ขสมก. เร่งดำเนินมาตรการ แก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ในรถโดยสารประจำทาง
29 January 2563
องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เร่งดำเนินการตามมาตรการลดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ในรถโดยสารประจำทาง โดยแบ่งมาตรการออกเป็น 2 ระยะ ได้แก่ ระยะเร่งด่วน และระยะยาว เพื่อบรรเทาสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก สูงเกินค่ามาตรฐาน ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล
นายประยูร ช่วยแก้ว รองผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถองค์การ (ขสมก.) เปิดเผยว่า ขณะนี้หลายพื้นที่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล กำลังเผชิญกับสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) สูงเกินค่ามาตรฐาน ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ขสมก. ไม่ได้นิ่งนอนใจ จึงกำหนดมาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองดังกล่าว โดยให้ทุกเขตการเดินรถถือปฏิบัติ เพื่อช่วยลดปริมาณการปล่อยฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) จากรถโดยสารเครื่องยนต์ดีเซล โดยแบ่งการดำเนินมาตรการออกเป็น 2 ระยะ ดังนี้
1. มาตรการระยะเร่งด่วน ประกอบด้วย
- การตรวจวัดควันดำรถโดยสารทุกรอบ ทุกเที่ยว ทุกคัน ก่อนนำรถออกวิ่งให้บริการประชาชน โดยห้ามมิให้รถที่มีค่าไอเสียเกิน 35% ออกวิ่งโดยเด็ดขาด หากตรวจพบจะส่งเข้าซ่อมบำรุงโดยทันที
- ขอความร่วมมือ ให้บริษัทเหมาซ่อมบำรุงรถโดยสาร ดำเนินการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง, หัวฉีด, ไส้กรองไอเสีย, ไส้กรองอากาศ และท่อพักไอเสีย รวมทั้งล้างทำความสะอาดท่อไอเสียของรถโดยสารทุกคันก่อนรอบปกติ เพื่อลดการปล่อยฝุ่นละอองจากท่อไอเสีย
- การเปลี่ยนมาใช้น้ำมันดีเซล B20 ในรถโดยสารธรรมดาและรถโดยสารปรับอากาศเครื่องยนต์ดีเซล จำนวน 2,075 คัน ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2562 จะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลง 15%, ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ 33%, ไฮโดรคาร์บอน 21% และลดฝุ่นละอองได้ 3.7% เมื่อเทียบกับการใช้น้ำมันดีเซลเดิม
- ล้างทำความสะอาดอู่จอดรถ และรถโดยสาร เพื่อชะล้างฝุ่นละออง
- มอบหน้ากากอนามัย N95 ให้กับพนักงานทุกคน เพื่อสวมใส่ขณะปฏิบัติหน้าที่หรือเดินทางมาทำงาน
2. มาตรการระยะยาว ขสมก. จะจัดหารถโดยสารใหม่ที่ใช้พลังงานเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มาให้บริการประชาชน เพื่อช่วยลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ ขอความร่วมมือประชาชนทุกท่าน ลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล โดยเปลี่ยนมาใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะในการเดินทาง ซึ่งนอกจากจะช่วยแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดแล้ว ยังช่วยลดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ได้อีกด้วย