“แสนสิริ” กวาดยอดขายตลาดซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ ปิดการขายที่สุด 2 แฟล็กชิพไทย "98 Wireless และ บ้านแสนสิริ พัฒนาการ" ตัวจริงผู้นำการรังสรรค์รสนิยมตลาดไฮเอนด์ครองใจ HNWI มั่นใจดันยอดโอนตามเป้า 3.9 หมื่นลบ.
13 July 2563
o ประกาศความสำเร็จ เบอร์หนึ่งผู้พัฒนาโครงการแฟล็กชิพในตลาดอสังหาฯไทย ที่เข้าใจไลฟ์สไตล์และรสนิยมการอยู่อาศัยที่แท้จริง ตอบโจทย์เรียลดีมานด์กลุ่มซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ พร้อมซุ่มเตรียมพัฒนาโครงการใหม่ที่ถนนสารสิน
o ยืนหยัดตำแหน่งผู้นำที่ครองใจลูกค้าในทุกระดับเซ็กเมนท์ โดยนำแนวคิด ความใส่ใจในทุกรายละเอียด (Attention to details) ไปพัฒนาต่อในโครงการทุกระดับเซ็กเมนท์ เพื่อส่งมอบที่อยู่อาศัยที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้าอย่างตอบโจทย์
o ชี้ปัจจัยสำเร็จจาก 4 กลยุทธ์หัวหอก : ความเชื่อมั่นแบรนด์ ประสบการณ์ที่เชี่ยวชาญกว่า 36 ปี การพัฒนาโครงการอย่างเข้าใจและลงลึกทุกรายละเอียด (Attention to details) และการรวมพอร์ต Sansiri Luxury Collection คอลเล็กชั่นมาสเตอร์พีซที่อยู่อาศัยระดับเวิลด์คลาสและหายาก กับ 3 ปรัชญา Refined Taste, Uncompromising Quality และ Curated Service รวมมูลค่าโครงการกว่า 22,000 ลบ.
o บทพิสูจน์ความสำเร็จแบรนด์แข็งแกร่งและเข้าถึงลูกค้าในทุกระดับราคา สะท้อนแบรนด์ที่ลูกค้าไว้วางใจ เชื่อมั่นใน “แบรนด์อันดับหนึ่งของคนอยากมีบ้าน” มั่นใจดันยอดโอนรวมบริษัทฯ ตามเป้าที่ 39,000 ลบ.
อภิชาติ จูตระกูล ประธานอำนวยการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เผยว่า “แม้ในช่วงเวลาที่ท้าทาย แสนสิริ สร้างประวัติศาสตร์อีกครั้งแก่ตลาดอสังหาฯไทย ปิดการขาย 2 โครงการแฟล็กชิพระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่พร้อมกัน คือ 98 Wireless (ไนน์ตี้เอท ไวร์เลส) และ บ้านแสนสิริ พัฒนาการ รวมมูลค่ากว่า 12,000 ล้านบาท สะท้อนความสำเร็จจาก 4 ปัจจัย ซึ่งแตกต่างจากการพัฒนาโครงการซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ทั่วไป ได้แก่ ความเชื่อมั่นในแบรนด์แสนสิริ ของเรียลดีมานด์กลุ่ม High Net Worth Individuals (HNWI) ประสบการณ์ความเชี่ยวชาญกว่า 36 ปี ที่พัฒนาโครงการในทุกระดับเซ็กเมนท์ วิสัยทัศน์ภายใต้การพัฒนาโครงการอย่างเข้าใจและลงลึกทุกรายละเอียด (Attention to details) ความประณีตพิถีพิถันในการพัฒนาโครงการที่ดีที่สุด คัดสรรวัสดุคุณภาพทั้งภายในและภายนอกที่ตอบโจทย์รสนิยมการอยู่อาศัยลูกค้าระดับอัลตร้าลักซ์ชัวรี่ ผ่านดีไซน์เวิลด์คลาสที่คลาสสิกเหนือกาลเวลาไม่ว่าเวลาจะผ่านพ้นไป (timeless) และบริการเอ็กซ์คลูซีฟเหนือระดับ
