ท่องทำเลเมืองปากน้ำ ผ่านรถไฟฟ้าสายสีเขียว สำโรง - สมุทรปราการ
21 December 2561
ในเมืองที่รถติดอย่างกรุงเทพและปริมลฑล ผู้คนคงอยากพึ่งพาความสะดวกและรวดเร็วของ 'รถไฟฟ้า' เส้นทางคมนาคมที่จะทำให้เราควบคุมเวลาชีวิตได้อย่างลงตัว แน่นอนว่า...แผนการสร้างรถไฟฟ้าแต่ละสายที่กำลังค่อย ๆ เป็นรูปเป็นร่างนั้น นอกจากจะทำให้ความสะดวกสบายเพิ่มมากขึ้นแล้ว ยังช่วยเชื่อมต่อและกระจายความแออัดในเมืองใหญ่ให้ค่อย ๆ ขยายออกไปยังพื้นที่ต่างๆ ทำให้เราได้กลิ่นอายของความเจริญจากกรุงเทพสู่เมืองรอบนอกชัดเจนขึ้น
อย่างรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียวส่วนต่อขยาย แบริ่ง-สมุทรปราการ ที่เพิ่งเปิดให้บริการไปเมื่อวันที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยตลอดแนวเส้นรถไฟฟ้าสายนี้จะเชื่อมต่อจากสถานีแบริ่ง วิ่งเหนือถนนสุขุมวิทมุ่งหน้าสู่จังหวัดสมุทรปราการ รวมระยะทางกว่า 12.8 กิโลเมตร ตั้งแต่คลองสำโรงไปจนถึงสถานีไฟฟ้าย่อยบางปิ้งเกิดเป็น 9 สถานีใหม่ ยิ่งไปกว่านั้นคือ...ในช่วงเวลาทดลองเดินรถตลอด 4 เดือนนี้เราจะสามารถใช้บริการได้แบบฟรีๆ ทั้งขาไป ขากลับ
และวันนี้ Estopolis ก็จะพาทุกคนไปสำรวจพื้นที่รอบๆ สถานี พร้อมสัมผัสและทำความรู้จักกับเมืองสมุทรปราการไปด้วยกัน ว่าจะมีการพัฒนาและโอกาสเติบโตขึ้นมากน้อยแค่ไหน เหมาะจะกลายเป็นทำเลคุณภาพในอนาคตเพียงใด
เพียง 21 นาทีจากสำโรงถึงอโศก
สมุทรปราการ ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งอุตสาหกรรมการประมงและการท่องเที่ยว จึงส่งผลให้วิถีชีวิตของผู้คนในย่านนี้ยังคงความเรียบง่าย ผสมผสานไปกับความทันสมัยที่ค่อยๆ แทรกซึมเข้ามาทีละนิด ด้วยทำเลที่ติดแม่น้ำเจ้าพระยาทำให้เราเห็นภาพพัฒนาการที่สอดคล้องกับความงดงาม แม้จะเป็นจังหวัดที่ตั้งของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ, พระสมุทรเจดีย์กลางน้ำ หรือมีศูนย์การค้าต่างๆ เกิดขึ้นใหม่มากมายขนาดไหน แต่เรากลับสัมผัสได้ถึงความใกล้ชิดธรรมชาติ ที่หาไม่ได้จากตัวเมืองกรุงเทพ
รถไฟฟ้าขบวนนี้จะพาเราเข้าไปสัมผัสกับเมืองสมุทรปราการ ยิ่งผ่านเข้าไปในทำเลที่ลึกมากขึ้นเท่าไหร่ เราจะค่อย ๆ เห็นภาพลักษณ์ย่านต่าง ๆ ในสมุทรปราการ ที่แตกต่างกันไป ซึ่ง Estopolis ของเราก็ได้แบ่งออกเป็น 3 ทำเล 9 สถานี โดยแต่ละพื้นที่ก็มีแลนด์มาร์คที่น่าสนใจต่างกันออกไปด้วย
Starting point : สำโรง - ปู่เจ้า - ช้างเอราวัณ เปิดประตูสู่เมืองปากน้ำ
