษัทผู้พัฒนาโครงการเป็นผู้ที่ถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์นั้น สามารถทำการซื้อขายได้ และมีการโอนกรรมสิทธิ์ไปยังผู้ซื้อคอนโด ซึ่งโดยส่วนใหญ่โครงการคอนโดมิเนียมทั่วไปก็จะเป็นโครงการในลักษณะแบบนี้ คือDeveloper เจ้าของโครงการจะมากว้านซื้อที่ดินที่ต้องการจะพัฒนา และจึงเริ่มเปิดการขาย ดังนั้นเมื่อเราซื้อคอนโดแบบ Freehold จะได้กรรมสอทธิ์เป็นหนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด (อ.ช.2) ที่ออกโดยกรมที่ดิน เราสามารถมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินของโครงการตามสัดส่วนการถือครอง และมูลค่าทรัพย์สินของเราก็จะเพิ่มขึ้น และสามารถทำการซื้อขายต่อได้อย่างปกติ


คอนโดแบบ Freehold กับ Leasehold มีข้อดี ข้อเสียต่างกันอย่างไร


ความแตกต่างระหว่างโครงการคอนโดมิเนียมแบบ Freehold และ Leasehold นั้น นอกจากในเรื่องของกรรมสิทธ์การถือครองแล้ว ก็ยังเกี่ยวกับเรื่องของการบริหารจัดการโครงการด้วย เพราะโครงการคอนโดแบบ Freehold ที่เปิดขายและโอนกรรมสิทธิ์ให้กับผู้ซื้อคอนโดตามกฎหมาย มีการจดทะเบียนเป็นอาคารชุด ก็จะต้องมีการจัดตั้งคณะกรรมการนิติบุคคลอาคารชุดขึ้น เมื่อเริ่มมีการโอนกรรมสิทธิ์เป็นของผู้ซื้อ เจ้าของโครงการจะทำหน้าที่ในการขายห้องชุดคอนโด แต่อำนาจในการบริหารจัดการโครงการก็ต้องอยู่ที่คณะกรรมการนิติฯ และเจ้าของร่วม


ส่วนโครงการคอนโดแบบ Leasehold นั้นไม่สามารถจดทะเบียนอาคารชุดได้ เมื่อเราซื้อคอนโดแบบนี้ก็จะไม่ได้หนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด โครงการคอนโดมิเนียมแบบ Leasehold ส่วนใหญ่ก็จะเป็นโครงการที่อยู่ในทำเลที่มี Demand สูง เช่น CBD หรือย่านที่มีความเจริญมากๆ เจ้าของโครงการที่ทำคอนโดแบบ Leaseholdส่วนใหญ่ก็มักจะเน้นการเปิดขายให้กับชาวต่างชาติ เพราะไม่ต้องกังวลกฎหมายข้อบังคับเรื่องการถือครองอสังหาริมทรัพย์ในประเทศ คอนโดแบบ Leasehold ชาวต่างชาติสามารถถือครองได้แบบไม่มีข้อจำกัด ต่างกับคอนโดแบบ Freehold ที่กำหนดให้ชาวต่างชาติถือครองได้ในอัตรา 49% ของจำนวนยูนิตทั้งหมด


เมื่อทราบความแตกต่างของโครงการคอนโดแบบ Leasehold และ Freehold กันไปแล้ว ก่อนจะตัดสินใจซื้อตอนที่เข้าไปดูข้อมูลโครงการก็ลองสังเกตุว่าการเปิดการขายของคอนโดเป็นอย่างไร เจ้าของโครงการเปิดขายเองหรือไม่ ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นอย่างไร หากโครงการอยู่ในทำเลทอง มีความต้องการสูงมากๆ หรือมีการใช้เอเจนซี่เปิดขายให้ชาวต่างชาติเยอะๆ ก็ให้สอบถามกับทางโครงการให้ดีก่อนว่าเป็นคอนโดแบบ Freehold หรือ Leasehold หากต้องการซื้อเพื่อลงทุนในคอนโด ซื้อมาขายไป ปล่อยเช่าต่างชาติแบบคำนวณผลกำไรไว้แล้ว ก็อาจจะพิจารณาบริบทโดยรวมและซื้อคอนโดแบบ Leasehold ได้ แต่หากใครที่ต้องการซื้อเอาไว้เป็นสมบัติหรืออยู่อาศัยเองก็ต้องดูโครงการคอนโดแบบ Freehold

เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร...?

Related Stories

Esto Talks

See All >

Living out loud

Living out loud : VANA RESIDENCE พระราม 9 - ศรีนครินทร์