5 วิธีใช้ชีวิตรักษ์โลกที่สามารถเริ่มได้ด้วยตัวเรา
17 February 2563
เราเข้าสู่ยุคอุตสาหกรรมไม่ถึง 200 ปี แต่สร้างขยะที่ต้องใช้เวลาย่อยเกือบ 1,000 ปีทุกวัน
ในทุกวันจะมีขยะเกิดขึ้นไม่น้อยกว่า 1.15 กิโลกรัมต่อคนซึ่งหมายความว่าเราต้องใช้พลังงานมากมายเพื่อจัดการขยะเหล่านั้นด้วย นับเป็นวิธีการที่สร้างผลเสียให้กับโลกอย่างเป็นลูกโซ่ เป็นวงจรที่ต่อเนื่องกัน ดังนั้น Esto จึงพาทุกคนมาดูว่า นอกจากการลดการสร้างขยะแล้ว เรายังสามารถช่วยเหลือโลกแบบที่สามารถทำในชีวิตประจำวันแบบไหนได้อีกบ้าง
ลดการใช้ไฟฟ้า
หลายคนอาจจะสงสัยว่าการปิดไฟหรือประหยัดไฟสามารถช่วยโลกได้อย่างไร
การลดการใช้ไฟฟ้าเป็นการลดการใช้พลังงานซึ่งพลังงานในประเทศไทยเราส่วนใหญ่สร้างจากก๊าซธรรมชาติและถ่านหินที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกมาก และในตอนที่เราได้ร่วมกันทำโครงการ Earth Hour หรือการปิดไฟหนึ่งชั่วโมง เราก็สามารถลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงได้ถึง 1,474 ตันเลยทีเดียว ซึ่งเป็นมูลค่าถึง 7.6 ล้านบาท
ดังนั้นหากเราใช้ไฟฟ้าน้อยลง นอกจากจะประหยัดค่าไฟบ้านเราแล้ว ยังสามารถช่วยลดก๊าซเรือนกระจกให้โลกได้ด้วย เป็นประโยชน์ที่ได้สองต่อเลย
ลดการสร้าง เพิ่มตัวกรองคาร์บอน
แม้ว่าการประหยัดไฟจะช่วยลดคาร์บอนได้บางส่วนแล้ว แต่ก็ยังไม่พอสำหรับโลกใบนี้ เพราะยังมีส่วนอื่นๆ มากมายที่เป็นกิจกรรมสร้างคาร์บอนหรือก๊าซเรือนกระจกอื่นๆ เช่น การใช้รถยนต์
แต่ในเมืองหลวงอย่างกรุงเทพนี้การเดินทางไม่ได้สะดวกหรือเอื้ออำนวยให้เราไปใช้ขนส่งสาธารณะได้เลย ยังไม่ต้องพูดถึงอายุการใช้งานรถโดยสารสาธารณะที่บางคันก็มากกว่ารถเราด้วย แต่ถึงอย่างนั้นลองใช้รถส่วนตัวให้น้อยลงสัก 1 วัน แล้วเรามาปลูกต้นไม้ทดแทนกัน เพราะไม่ว่าบ้านหรือคอนโดของคุณจะอยู่ที่ใดก็ตาม การปลูกต้นไม้เพียง 1 ต้นก็สามารถช่วยสร้างตัวกรองอากาศได้แล้ว
ตามข้อมูลของมูลนิธิสืบ นาคะเสถียรแล้วต้นไม้ 1 ต้นสามารถดักจับอนุภาคมลพิษบางชนิดได้เช่น ฝุ่น ควัน ไอพิษต่างๆ ได้ถึง 1.4 กิโลกรัมต่อปี และยังสามารถปล่อยก๊าซออกซิเจนได้ถึง 200,000-250,000 ลิตรต่อปี รองรับการหายใจของมนุษย์ได้ถึง 2 คนต่อปีเพราะความต้องการออกซิเจนของเราอยู่ที่ 130,000 ลิตรต่อคนต่อปี ต้นไม้ยิ่งอายุมายิ่งสามารถดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้เยอะ
ลดการใช้สิ่งของแบบครั้งเดียวทิ้ง