เริ่มต้นการเดินทางครั้งนี้ด้วยการขึ้นรถไฟฟ้าผ่าน 3 สถานีแรก เราจะเห็นภาพของย่านการค้าใหญ่, อาคารพาณิชย์ โรงงานอุตสาหกรรมและจุดเชื่อมต่อไปยังถนนต่าง ๆ ที่สำคัญ ทำให้ย่านนี้มีความเป็นชุมชนที่อยู่อาศัยชัดเจน แม้ในยามสายก็ยังคึกคักไปด้วยผู้คน
สถานีสำโรง
สถานีตั้งอยู่ระหว่างแยกเทพารักษ์และสะพานข้ามคลองสำโรง ซึ่งเป็นสถานีแรกที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่เดือนเมษายน เป็นเหมือนแหล่งเชื่อมต่อของผู้คนที่เข้าออกตัวเมืองสมุทรปราการ ด้วยเหตุผลนี้ทำให้เราเห็นภาพความเจริญเติบโตของสำโรงได้ชัดเจนมากกว่าสถานีอื่น
แม้สถานีนี้จะอยู่ไกลจากย่านการค้าออกไปหน่อย แต่ก็มีสกายวอร์กที่เชื่อมให้เราเดินเข้าสู่ศูนย์การค้าได้โดยตรง ถึงทางเดินจะยาวไปเสียหน่อยแต่ก็ทำให้เราใช้ชีวิตได้สะดวกมากขึ้น
แลนด์มาร์กแรกที่เราพบเมื่อเดินไปตามทางสกายวอร์กก็คือ อิมพิเรียล เวิลด์ และ บิ๊กซี ซุปเปอร์เซ็นเตอร์ สำโรง ซึ่งสองที่นี้จะตั้งอยู่ด้วยกันเป็นแหล่งรวมตัวที่มักจะถูกนึกถึงเป็นอันดับแรกๆ เหมาะสำหรับคนทุกเพศ ทุกวัย
ภายในได้รวบรวมสินค้าจากแบรนด์ดังไว้มากมาย ทั้งเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย,อุปกรณ์และเครื่องใช้ไฟฟ้า ,ศูนย์บริการลูกค้าและร้านอาหารต่าง ๆ รวมไปถึงโรงภาพยนตร์ขนาดใหญ่ และปัจจุบันห้างนี้กำลังจะปรับปรุงการตกแต่งต่าง ๆ ให้ดูร่วมสมัยมากขึ้น เพื่อรับกับการเปลี่ยนแปลงที่มาพร้อมกับรถไฟฟ้า
สำหรับพื้นที่รอบข้างอิมพิเรียลเวิลด์สำโรงนั้นจะมีตลาดกระจายตัวอยู่ รวบรวมสินค้าไว้มากมายหลากหลายชนิด โดยเฉพาะ ตลาดสำโรง เซนเตอร์ ตลาดสดที่ตั้งอยู่โดดเด่นและเห็นได้ชัดตั้งแต่เราเดินอยู่บน สกายวอร์ก
ซึ่ง สำโรง เซนเตอร์ จะแบ่งสินค้าออกเป็นโซนต่าง ๆ เช่น โซนเสื้อผ้า อุปกรณ์ที่ใช้ในบ้าน และเครื่องใช้ไฟฟ้ามากมาย
และในบริเวณใกล้เคียงกันก็จะมี ตลาดใหม่สำโรง เป็นตลาดสำหรับซื้อของสด ทั้งเนื้อสัตว์และผักต่าง ๆ ครบครัน อีกทั้งยังเป็นแหล่งฝากชื่อดัง ตอกย้ำให้สำโรงเป็นประตูเมืองสำหรับสัญจรเข้าออกที่สำคัญของสมุทรปราการ นอกจากนั้นแล้วสถานีสำโรงยังเป็นสถานีปลายทางของรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ซึ่งเป็นเส้นทางระหว่างลาดพร้าวถึงสำโรงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ยิ่งทำให้การเดินทางเข้าสู่กรุงเทพยิ่งง่ายขึ้น
สถานีปู่เจ้า