กลยุทธ์การรวมพอร์ตฟอลิโอ Sansiri Luxury Collection คอลเล็กชั่นมาสเตอร์พีซที่อยู่อาศัยระดับลักซ์ชัวรี่และแฟล็กชิพซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ ที่หายากแก่การครอบครองและสร้างมูลค่าเหนือกาลเวลา รวมมูลค่าโครงการกว่า 22,000 ล้านบาท เพื่อยกระดับสู่การเป็นแบรนด์อสังหาฯ ลักซ์ชัวรี่ชั้นนำในตลาดต่างประเทศ (Global Luxury Brand) และตอกย้ำผู้นำตลาดอสังหาฯในไทยที่คุณภาพแบรนด์ทัดเทียมมหานครชั้นนำทั่วโลกในทุกด้านกับแนวคิดพัฒนาโครงการผ่าน 3 ปรัชญา Refined Taste ดีไซน์ชั้นเยี่ยมที่เปี่ยมด้วยรสนิยม, Uncompromising Quality ความพิถีพิถันในการคัดสรรวัสดุคุณภาพ เฟอร์นิเจอร์ ของประดับตกแต่ง และงานศิลปะจากทั่วมุมโลก และ Curated Service มอบบริการผ่านประสบการณ์ที่ยิ่งกว่าความเอ็กซ์คลูซีฟ ซึ่งล้วนเป็นบทพิสูจน์สำคัญที่ทำให้แสนสิริ ได้รับการยอมรับและความเชื่อมั่นจากลูกค้าในทุกระดับเซ็กเมนท์ทั้งชาวไทยและต่างชาติ ทยอยปิดการขายโครงการอย่างต่อเนื่องทั้งแนวราบและแนวสูง ด้วยยอดขายสูงสุดครึ่งปีแรกที่ 22,000 ล้านบาท หรือ 63% จากเป้าหมายยอดขายล่าสุด 35,000 ล้านบาท”
ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา แสนสิริ ปิดการขายโครงการที่อยู่อาศัยในกลุ่มเซ็กเมนท์ลักซ์ชัวรี่ไปแล้วทั้งหมด 6 โครงการ รวมมูลค่าโครงการทั้งสิ้น 23,200 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการภายใต้พอร์ต Sansiri Luxury Collection 3 โครงการ คือ 98 Wireless แฟล็กชิพคอนโดมิเนียมซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ บ้านแสนสิริ พัฒนาการ แฟล็กชิพบ้านเดี่ยวระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ เดอะ โมนูเมนต์ ทองหล่อ ลักซ์ชัวรี่คอนโดมิเนียมใจกลางย่านทองหล่อ และโครงการลักซ์ชัวรี่แนวราบ ได้แก่ ไทเกอร์ เลน ลักซ์ชัวรี่โฮมออฟฟิศบนที่สุดของทำเลทอง ไพร์มโลเคชั่นตำแหน่งฮวงจุ้ยท้องมังกร ที่หายากใจกลางย่านเสือป่า เยาวราช นาราสิริ บางนา และ นาราสิริ พุทธมณฑล สาย 1
