"ช่างชุ่ย" ไปยังไง? แหล่งรวมคนครีเอทีฟและรักการชอปปิ้ง
4 July 2560
“ช่างชุ่ย” เป็นไอเดียจากสมชัย ส่งวัฒนา (คุณลิ้ม) ผู้ก่อตั้งแบรนด์แฟชั่น Flynow ที่ลงทุนเปลี่ยนพื้นที่ 11 ไร่ให้กลายเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงคนในวงการสร้างสรรค์ ดินแดนแห่งความสร้างสรรค์อันไร้ขีดจำกัด (Unlimited Creativity) เป็นพื้นที่ เปิดให้โอกาสให้คนรุ่นใหม่ที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ ทำมาหากิน ภายใต้ความหลงใหล แรงบันดาลใจ ความรู้ และงานศิลปะ
"Unlimited Creativity"
ช่างชุ่ยไปยังไง?
สำหรับการเดินทางไปช่างชุ่ย ด้วยความที่ค่อนข้างอยู่ไกลจึงเหมาะกับคนมีรถส่วนตัวมากที่สุดสำหรับคนที่อยู่ไกลจากที่นี่ ส่วนคนแถวนี้ก็สามารถใช้บริการวินมอเตอร์ไซค์ได้ รวมไปถึงรถเมล์ก็ไปถึงเช่นกัน โดยสามารถเข้าได้จากสองเส้นทาง คือถนนเลียบทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอก และถนนสิรินธร
รถสาธารณะ รถเมล์สาย ปอ. 515, ปอ. 539 ฝั่งโรงพยาบาลราชวิถี (ถ้าขึ้นจากอนุสาวรีย์) ลงป้ายทางเข้าบางกรวย
รถไฟฟ้า BTS นั่งรถไฟฟ้าลงที่ สถานีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิแล้วต่อรถเมลล์สาย ปอ. 515 หรือ 539
รถไฟ สถานีรถไฟบางบำหรุ สามารถขึ้นได้ที่ชุมทางรถไฟบางซื่อ
รถส่วนตัว ถนนสิรินธร แขวงบางพลัด เขตบางพลัด
ช่างชุ่ยเปิดวันไหนบ้าง?
เปิดทุกวัน เวลา 11.00 - 23.00 น.
แต่ร้านและคนจะเริ่มเดินกันคึกคักตอน 16.00 น.
ช่างชุ่ยมีอะไรบ้าง?
สำหรับพื้นที่แห่งการสร้างสรรค์อย่างช่างชุ่ย เรียกได้ว่าครบทุกความต้องการเลยที่เดียว ไม่ว่าจะเป็นแหล่งเรียนรู้ แหล่งทำงาน แหล่งชอปปิ้งและอาหาร รวมไปถึง การสร้างแรงบันดาลใจดีๆ ให้กับผู้มาเยือน โดยการออกแบบของแต่ละร้านในช่างชุ่ยนั้นตรงข้ามกับความหมายของชื่อนี้โดยสิ้นเชิง ทุกร้านเต็มไปด้วยการวางแผนเป็นอย่างดี เพียงเห็นก็รู้ถึงความใส่ใจของนักออกแบบ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกวัสดุแต่ละชิ้น การจัดวาง การแบ่งโซนต่างๆ เพื่อให้ตอบสนองคนใช้ได้ตรงใจมากที่สุด
- Art Gallery
- Theatre / Cinema
- Co-working Space
- Cafe&Restaurant
- Design Studio
- Exotic Garden
- Vintage Barber
- Private Museum
- Thailand Showcase
- Music Store
- Book Store
- Tea House
- Creative Shop
- Fashion
- Street food / Market
ช่างชุ่ยถือแนวคิด "NOTHING IS USELESS" ไม่มีอะไรไร้ค่า ถ้าใช้ความสร้างสรรค์ ภายใต้ความร่มรื่นอวลด้วยกลิ่นอายแห่งศิลปะ ช่างชุ่ยจะเน้นแนวคิดงานออกแบบที่หยิบจับวัสดุเก่ามาใช้ เช่น หน้าต่างไม้สัก กระจกเก่าบานยักษ์ของห้างสรรพสินค้า ขวดน้ำหอมแบรนด์ดังจากทั่วโลก ฯลฯ มาเรียงร้อยตกแต่งในมุมมองใหม่จนกลายเป็นงานศิลปะที่พร้อมสะกดทุกสายตา และใช้งานได้จริง