ปูเจ้าเป็นสถานีที่มีความเป็นย่านโรงงานและแหล่งที่อยู่อาศัยรวมกัน เพราะความอยู่ใกล้กับสถานีสำโรงทำให้ยังมีลักษณะเป็นชุมชนอยู่บ้าง นอกจากนั้นยังเป็นแหล่งโรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ ทั้งเครื่องยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้า จะมีให้เห็นอยู่สองข้างทาง ซึ่งแปลว่ามีผู้คนที่ทำงานในโรงงานอาจจะอาศัยอยู่ในแถบนี้เป็นจำนวนมาก
สถานีช้างเอราวัณ
แม้จะชื่อสถานีช้างเอราวัณ แต่แลนมาร์คที่ทุกคนรู้จักอย่าง พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ จะปรากฏให้เห็นชัดขณะเราอยู่บนรถไฟฟ้าระหว่างสถานีปู่เจ้า และสถานีช้างเอราวัญ ซึ่งเมื่อเราเดินทางมาถึงสถานีจริง ๆ แล้วพื้นที่โดยรอบจะเป็นที่อยู่อาศัยอย่างบ้าน ผสมกับโรงงานอุตสาหกรรมโดยรอบ แต่ก็เริ่มมีคอนโดจับจองพื้นที่ในการสร้างอยู่ไม่น้อย
Break point : โรงเรียนนายเรือ - ปากน้ำ - ศรีนครินทร์ ย่านส่วนกลางวิถีชุมชน
เมื่อรถไฟฟ้าแล่นเข้าสู่ทำเลถัดมา ความรู้สึกก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เมื่อรอบข้างจะค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นย่านที่อยู่อาศัย ที่ดูจะหลีกหนีความวุ่นวายจากการเป็นเมืองใหญ่ได้เป็นอย่างดี เมื่อมองไปทางขวาผ่านหน้าต่างของรถไฟฟ้าจะเริ่มขนานด้วยแม่น้ำเจ้าพระยา ขนาบข้างด้วยแลนด์มาร์คหลายอย่างของจังหวัดสมุทรปราการ
สถานีโรงเรียนนายเรือ
แน่นอนว่าเมื่อลงจากรถไฟฟ้ามาแล้วเราจะพบกับโรงเรียนนายเรือ สถาบันอุดมศึกษาที่ตั้งเด่นอยู่ใกล้กับริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยรอบยังเป็นพิพิธภัณฑ์ทหารเรือ และเริ่มเห็นส่วนราชการต่าง ๆ ของสมุทรปราการเล็กน้อย
สถานีปากน้ำ
สถานีที่ตั้งอยู่ข้าง ๆ กับวิทยาลัยสารพัดช่างสมุทรปราการ ซึ่งจริง ๆ แล้ว เอกลักษณ์ของสมุทรปราการ คือการมีแม่น้ำเจ้าพระยาแบ่งจังหวัดออกเป็นสองฝั่ง นอกจากนั้นชื่อ ปากน้ำ ยังได้มาจากการเป็นเมืองที่อยู่ปากแม่น้ำเจ้าพระยา สู่อ่าวไทย ทำให้สมุทรปราการเป็นเมืองท่าที่ยังโดดเด่นด้วยสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย
เมื่อเราเดินผ่านจากสถานีไปอีกนิดจะพบกับส่วนราชการ ทั้งศาลากลางจังหวัด ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา มีสถานที่พักผ่อนหย่อนใจให้นั่งเล่นรับลมในยามบ่าย เรายังสามารถเห็นทั้งเรือสินค้า เรือโดยสาร และเรือข้ามฟากแล่นอยู่ตลอดเวลา และยังมีแลนด์มาร์คเป็น หอชมเมือง ที่เราจะสามารถเห็นมุมมองของปากน้ำได้จากมุมสูง แต่ยังต้องรอเพื่อชื่นชมความงามอีกสักพัก เพราะตอนนี้หอดูเมืองยังไม่ได้เปิดให้บริการ
