รูปบทความ 1 ชั่วโมง 45 นาที ของ “Contagion”  หนัง “โรคระบาด” บอกอะไรเราบ้าง

1 ชั่วโมง 45 นาที ของ “Contagion” หนัง “โรคระบาด” บอกอะไรเราบ้าง


เชื่อว่าหลายคนในช่วงนี้กำลังนั่งย้อนกลับไปดูภาพยนตร์ Contagion กันเป็นจำนวนมาก เพราะการระบาดของโรคโควิด - 19 ที่กำลังเกิดขึ้นเเละเเพร่เชื่อกระจายออกไปทั่วทั้งโลกอย่างรวดเร็วเหมือนในหนังเรื่องนี้ไม่มีผิดเพี้ยน


Contagion ภาพยนตร์ที่ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 2011 ของผู้กำกับฝีมือดี สตีเว่น โซเดอเบิร์ก เเละเขียนบทภาพยนตร์โดย สก็อตต์ แซด. เบินส์ ที่บอกเล่าเรื่องราวการระบาดของโรคร้าย สร้างความสั่นสะเทือนอะไรต่อโลกบ้าง คล้ายว่าเป็นการเตือนภัยเเละทำนายเหตุการณ์ล่วงหน้าตั้งเเต่ 9 ปีที่เเล้ว ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่เราทุกคนทั่วทั้งโลกกำลังประสบในตอนนี้ เเละจะมีเหตุการณ์อะไรบ้างที่ไม่เกิดเเต่อาจเกิดขึ้นในไม่ช้า เเล้วเราควรปรับตัวพร้อมรับมือกับมันอย่างไรจากการถอดบทเรียนขอหนังเรื่อง

**ปล.เนื้อหาต่อจากนี้อาจมีเปิดเผยเนื้อหาบางส่วนในภาพยนตร์** 


ที่มา: https://www.pinterest.com/pin/543598617526149096/


ในวันที่ทุกอย่างดำเนินไปอย่างปกติ สีสัน เเละความร่าเริงตลอดทั้งวันเเละคืน กิจกรรมน้อยใหญ่ที่พบปะเเละสังสรร เหมือนว่ามันจะเป็นไปอย่างนั้น ไม่มีวันหายไป ไม่มีสัญญาณอะไรที่ส่งเสียงเตือนมาให้ต้องเตรียมมือรับกับสิ่งนี้ (โรคระบาด) นอกจากการเปลี่ยนเเปลงเเละปรวนเเปรของสภาพอากาศ Climate Change ไม่ว่าจะเป็น มหาอุทกภัย, สึนามิ ไฟป่า, ฝุ่นมรณะ PM 2.5 โดยที่ทุกคนไม่ได้นึกถึงเเละตระหนักถี่ถ้วนว่าอีกสิ่งหนึ่งที่มักมาพร้อมกับการกับปรวนเเปรของสภาพอากาศนี้ คือ เจ้าโรคไวรัสโควิค - 19 ที่ระบาดกระจายไปทั่วทุกมุมโลก อย่างที่ไม่มีใครได้คาดคิดว่ามันจะเกิดขึ้นจริง เเม้ว่าจะมีนิยายหรือภาพยนตร์ที่นำเสนอเกี่ยวกับเรื่องราววิกฤตของโลกหลายต่อหลายเรื่อง เเต่เราก็ไม่เคยตั้งคำถาม เตรียมความพร้อมที่จะรับมือกับมันอย่างจริงจัง เมื่อถึงเวลาที่มันเกิดขึ้นจริงที่ไม่ใช่โลกจำลอง


ภายในระยะเวลา 1 ชั่วโมง 45 นาทีของหนัง Contagion ได้เริ่มต้นเล่าเรื่องราวจากสถานการณ์ปกติอย่างเช่นทุกวันที่เคยเป็นมา มีเสียงหัวเราะ เฮฮา ปาร์ตี้ สังสรร เดินทางไปท่องเที่ยว ออกไปทำงานอย่างไม่มีทีท่าว่าจะเกิดอะไรขึ้น


ที่มา: https://www.pinterest.com/pin/719450109211584650/


จนกระทั่ง Day 2 เรื่องราวทั้งหมดก็เริ่มต้นขึ้น จากอาการป่วยที่เหมือนจะไม่มีอะไรของนักธุรกิจใหญ่คนหนึ่ง

เเละใน Day 4 เธอก็ได้เสียชีวิตลง ตามด้วยคนอื่นๆ เริ่มจากฝั่งเอเชียลามไปถึงฝั่งยุโรป เริ่มทยอยติดเชื้อเเละล้มตายอย่างฉับพลันโดยไม่ทราบสาเหตุ

Day 6 นักวิทยาศาสตร์เเละหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวกับสุขภาพเริ่มทำการวิเคราะห์ จนรู้ว่าอาการป่วยของโรคที่ติดต่อกันอย่างรวดเร็วเกิดจากการหยิบจับเเละสัมผัสใบหน้า โดยที่มือติดเชื้อไวรัสมาจากจุดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น จากเเก้วน้ำ ลูกบิดประตู ปุ่มกดลิฟต์ ราวจับบนรถสาธารณะ ซึ่งคนเราสัมผัสใบหน้าตัวเองราววันละ 2 - 3 พันครั้ง/วัน เเละ 3 - 5 ครั้งใน 1 วินาที จึงไม่เเปลกใจเลยว่าทำไมเชื้อไวรัสถึงเเพร่กระจายตัวได้อย่างรวดเร็ว

