รูปบทความ คิดผิดคิดใหม่! ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการประหยัดค่าเดินทาง

คิดผิดคิดใหม่! ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการประหยัดค่าเดินทาง


ในชีวิตประจำวันของเรานั้น มักเต็มไปด้วยรายจ่ายต่าง ๆ มากมายที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ หนึ่งในรายจ่ายที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันมากที่สุด ต้องยกให้ “ค่าเดินทาง” เพราะแม้มื้ออาหารในแต่ละวันจะเป็นรายจ่ายที่พึงมี แต่เราก็ยังสามารถหลีกเลี่ยงด้วยการปรุงทานเอง หรือด้วยวิธีอื่น ๆ ได้ ในขณะที่ การเดินทางนั้น ไม่ว่าจะใช้รถยนต์ส่วนตัว หรือรถสาธารณะ ก็ย่อมต้องมีค่าใช้จ่ายด้วยกันทั้งสิ้น แถมยังเป็นรายจ่ายที่ไม่สามารถกำจัดออกไปได้อีกด้วย


เมื่อจะเป็นรายจ่ายที่ไม่สามารถตัดออกไปได้ แต่เรายังสามารถลดค่าใช้จ่ายตรงนี้ลงได้ การลดค่าเดินทางหรือประหยัดค่าเดินทางนั้น คงเป็นสิ่งที่มนุษย์เงินเดือนหลายคนฝันอยากทำให้สำเร็จ ซึ่งวิธีการประหยัดค่าเดินทางโดยง่ายก็คือการเปลี่ยนวิธีการเดินทาง เช่น ถ้าปกติแล้วเดินทางด้วยรถแท็กซี่ หรือวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่เป็นการขนส่งแบบไม่ประจำทาง ส่งเราคนเดียวจนถึงที่หมาย ก็ลองเปลี่ยนมาเป็นการใช้เส้นทางขนส่งสาธารณะอย่างรถเมล์หรือรถไฟฟ้าดูแทน ก็จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายลงไปได้มาก


แต่ใช่ว่าเส้นทางขนส่งสาธารณะจะประหยัดค่าใช้จ่ายได้ดีที่สุดเสมอไป เพราะเมื่อถึงคราวที่เราไม่ได้เดินทางเพียงลำพัง แต่เดินทางเป็นกลุ่ม การโดยสารแบบไม่ประจำทางกลับถูกกว่าเสียอย่างนั้น หรือหากเราคำนึงเรื่องการประหยัดค่าใช้จ่ายมากจนกระทบถึงเวลาอันจำกัด อาจทำให้เสียโอกาสบางอย่างไปได้ เช่นนี้ถือว่าเป็นการประหยัดที่ไม่ถูกวิธีเสียทีเดียว


ในบทความนี้ Esto ขอนำเสนอ ‘ความเข้าใจผิดเรื่องการประหยัดค่าเดินทาง’ มาดูกันว่าวิธีไหนบ้างที่เป็นความเข้าใจผิด และควรจะวางแผนการเดินทางนั้นอย่างไรให้ดีที่สุด




ประหยัดเงิน แต่เสียเวลา


เมื่อนึกถึงเรื่องการประหยัดค่าเดินทาง ขนส่งมวลชนอย่างรถเมล์, รถไฟฟ้า หรือเรือ คงเป็นตัวเลือกแรก ๆ ในความคิดของใครหลาย ๆ คน ด้วยค่าบริการที่น้อยอย่างที่เราต้องการ แถมยังสามารถเดินทางไปได้ไกล อีกทั้งปัจจุบันก็ยังมีเส้นทางขนส่งสาธารณะครอบคลุมแทบจะทั่วประเทศแล้ว ตัวเลือกนี้จึงเป็นตัวเลือกการลดค่าเดินทางที่ไม่แย่นักและได้ผลจริง


แต่ต้องยอมรับว่าเส้นทางขนส่งสาธารณะทุกประเภทนั้น ในช่วงเวลาเร่งด่วนอย่างตอนเช้าและหลังเลิกงาน ต้องใช้ระยะเวลาในการเดินทางมากกว่าการเดินทางแบบไม่ประจำทางเป็นเท่าตัว เพราะการจราจรที่ติดขัดหนาแน่น และผู้คนที่พากันไปใช้บริการเสียจนเกินความสามารถในการรองรับ เมื่อเป็นเช่นนั้น หากในช่วงเวลาที่จำกัด การดึงดันจะใช้รูปแบบการเดินทางสาธารณะเหล่านี้ อาจทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายได้ แต่มีโอกาสเดินทางไปยังที่หมายไม่ทันสูง