และถ้าอยากสัมผัสความเป็นเมืองปากน้ำที่แท้จริง ก็ต้องไปสัมผัสแหล่งตลาดที่เป็นเหมือนศูนย์รวมชุมชน ที่ตั้งอยู่ห่างจากสถานีไปอีกหน่อย เราสามารถทั้งเดินเท้า นั่งสองแถว หรือแม้กระทั่งนั่งแท็กซี่ไปก็ได้ เราจะเริ่มเห็นเอกลักษณ์ของย่านตลาดที่ชัดเจนจากห้างทองต่าง ๆ ซึ่งมีให้เห็นตลอดสองข้างทาง
เมื่อเข้าสู่แหล่งชุมชนแล้วจะเริ่มเห็นวิถีชีวิตของคนสมุทรปราการ ทั้งวิธีการเดินทางด้วยสามล้อถีบ และยังเป็นแหล่งที่ตั้งของเรือข้ามฟากไปฝั่งพระสมุทรเจดีย์ ชีวิตของผู้คนที่เรียบง่าย เป็นธรรมชาติ และไม่แออัดมากนัก ทำให้รู้สึกปลอดโปร่ง
ทำเลของปากน้ำทำให้สองข้างทางเป็นตลาดที่ขายของสดทั้งจากแม่น้ำและทะเลอ่าวไทย และของสดธรรมดาอย่างเช่นเนื้อหมู เนื้อไก่ ผักสดต่าง ๆ หรือของทะเลตากแห้ง ความอุดมสมบูรณ์ทำให้ย่านปากน้ำดูเป็นเมืองที่อาจเจริญเติบโตได้อีกมากในอนาคต
สถานีศรีนครินทร์
สถานีที่ยังอยู่ในเขตปากน้ำ ที่ยังคงมีส่วนราชการอยู่บ้าง อยู่บริเวณสะพานข้ามคลองบางปิ้ง และสามแยกการไฟฟ้าสมุทรปราการ โดยรอบยังเป็นย่านที่อยู่อาศัย โดยหลังจากสถานนี้ไปเส้นทางของรถไฟฟ้าจะขนานกับคลองบางปิ้งไปตลอดเส้นทาง
Ending point : แพรกษา - สายลวด - เคหะฯ ใจกลางเมืองใหม่แห่งอนาคต
เมื่อรถไฟแล่นมาถึงสามสถานีปลายทาง สิ่งแรกที่สัมผัสได้คือทำเลที่มีโอกาสจะเจริญเติบโตมากที่สุด เพราะมีทั้งพื้นที่และศูนย์การค้า ไกลออกไปก็เป็นย่านของโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งยังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของผู้คน ซึ่งเห็นได้จากอพาร์ตเมนต์ให้เช้าที่เริ่มก่อตัวหนาแน่นขึ้นเรื่อย ๆ เป็นสัญญาณที่ดีของการกลายมาเป็นศูนย์กลางของการใช้ชีวิตของคนสมุทรปราการ
สถานีแพรกษา
แพรกษาเป็นเหมือนใจกลางเมืองแห่งใหม่ ที่โดดเด่นคือทั้งสองฝั่งของสถานีแพรกษายังเป็นทำเลที่เหมาะแก่การใช้ชีวิตเพราะมีเครื่องอำนวยความสะดวกที่ครบทุกด้าน ทั้งโรงเรียน ปั๊มน้ำมัน และร้านค้าเล็กใหญ่โดยรอบ
นอกจากนั้น ด้านที่ขนานกับคลองบางปิ้ง เป็นที่ตั้งของ โรบินสันสมุทรปราการ แหล่ง Lifestyle Center ที่รวบรวมเอาร้านค้าต่าง ๆ เพื่อตอบสนองชีวิตทุกด้าน ทั้งการชอปปิง ซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านกาแฟ และโรงภาพยนตร์ อีกฝั่งหนึ่งจะเป็นห้างบิ๊กซี ซุปเปอร์เซ็นเตอร์ สมุทรปราการ เป็นซุปเปอร์มาร์เก็ตที่รวบรวมสินค้าเครื่องใช้ประจำวันต่าง ๆ
สถานีสายลวด
