"ยอมแพ้" ทำความรู้จักกับอีกด้านของคำนี้ที่เราต้องใช้ให้เป็น
17 March 2563
การยอมแพ้ บางครั้งก็ต้องใช้ความกล้าหาญเช่นกัน
ในหลายสถานการณ์ที่เรามักจะประเมินให้ตัวเองกลายเป็นผู้แพ้ แล้วความรู้สึกตอนนั้นก็จะมีแต่การดูถูกตัวเอง และสงสัยในความสามารถของตัวเอง ทั้งที่ความจริงการแพ้ ไม่ว่าจะเป็นยอมแพ้หรือพ่ายแพ้ก็ไม่ได้ลดความสามารถของตัวเราให้ต่ำลงเลยแม้แต่น้อย หากเราสามารถให้คุณค่ากับการแพ้น้อยลง และมองให้กว้างมากขึ้น การยอมแพ้และรู้จักแพ้อาจกลายเป็นเส้นทางสู่ความสำเร็จก็เป็นได้
วันนี้ Esto จึงอยากพาคุณมาเปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับคำว่าแพ้ ให้กลายเป็นความหวังในรูปแบบใหม่ เป็นอย่างไร มาดูกัน
นิยามของ “ยอมแพ้”
ชีวิตของเรามีหลายด้าน แต่ละด้านยังมีเรื่องราวที่ซ่อนอยู่ไม่เหมือนกัน การกำหนดนิยามและขอบเขตของชัยชนะและการพ่ายแพ้ของแต่ละคนจึงต่างกันออกไป เราไม่สามารถเอาบรรทัดฐานของสังคมหรือคนอื่นมาตัดสินได้ว่า ตอนนี้คุณกำลังเป็นคนแพ้หรือเป็นคนชนะ เพราะมันอยู่ที่ตัวคุณเองว่า สิ่งเกิดขึ้นเป็นสิ่งที่เรียกว่า แพ้ หรือแค่พักไว้ก่อน หรือเป็นการยอมรับว่าสิ่งนี้ไม่ใช่เรา แล้วก้าวต่อไป
วัตถุประสงค์ของการยอมแพ้
แพ้ไม่ได้หมายความว่าเป็นจุดจบ ตราบใดที่คุณไม่คิดจะหยุดก้าวไปข้างหน้า
การยอมแพ้อาจจะยอมรับได้ง่ายกว่าเมื่อคุณรู้ว่าเหตุผลจริงๆ ที่คุณยอมแพ้คืออะไร เพราะการยอมแพ้ ในบางครั้งก็เหมือนกับการก้าวต่อไป โดยเฉพาะกับคนที่ทำอะไรหลายอย่าง การยอมแพ้ในบางสิ่งอาจหมายถึงการเพิ่มโอกาสให้อีกอย่างไปถึงจุดหมายได้มากขึ้น ซึ่งแปลว่าคุณกำลังแพ้เพื่อชนะ และยังมีการยอมแพ้เพื่อเหตุผลต่างๆ อีกมากมายที่สามารถทำให้คุณก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมีเป้าหมายได้ชัดมากขึ้น
ความพ่ายแพ้คือส่วนหนึ่งของชัยชนะ
ไม่เคยสิ้มรสของความพ่ายแพ้ คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าชัยชนะหอมหวานขนาดไหน
คนที่ได้เริ่มทำอะไรบางอย่างไม่มีใครที่ไม่เคยสัมผัสกับล้มเหลวหรือพ่ายแพ้มาก่อน เพราะทั้งสองอย่างที่อยู่ตรงข้ามกนนี้มันเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน เมื่อคุณได้รับความล้มเหลวหรือพ่ายแพ้ ก็แปลว่าคุณได้ไอเทมหรือบทเรียนที่จะช่วยสานต่อความสำเร็จให้คุณได้ เหมือนที่ ทอมัส เอดิสัน ประดิษฐ์หลอดไฟ แทนที่เขาจะบอกว่าล้มเหลวเป็นพันครั้ง ก็เปลี่ยนมุมเป็นการเรียนรู้หนทางที่ไม่สำเร็จเป็นพันครั้งแทน และเมื่อพยายามต่อ บทเรียนทั้งพันครั้งก็สร้างความสำเร็จให้เขาได้ในที่สุด
ข้อแนะนำเมื่อคุณต้องแพ้
ยอมแพ้ครั้งหนึ่งยังไม่ตาย เราแค่เริ่มใหม่อีกครั้งก็แปลว่าการต่อสู้ยังไม่จบ
ยอมรับเถอะว่าในชีวิตนี้เราต้องแพ้ อย่างไรก็ต้องเจอกับความพ่ายแพ้เข้าสักวันหนึ่ง หากมองว่า การยอมแพ้เป็นเรื่องทางลบที่ยิ่งใหญ่ การก้าวต่อไปก็จะลำบาก ลองมองว่ามันเป็นส่วนสำคัญที่ต้องเกิดขึ้น หรือบางครั้งอาจจะขอบคุณตัวเองบ้างที่ยอมแพ้เป็นก็ไม่ใช่เรื่องแย่อะไรเลย เพียงแค่ต้องมองภาพใหญ่และก้าวต่อไปสู่เป้าหมายที่คุณต้องการ
การยอมแพ้จะเป็นเรื่องยากมากขึ้นเมื่อคุณฟังคำตัดสินของคนอื่นหรือใช้ความหมายในอุดมคติมาตัดสินตัวเองว่าการยอมแพ้ คือเรื่องขี้ขลาด ที่มักจะมาพร้อมกับคำถามที่ว่า “ เราพยายามเต็มที่แล้วหรือยัง” ซึ่งบางครั้งเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าขีดจำกัดของเราอยู่ตรงไหน แต่หากว่ามันยังคาใจ เราลองมาเริ่มใหม่โดยเรียนรู้จากครั้งที่แล้วดูก็ไม่แย่นะ
บทความที่น่าสนใจ
อ่าน-หนัง-ฟังเพลง มีอะไรน่าสนใจใน 'มีนา'
#saveเงินในกระเป๋า ด้วยวิธีประหยัดพลังงานง่าย ๆ
Wednesday win while work กับซีรีส์ที่ให้ข้อคิดเรื่องการทำงาน
จริงไหม ? Fast Fashion = Fast Disaster เเล้วอะไรที่เรียกว่า Fast Fashion
6 ไอเดีย จัดห้องนอนเล็กให้น่าอยู่มากขึ้น ในราคาประหยัด