ออริจิ้น เปิดตัวคอนโดแบรนด์ใหม่ "ดิ ออริจิ้น ราม 209 อินเตอร์เชนจ์" ในราคาเริ่ม 1.29 ล้านบาท เพื่อเป็นคอนโดสำหรับกลุ่มเพิ่งเริ่มทำงาน และคนที่กำลังมองหาคอนโดเป็นทรัพย์สินอันดับแรก พร้อมทั้งอยู่บนทำเล รามคำแหง-มีนบุรี และใกล้รถไฟฟ้าสายสีส้ม-ชมพู ที่ยังพัฒนาไปได้อีกไกล
โครงการ ดิ ออริจิ้น ราม 209 อินเตอร์เชนจ์ (The Origin Ram 209 Interchange) เป็นคอนโดที่ตั้งอยู่ในทำเลย่านรามคำแหง และอยู่ติดสถานีอินเตอร์เชนจ์มีนบุรี ที่เชื่อมรถไฟฟ้า 2 สาย คือ สายสีส้มตะวันออกและสายสีชมพู ซึ่งทำเลย่านรามคำแหง-มีนบุรี เป็นย่านที่ยังมีความต้องการที่อยู่อาศัยจริง และเป็นทำเลแห่งอนาคต ด้วยเหตุผลที่ว่ากำลังจะมีรถไฟฟ้าถึง 2 สาย ที่เชื่อมเข้าไปสู่แหล่งงานสำคัญอย่างอโศก-พระราม 9 และดอนเมือง-แจ้งวัฒนะ รวมไปถึงทำเลโดยรอบยังมีโรงพยาบาล ร้านอาหาร และแหล่งช้อปปิ้งรายล้อมอีกมาก แต่ในขณะเดียวกันคอนโดใหม่ในย่านนี้ก็ยังไม่มีเยอะมาก
ทั้งนี้โครงการ ดิ ออริจิ้น ราม 209 อินเตอร์เชนจ์ (The Origin Ram 209 Interchange) เป็นคอนโดที่อยู่บนพื้นที่ 4-87-0 ไร่ ประกอบไปด้วยคอนโดสูง 31 ชั้น จำนวน 1 อาคาร และอาคารจอดรถ 8 ชั้นอีก 1 อาคาร
ซึ่งพื้นที่ส่วนกลางภายในโครงการ ดิ ออริจิ้น ราม 209 อินเตอร์เชนจ์ เป็นพื้นที่สีเขียวที่มากถึง 3,000 ตร.ม. และยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ได้อย่างมากถึง 17 อย่าง ได้แก่ จ๊อกกิ้งแทร็ก , Street Basketball , Sky Garden , Sky Lounge , ฟิตเนส , สระว่ายน้ำ , Theatre Room , Game Room , Private Party Room และ Co-Working Space
ห้องขนาด 22 ตร.ม.
ห้องขนาด 30 ตร.ม.
ห้องขนาด 30 ตร.ม.
สำหรับห้องพักอาศัยของโครงการ ดิ ออริจิ้น ราม 209 อินเตอร์เชนจ์ (The Origin Ram 209 Interchange) จะประกอบไปด้วยห้องขนาดตั้งแต่ 22-34 ตร.ม. ที่ตกแต่งแบบ Fully Fitted พร้อมระบบ Home Automation ที่ช่วยอำนวยความสะดวกได้จากปลายนิ้ว
ทั้งนี้โครงการ ดิ ออริจิ้น ราม 209 อินเตอร์เชนจ์ จะเริ่มก่อสร้างในไตรมาส 4/2562 และคาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 4/2564 และในตอนนี้ทางโครงการได้เปิดให้ชมห้องตัวอย่างแล้วที่สำนักงานขายโครงการ ผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนล่วงหน้าเพื่อรับสิทธิ์ส่วนลดพิเศษเพิ่มเติมอีก 2 แสนบาทในการจองห้องวันพรีเซล 29 มิ.ย. ได้ที่ https://bit.ly/2N4bqoq หรือ โทร 020-300-000
อย่างไรก็ตาม ออริจิ้น ตั้งใจปั้นคอนโดแบรนด์ "ดิ ออริจิ้น" เพื่อให้เป็น Smart Product และมี Service Excellence ที่สามารถตอบโจทย์และแก้ Pain Point ของกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้ ด้วยการทำฟังก์ชั่นต่างๆในห้องและมีพื้นที่ส่วนกลางที่อำนวยความสะดวกได้ในทุกช่วงเวลาชีวิตในราคาที่เข้าถึงได้
เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร...?