เราควรเริ่มต้นให้คุณค่ากับสิ่งของที่เราใช้มากขึ้นด้วยการให้มันได้ทำหน้าที่อย่างถึงที่สุด จนกว่าจะตายในหน้าที่แล้วเราก็ชุบชีวิตไม่ไหวกันไปข้างหนึ่งเลย เพื่อลดการสร้างขยะที่ต้องใช้เวลาย่อยสลายเป็นร้อยปี และยังเป็นการช่วยสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้นได้ด้วย เพราะประเทศไทยเรายังติดอันดับทะเลสวยและน่าเที่ยว แต่ในขณะเดียวกันก็ติดอันดับประเทศที่ปล่อยขยะลงทะเลมากที่สุดเป็นอันดับ 6 ของโลกด้วย
ลดการใช้สารเคมีในชีวิตประจำวัน
สารเคมีที่เราใช้ในชีวิตประจำวันเริ่มเข้ามีบทบาทในชีวิตของเรามากขึ้นตั้งแต่เริ่มเข้าสู่ยุคอุตสาหกรรม มันเข้ามาเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับชีวิตของเรา แต่ตอนนั้นเราไม่รู้เลยว่าการใช้สิ่งพวกนั้นจะสร้างผลเสียให้กับสิ่งแวดล้อมได้ในระยะยาว หากไม่มีการจัดการที่ดีเมื่อเราปล่อยเขากลับสู่ธรรมชาติ
ยกตัวอย่างเช่น การซักผ้า เราใช้ทั้งน้ำยาซักผ้า น้ำยาปรับผ้านุ่ม บางครอบครัวอาจจะมีการใช้น้ำยาขจัดคราบหรืออื่นๆ สิ่งพวกนี้เป็นสารเคมีที่เหมือนปนเปื้อนลงไปในน้ำมากเข้าโดยไม่มีการบำบัดที่ถูกวิธี สามารถทำให้น้ำเน่าได้ ในช่วงที่ไม่ควรจะเกี่ยงกันนี้ลองเปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติกันดูบ้าง นอกจากทำให้ธรรมชาติแล้ว ยังทำให้คุณห่างไกลจากสารเคมีได้ด้วย
Upcycle
เป็นคำศัพท์เกิดใหม่ที่มีขึ้นเพื่อเรียกของเก่าที่เราประดิษฐ์ขึ้นมาใหม่ให้สามารถทำหน้าที่อื่นๆ ได้เป็นประโยชน์มากขึ้น มากกว่าการรีไซเคิลขึ้นไปอีก ส่วนใหญ่จะเปลี่ยนหน้าที่ของสิ่งนั้น เพิ่มทั้งอายุการใช้ งานและมูลค่าให้กับมันได้ด้วย
สนใจอยากดูไอเดียการ Upcycle เพิ่มเติมได้ที่นี่ แต่งห้องให้สวยอย่างรักษ์โลกด้วย Upcycling
หลายคนอาจจะไม่สะดวกจะทำทั้ง 5 ข้อนี้ แต่หากเราสามารถปรับเปลี่ยนชีวิตประจำวันทำได้สักข้อหรือสองข้อก็นับว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีมากแล้ว เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับคนรุ่นหลังต่อไปได้อยู่ในโลกที่สามารถอยู่อาศัยได้อย่างปลอดโปร่ง
บทความที่น่าสนใจ
อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมด้วยการปิดไฟ 1 ชั่วโมง ...ช่วยโลกได้อย่างไรบ้าง ?
จากแนวคิด Zero waste สู่ เฟอร์นิเจอร์รักษ์โลก ช่วยลดปัญหาขยะและมลพิษ
คำอธิษฐานจากวันนี้สู่อนาคต: ขอให้เรารักษ์สิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน
เปลี่ยนคอนโดของคุณให้เป็นคอนโดรักษ์โลก ด้วยการเลือกใช้วัสดุสังเคราะห์
ผลวิจัยเผย ปี 2050 กรุงเทพฯ เสี่ยงจมน้ำ?