"เมื่อความคิดสร้างสรรค์ทำงาน ทุกสิ่งจะกลับมีคุณค่า"
ทุกตารางนิ้วของช่างชุ่ยเป็นจุดตัดของ ความสุข แรงบันดาลใจ และปัญญา
จุดเด่นที่สุดของที่นี่เป็น "นาโอ" ที่ล้อกับชื่อโนอา เครื่องบินลำยักษ์ที่ตระหง่านอยู่กลางสถานที่แห่งนี้เป็นเครื่องบินขนาด 55 เมตร เราต้องชำแหละออกมาประมาณสิบกว่าชิ้น ใช้รถบรรทุกประมาณ 18 คันขนแยกชิ้นส่วนมา เริ่มตั้งแต่เที่ยงคืนจากการท่าฯ มาถึงช่างชุ่ยเช้าพอดี ที่ยอมลำบากถึงขนาดนี้เพราะเชื่อว่าเป็นตัวแทนความฝันวัยเด็กของใครหลายๆ คน โดยเฉพาะเด็กผู้ชาย นี่จึงเป็นความภาคภูมิใจของทางช่างชุ่ยมากๆ
อีกโซนที่สะดุดตา คือหัวกระโหลกทองแดงขนาดยักษ์ ตั้งอยู่ใจกลางวงเวียน
ช่างชุ่ยมีร้านอาหารเด็ดๆ มากมาย โดยเฉพาะฟู้ดทรัคอย่าง Mother Trucker ร้านแฮมเบอเกอร์สุดฮิตตลอดการ ที่อัดแน่นไปด้วยเนื้อเน้นๆ กับขนมปังนุ่มๆ
นอกจากร้านอาหารอร่อยๆ หลายร้านแล้ว ยังมีร้านอื่นๆ อีกมากมายที่ให้เราเข้าไปค้นหา อย่างข้างบนนี่ก็เป็นแลปภาพถ่ายที่จะให้เราเรียนรู้การใช้ฟิล์มแบบยุคอนาล็อค
สถานที่นี้เหมาะกับการถ่ายรูปมากๆ ใครที่รักการถ่ายรูปต้องห้ามพลาดเลย เพราะไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็ถ่ายรูปสวยหมด มีมุมให้เลือกมากมาย โดยเฉพาะการถ่ายแนว Portrait แบบร็อคๆ ฮิปๆ
One Ounce For Onion เป็นทั้งร้านกาแฟและ Co-Working Space ที่คนมาช่างชุ่ยควรค่าแก่การแวะมานั่ง ซึ่งร้านนี้เกิดจากคุณฟ้า นิโรธา วีรธรรมพูลสวัสดิ์
"จะว่าไปจุดเริ่มต้นของการทำร้านกาแฟนี่ก็เพราะแฟนเก่าเราเขาชอบดื่มกาแฟมาก"
"ถ้าเหลือแค่เราเพียงคนเดียว เรายังจะอยากเปิดร้านกาแฟอยู่ไหม"
และฟ้าก็ได้คำตอบว่าชอบมัน กาแฟก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเธอไปแล้ว เธอติดใจในสุนทรียะของกาแฟอย่างหัวปักหัวปำ และนั่นทำให้เธอตัดสินใจเปิดร้าน โดยหุ้นกับเพื่อนอีกสองคนซึ่งหนึ่งในนั้นกำลังทำโรงคั่วกาแฟอยู่
ที่ช่างชุ่ย ร้านกาแฟของฟ้าจะมาในรูปแบบของการจับคู่กับร้านหนังสือ BOOKSMITH และร้านเครื่องเขียน Lamune ในอาคารที่มีชื่อว่า 'หย่อนญาณ' มันคือพื้นที่แห่งความรักและมิตรภาพ
Official Website : Changchui ช่างชุ่ย
88 the Terminal สิรินธร – ปิ่นเกล้า
คอนโด Mid-Rise 12 ชั้น เป็นส่วนที่พักอาศัย 278 ยูนิต ร้านค้า 19 ยูนิต
ราคาเริ่มต้น ประมาณ 1.48 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 4 กรกฎาคม 2560)
คอนโดใกล้สถานีรถไฟบางบำหรุ ซึ่งเป็นสถานี Hybrid คือมีรถไฟวิ่งสองระบบ
- ระบบรถไฟชานเมือง วิ่งลงใต้ได้
- ระบบเป็นรถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อน ตลิ่งชัน – บางซื่อ