หรือแม้บางคนเพียงแค่อยากไปเที่ยวพักผ่อน ไม่ได้นัดหมายกับใครจนต้องรีบไปให้ทันเวลานัดหมาย แต่หากลองคิดดูแล้ว ถ้าคุณออกเดินทางตั้งแต่เช้า แต่กลับถึงที่หมายตอนเที่ยงหรือบ่าย ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่พระอาทิตย์กำลังทำงานหนัก สภาพอากาศคงจะไม่อำนวยให้เดินเที่ยวอย่างสบายใจได้อีกต่อไป ดังนั้นบางครั้ง การยอมจ่ายแพงกว่าเพื่อซื้อเวลาสักหน่อยนั้น ก็คุ้มค่าที่จะเสีย




เดินทางหลายคน โดยสารไม่ประจำทางประหยัดกว่า


เมื่อเราต้องเดินทางกันเป็นกลุ่ม เป็นหมู่คณะ แน่นอนว่าเส้นทางสาธารณะนั้นสามารถรองรับได้เพียงพออยู่แล้วแต่อาจจะต้องรอกันสักเล็กน้อย หากคำนวณดูแล้ว สมมุติว่า เรากับเพื่อนอีกสองคน ต้องการไปสถานที่แห่งหนึ่งด้วยการใช้รถไฟฟ้า เสียค่าใช้จ่าย 40 บาทต่อคน แม้อาจจะดูเป็นจำนวนที่ไม่ผิดปกติ แต่เมื่อรวมกันแล้วสามคนนี้เสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางรอบนี้ไป 120 บาท แต่เมื่อสามคนนี้เปลี่ยนมาใช้บริการรถแท็กซี่ ค่าโดยสารอยู่ที่ 100 บาท เมื่อหารเท่ากันสามคน อยู่ที่คนละ 33 บาท ก็จะถูกกว่าการนั่งรถไฟฟ้าถึง 7 บาทต่อคน


เพราะฉะนั้นแล้ว ความคิดที่ว่าเส้นทางขนส่งสาธารณะนั้นถูกที่สุด ประหยัดค่าเดินทางที่สุด อาจจะไม่เป็นความจริงในทุกสถานการณ์เสียทีเดียว ในบางช่วงเวลา เช่น กลางดึกที่การจรจรเริ่มจะโล่งแล้ว หรือพื้นที่บางแห่งที่ไม่มีปัญหาเรื่องการจราจรอยู่แล้ว เมื่อเดินทางด้วยรถโดยสารไม่ประจำทางกับกลุ่มเพื่อนแล้ว ช่วยประหยัดเงินได้มากกว่า




ส่วนลด สิทธิประโยชน์ ช่วยลดค่าเดินทางได้มากกว่าที่คิด


แม้เรื่องการเลือกรูปแบบการโดยสารเป็นเรื่องสำคัญที่ควรคำนึง แต่เมื่อบางสถานการณ์ที่บีบบังคับให้เราต้องเลือกช่องทางการโดยสารที่แพงกว่าเพื่อเดินทางให้ทันเวลา จะดีแค่ไหน หากเรามีส่วนลดค่าเดินทางอยู่ในมือ ให้เราสามารถเลือกช่องทางที่แพงกว่าได้ และประหยัดเวลากว่า โดยที่ลดค่าใช้จ่ายลงได้จริง


เมื่อเรามีบัตรเครดิตที่ใช้เป็นปกติในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว และมันยังสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้เราได้ด้วยจะดีขึ้นแค่ไหน แนะนำให้ลองหาบัตรเครดิตที่มอบส่วนลดการเดินทางได้อย่างเห็นผลจริงอย่าง Citi Cash Back ของธนาคาร Citibank เพราะมอบเงินคืนให้ถึง 11% เมื่อใช้จ่ายซื้อตั๋วเดินทางที่ BTS และ MRT หรือช่วงเร่งด่วนมากอยากเดินทางด้วยรถส่วนตัวด้วยบริการ Grab บัตรใบนี้ก็มอบเงินคืน 5% ให้ทันทีที่จ่ายค่าโดยสารผ่านบัตร กระทั่งมีรถส่วนตัว Citibank Citi Cash Back ใบนี้ ก็ยังมอบเงินคืน 1% เมื่อเติมน้ำมันที่ปั๊มเชลล์อีกด้วย


เรียกได้ว่าใบเดียว ครบ ประหยัดสำหรับการเดินทาง และตอบโจทย์คนเมืองได้มากทีเดียว


เพราะเราจะได้เงินคืนในทุกรูปแบบการเดินทาง ทั้งรถไฟฟ้าทั้งบนดินและใต้ดิน ไปจนถึง Grab แถมบัตรใบนี้ยังมอบเงินคืน 11% ที่ร้านกาแฟ Amazon ไว้กินระหว่างเดินทาง และเงินคืน 5% ที่ร้าน Watson และ Boots เผื่ออยากซื้อของติดรถไว้ หรือของจำเป็นเมื่อไปเที่ยวพักผ่อน บัตรใบนี้ก็มอบให้หมด ครบจบจริง ๆ


เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร...?

Related Stories

Esto Talks

See All >

Living out loud

Living out loud : VANA RESIDENCE พระราม 9 - ศรีนครินทร์