อนันดาฯ มั่นใจศักยภาพการเงินแกร่ง เผยไตรมาส 3 กวาดยอดขายกว่า 2,400 ล้านบาท สิ้นไตรมาสตุนเงินสดกว่า 5,700 ล้านบาท พร้อมจ่ายคืนหุ้นกู้ตุลาคมนี้
7 October 2564
บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN ผู้นำแห่งวงการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับคนเมือง ครองตำแหน่งผู้นำตลาดคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้า มั่นใจศักยภาพการดำเนินงาน เผยไตรมาส 3 สามารถสร้างยอดขายกว่า 2,400 ล้านบาท เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ พร้อมยืนยันความแข็งแกร่งของฐานะทางการเงิน โดยสิ้นไตรมาส 3 มีกระแสเงินสดกว่า 5,700 ล้านบาท ระบุมีความพร้อมเพียงพอรองรับการชำระหนี้หุ้นกู้ตามกำหนดในเดือนตุลาคมนี้เนื่องจากมีการรักษาวินัยทางการเงินที่ดีอย่างต่อเนื่อง
คุณเสริมศักดิ์ ขวัญพ่วง ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN กล่าวว่า บริษัทฯ ยังคงเป้าครองตำแหน่งผู้นำในการพัฒนาที่อยู่อาศัยติดรถไฟฟ้าด้วยวิสัยทัศน์ที่คิดและทำเป็นรายแรกของเมืองไทยพร้อมเป็นองค์กรที่พัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง โดยในไตรมาส 3/2564 บริษัทมียอดขายกว่า 2,400 ล้านบาท และมียอดโอนรวมกว่า 1,770 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ทั้งในส่วนของโครงการคอนโดมิเนียม และโครงการแนวราบ เนื่องจากลูกค้าให้ความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ และจากการที่บริษัทมุ่งเน้นการขายโครงการพร้อมอยู่ที่มีความหลากหลาย ด้วยกลยุทธ์ทางการตลาดทั้งออนไลน์ และออฟไลน์ รองรับความต้องการของผู้ซื้อได้อย่างทั่วถึงทั้งผู้ซื้อในประเทศและต่างประเทศ
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีความพร้อมและความยืดหยุ่นในการปรับตัวเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา ทั้งในด้านการพัฒนาสินค้า การขาย และการตลาดใหม่ รวมถึงการปรับเปลี่ยนรูปแบบในการเข้าถึงลูกค้าได้เป็นอย่างดี แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิดก็ตาม ส่งผลให้ ณ สิ้นไตรมาส 3 มีเงินสดมากถึง 5,700 ล้านบาท ซึ่งทำให้บริษัทฯ มีความมั่นใจในความแข็งแกร่งด้านสภาพคล่องทางการเงินที่พร้อมต่อการชำระคืนหุ้นกู้ในเดือนตุลาคมนี้อย่างแน่นอน
นอกจากนี้ ในส่วนของ Backlog โครงการคอนโดมิเนียมที่บริษัทฯ มีอยู่กว่า 12,000 ล้านบาท ในไตรมาส 3 โดยเป็นโครงการพร้อมอยู่ราว 1,400 ล้านบาท ยังช่วยเสริมสร้างความมั่นใจในไตรมาสต่อไปให้สามารถโอนได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ และเสริมสร้างสภาพคล่องให้ยังคงแข็งแกร่งต่อไป นอกจากนี้ คาดว่าปัจจัยในเรื่องของการขยายตัวของการได้รับวัคซีนของประชาชนเพิ่มมากในไตรมาส 4 และสถานการณ์โควิดมีแนวโน้มที่ดีขึ้น จะช่วยกระตุ้นให้ผู้บริโภคมีความมั่นใจเริ่มกลับมาจับจ่ายใช้สอยกันได้มากขึ้นเช่นกัน