สถานีที่โดยรวมแล้วยังไม่มีสิ่งปลูกสร้างเพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ต่าง ๆ มากนัก พื้นที่ส่วนมากยังเป็นเหมือนย่านที่อยู่อาศัย โดยจะเห็นว่ามีอพาร์ตเมนต์เกิดขึ้นมากเพื่อให้ผู้ที่ทำงานในระแวกเดียวกันได้เช่าอยู่ เนื่องจากมีราคาที่ไม่สูงและอยู่ใกล้ที่ทำงาน
สถานีเคหะฯ
สถานีสุดท้ายของ รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียวเข้มส่วนต่อขยาย แบริ่ง-สมุทรปราการ ที่จะเปิดให้บริการในปี 2561 ก่อนที่จะมีสถานีอื่น ๆ เพิ่มเติมขึ้นอีก 5 สถานีในอนาคต
โดยสิ่งที่น่าสนใจของสถานีเคหะคือที่จอดรถที่รองรับได้มากถึง 1,200 คัน และยังเปิดใช้บริการฟรี!! เช่นเดียวกับรถไฟฟ้า แต่จะสงวนสิทธิ์เพื่อผู้ใช้รถไฟฟ้าเท่านั้น ทำให้สถานีนี้เป็นจุดเชื่อมต่อให้ผู้คนเดินทางออกจากสมุทรปราการไปยังกรุงเทพ หรือผู้ที่อยากท่องเที่ยวพักผ่อน หลีกหนีความวุ่นวายของเมืองในวันว่างก็เหมาะสม
นอกจากการเป็นทำเลคุณภาพในตอนนี้แล้ว รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียวเข้มส่วนต่อขยาย แบริ่ง-สมุทรปราการ ยังถูกคาดการณ์ว่าจะกลายเป็นรถไฟฟ้าสายที่รองรับการท่องเที่ยวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในสมุทรปราการ เพราะกำลังจะถูกต่อเติมอีก 5 สถานีที่มุ่งตรงสู่สถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ โดยตรง
โดยอีก 5 สถานีที่กำลังจะเปิดใช้บริการในปี 2564 นั้นคือ สถานีสวางคนิวาส , สถานีเมืองโบราณ , สถานีศรีจันทร์ประดิษฐ์ , สถานีบางปู และสถานีตำหรุ โดยทั้งเส้นทางจะผ่าสถานที่ท่อเที่ยวสำคัญของสมุทรปราการเช่น เมืองโบราณ เมืองแห่งการจำลองสถาปัตยกรรมต่าง ๆ เอาไว้ภายในที่เดียว หรือ สถานตากอากาศบางปู สถานที่ท่องเที่ยวที่เราจะได้สัมผัสกับธรรมชาติ และชมนกทะเลหลายชนิด เป็นต้น
โดยรวมทำเลของ รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียวเข้มส่วนต่อขยาย แบริ่ง-สมุทรปราการ นั้นยังเป็นทำเลที่ข้ามเกี่ยวกับความเป็นเมืองและวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมของผู้คน ทำให้สมุทรปราการกลายเป็นเมืองที่กำลังเจริญเติบโตมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อีกทั้งยังเป็นเมืองท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยธรรมชาติที่ต่างจากเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพ โดยเราจะสัมผัสเมืองปากน้ำได้โดยตรงผ่านการซื้อบัตรรถไฟฟ้าฟรีที่สถานีสำโรง แล้วเดินทางสำรวจย่านเมืองใหม่แห่งนี้ แล้วจะเห็นศักยภาพของทำเลเมืองปากน้ำ ที่จะพัฒนาเป็นเมืองใหญ่แห่งใหม่ได้ในอนาคต