ผลสำรวจจากพลัส พร็อพเพอร์ตี้ ภาพรวมตลาดอสังหาฯซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่และลักซ์ชัวรี่ในกรุงเทพฯ ช่วงครึ่งหลังปี 2562 พบว่า กลุ่มคอนโดมิเนียม มีอัตราผลตอบแทนการลงทุนเฉลี่ย (ROI) สูงถึง 7-10% โดยเฉพาะโซน CBD ย่านศูนย์รวมธุรกิจอย่างถนนวิทยุ และมีอัตราการดูดซับ (Absorption Rate) เฉลี่ย 0.4 – 6.0 ยูนิตต่อโครงการต่อเดือน (ปี 2560-2562) โดยการดูดซับที่สูงดังกล่าวในปี 2560 เกิดจากการเปิดตัวของโครงการ 98 Wireless ในขณะเดียวกัน ตลาดบ้านเดี่ยวระดับบนมีการเติบโตอย่างน่าสนใจ กลุ่มบ้านเดี่ยว มีอัตราดูดซับเฉลี่ย (Absorption Rate) 0.14 – 1.08 ยูนิตต่อโครงการต่อเดือน (ปี 2559 -2562) โดยอัตราดูดซับเฉลี่ยที่สูงถึง 1.08 ยูนิตต่อโครงการต่อเดือนนั้น เป็นผลจากการเปิดตัวโครงการบ้านแสนสิริ พัฒนาการ ในช่วงครึ่งแรกปี 2561 ในขณะที่ ปี 2562 มีซัพพลายจากการพัฒนาโครงการในกลุ่มลักซ์ชัวรี่นี้ เพิ่มขึ้นถึงประมาณ 43% จากปีก่อนหน้า รวมทั้งมีดีมานด์ให้การตอบรับสูงถึง 58% ในปี 2562
“การพัฒนาโครงการระดับแฟล็กชิพให้ประสบความสำเร็จนั้นเป็นความท้าทาย ทุกความงดงามและความปราณีตบรรจงที่ได้สัมผัส มาจากกระบวนการคิดอันแยบยล ทั้งเรื่องทำเล ความเอ็กซ์คลูซีฟ ความหายากการดีไซน์ รวมทั้งสังคมแวดล้อมในโครงการและบริเวณโดยรอบ สร้างความภาคภูมิใจแก่ผู้ครอบครอง ตลอดจนมูลค่าที่เพิ่มขึ้นส่งต่อให้ลูกหลานจากรุ่นสู่รุ่น แน่นอนว่าเราไม่หยุดนิ่งที่จะสร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่ของการอยู่อาศัยซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่อีกครั้ง แก่ประเทศไทยกับการพัฒนาโครงการต่อไปที่ถนนสารสิน สุดยอดทำเลใจกลางกรุงเทพฯ”
โครงการ “98 Wireless” (ไนน์ตี้เอท ไวร์เลส) แฟล็กชิพคอนโดมิเนียมซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ ลำดับที่ 3 ของแสนสิริ มูลค่าโครงการ 8,700 ล้านบาท เพียงแค่ 77 เจ้าของที่ได้ครองกรรมสิทธิ์บนที่ดินฟรีโฮลด์ผืนสุดท้ายของถนนวิทยุ ใช้เวลาในการพัฒนากว่า 7 ปี ภายใต้ปรัชญา “The Best Comes as Standard” ผสมผสานผลงานอันงดงามของงานดีไซน์ชั้นเลิศและงานคราฟท์ฝีมืออันประณีตระดับโลก ตั้งแต่เอกลักษณ์ความคลาสสิกในศิลปะโบซาร์ (Beaux-arts) การร่วมมือกับ Anne Carson Interiors อินทีเรียดีไซเนอร์ชื่อดังจากนิวยอร์ก ตกแต่งให้กับส่วนกลางทั้งหมดของโครงการในสไตล์คลาสสิกร่วมสมัย ตลอดจนบริการที่ตอบโจทย์ซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ไลฟ์สไตล์อย่างสมบูรณ์แบบ อาทิ Quintessentially ผู้ช่วยด้านไลฟ์สไตล์ระดับโลก รถลิมูซีนประจำโครงการโดยเฉพาะอย่าง ‘เบนท์ลี่ย์’ นวัตกรรมยานยนต์สั่งผลิตพิเศษ ปัจจุบัน 98Wireless เป็นที่ Talk of Town อย่างมากจากหลากหลายสื่อชั้นนำในประเทศไทยและระดับโลก ให้เป็นคอนโดฯที่มีราคาเฉลี่ยต่อตร.ม. ทั้งโครงการสูงสุดในประเทศไทยถึง 600,000 บาท และมีราคาขายสูงสุดเกือบ 900,000 บาทต่อตร.