Day 7 มีการเริ่มสั่งการให้มีการกักตัว สั่งปิดสถานที่สาธารณะ รวมไปถึงการสั่งปิดโรงเรียนประถม เพื่อป้องกันจำนวนการติดเชื้อที่เพิ่มขึ้น


Day 14 เจ้าหน้าที่หน่วยงานด้านสุขภาพปฏิบัติหน้าที่จนติดเชื้อไวรัสเเละเสียชีวิตในที่สุด

Day 18 เกิดกระเเสข่าวปลอมขึ้น ว่ามีสิ่งหนึ่งช่วยรักษาอาการป่วยได้ ทำให้เกิดการเเย่งชิงเเละ “การจลาจลขึ้น” ใช้ความรุนเเรง มีการกักกันปิดชายเเดนอย่างเข้มงวด เมื่อไม่มีการทำงาน เพราะต้องกักตัวอยู่บ้าน เกิดสภาวะ “ขยะล้นเมือง” ต่อด้วยการรวมกลุ่มของประชาชนประท้วงต่อองค์กรภาครัฐเพื่อให้เร่งเเก้ไข เเละรับสิทธิ์ต่างๆ ที่ควรจะได้รับ เเละทางหน่อยงานภาครัฐที่รับผิดชอบเรื่องนี้ทำได้เพียงออกมาเเถลงการณ์เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อประชาชน ด้วยวิธีป้องกันการติดเชื้อไวรัสเบื้องต้นโดยการปฏิบัติ Social Distancing, ล้างมือบ่อยๆ เเละไม่สัมผัสใบหน้าโดยที่มือไม่สะอาด 


ที่มา: https://www.pinterest.com/pin/290482244719626941/


Day 21 หน่วยงานที่ทำการวิเคราะห์ไวรัส ค้นพบว่าไวรัสมีการกลายพันธ์ ทำให้การบริการสาธารณะทุกอย่างหยุดชะงัก ไม่ว่าจะเป็น ธนาคาร ห้างสรรพสินค้า สนามบิน ทุกอย่างยุติเเละอยู่ในบรรยากาศที่เงียบเชียบไม่มีการเคลื่อนไหวไร้ชีวิตชีวา

Day 26 อาหารสำเร็จรูป อาหารเเช่เเข็ง หมด! มีจำนวนไม่เพียงต่อความต้องการ นำไปสู่การจลาจลทำร้ายเจ้าหน้าที่ เพื่อให้ได้อาหารมาประทังชีวิตเเละบรรเทาความหิวโหย

Day 29 ค้นพบวัคซีนตัวเเรก เเต่ต้องทำการทดสอบกับคนเเละเฝ้าดูผลเป็นเวลากว่า 1 สัปดาห์ เเละอาจใช้เวลาเกือบ 1 ปีในการผลิตให้กับประชากรทั่วโลก

Day 131 ค้นพบวัคซีนได้สำเร็จ เเต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อจำนวนประชากร จึงต้องมีการสุ่มหมายเลขเพื่อรอการรับวัคซีน 


ที่มา: https://www.pinterest.com/pin/70579919148440016/


ซึ่งในหนังได้ค้นพบวัคซีน MEV_1 ต่อจาก H1N1 เเละ SARS ภายในระยะเวลา 3 เดือนกว่าๆ เเต่ในโลกเเห่งควมเป็นจริงเเล้ว ณ ตอนนี้เรายังไม่ค้นพบวัคซีนนั้น เเละภายในระยะที่เท่ากันนี้ เรายังพบจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อทั่วโลก (6 เม.ย. 2563) ราว 1,272,860 คน รักษาหาย 262,217 คน เเละเสียชีวิต 69,424 คน


Health is Wealth


เเละบทสรุปของภาพยนตร์เรื่องนี้ ได้เฉลยสาเหตุที่มาของการเกิดโรคระบาดนี้ ย้อนกลับไปวันที่ 1 ที่หนังไม่ได้เล่าเเต่ต้น นั้นก็คือ “การกิน” เเละ “ความสะอาด” ที่เราละเลยไป เพราะชะล่าใจเกินไป หนังเรื่องนี้เพียงต้องการจะบอกเราทุกคนว่าโรคระบาดสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ เเละสาเหตุของมันไม่ใช้สิ่งอื่นใด นอกเสียจาก “อาหารการกิน” ที่ถูกหลักอนามัย เเละเป็นอาหารที่ควรกิน ที่ถือเป็นด่านเเรกเเละง่ายที่สุดที่เราจะสามารถดูเเลตัวเองให้ห่างไกลจากโรคภัยได้ ที่สุดเเล้วนอกจากเรื่องปากท้องเเล้ว “การรุกล้ำธรรมชาติ” ที่ถือเป็นอีกหนึ่งสาเหตุใหญ่สำคัญที่ทำให้เกิดวิกฤตครั้งนี้เช่นกัน



เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร...?

Related Stories

Esto Talks

See All >

Living out loud

Living out loud : VANA RESIDENCE พระราม 9 - ศรีนครินทร์