ม. ราคาขายต่อ capital gain สูงสุดถึง 40% จากราคาเริ่มต้น ตลอดจนเป็นโครงการที่อยู่อาศัยที่ดีที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยความเป็นเลิศด้านงานดีไซน์เวิลด์คลาส สถาปัตยกรรมที่คลาสสิก การคัดสรรวัสดุและการตกแต่งทั้งภายนอกและภายในอาคารที่ดีที่สุดและพิถีพิถันที่สุดจากทั่วโลก ตลอดจนบริการเอ็กซ์คลูซีฟในหลายรูปแบบเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ในแบบซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่อย่างแท้จริง
อีกหนึ่งความสำเร็จของตลาดซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่บ้านเดี่ยวที่ปิดการขายล่าสุด“บ้านแสนสิริ พัฒนาการ” โครงการแฟล็กชิพบ้านเดี่ยวระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่ของไทย ลำดับที่ 4 ของแสนสิริ หนึ่งเดียวบนที่ดินผืนงามย่านพัฒนาการ มูลค่าโครงการกว่า 3,000 ล้านบาท เอ็กซ์คลูซีฟเพียง 36 หลัง โดดเด่นด้วยแรงบันดาลใจการออกแบบสไตล์ ‘Regency’ ในทุกบริบทอันทรงคุณค่าในแบบฉบับอังกฤษ คัดสรรวัสดุคุณภาพจากแบรนด์ระดับโลกที่สะท้อนรสนิยมการใช้ชีวิตจากความเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงความเหนือระดับ ผสานกับการออกแบบพื้นที่ภายในบ้านอย่างชาญฉลาดทำให้เกิดฟังก์ชั่นพิเศษมากมายที่ยากจะพบในบ้านเดี่ยวระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรี่การคัดสรรวัสดุคุณภาพระดับโลก พร้อมบริการจาก Quintessentially และ Plus Concierge สะท้อนรสนิยมในทุกมิติของความสง่างามร่วมสมัย มอบประสบการณ์แห่งการพักอาศัยที่สมบูรณ์แบบในทุกเจเนอเรชั่นของครอบครัว ตลอดจนความร่วมมือกับดีไซเนอร์ระดับโลกชาวอังกฤษ “แมรี่ ฟ็อกซ์ ลินตัน” (Mary Fox Linton) ที่ฝากผลงานสร้างชื่อและคร่ำหวอดในวงการออกแบบตกแต่งภายในในฐานะดีไซน์เนอร์ผู้มีวิสัยทัศน์มานานกว่า 60 ปี ยกระดับประสบการณ์การอยู่อาศัยโครงการบ้านเดี่ยว โดยตกแต่งยูนิตพิเศษหลังสุดท้ายก่อนปิดการขายโครงการอย่างเป็นทางการ ถ่ายทอดแรงบันดาลใจในแบบฉบับความเป็นบริติชเลกาซี่ (British legacy)
“แสนสิริ มุ่งมั่นสานต่อความเป็นผู้นำที่ครองใจลูกค้าในทุกระดับเซ็กเมนท์อย่างไม่หยุดยั้ง โดยจะยึดมั่นในปรัชญาแนวคิด ความใส่ใจในทุกรายละเอียด (Attention to details) เพื่อพัฒนาต่อไปในทุกระดับโครงการ และทุกเซ็กเมนท์ด้วยการส่งมอบที่อยู่อาศัยดีที่สุดสำหรับลูกค้าได้อย่างตอบโจทย์และเข้าถึง พร้อมเดินหน้าสู่ยอดโอนตามเป้าหมายที่วางไว้ 39,000 ล้านบาท” อภิชาติ กล่าวสรุป